เมื่ออ่าน ‘ความจริงไม่ได้มีหนึ่งเดียว’ของคุณนิ้วกลมจบ เรารู้สึกว่าเรา “หายบ้า” 🙂
ขอให้นิยามคำว่า “บ้า” ที่พูดถึงกันก่อนนะคะ บ้าในที่นี้เราหมายถึงความคลั่งหรืออินกับเรื่องหลายๆเรื่องที่อาจจะมากเกินความพอดี ซึ่งในกรณีของเราน่าจะเป็นความบ้าในกระแสโลกยุคนี้ คือ บ้าความสำเร็จ บ้าความ Productive บ้าความ Perfect บ้าการพัฒนาตัวเอง ซึ่งพออ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเหมือนถูกดึงขึ้นมาให้เห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นของชีวิต และ ปล่อยวางความยึดติดบ้าๆหลายอย่างได้มากขึ้น เราเพิ่งได้หนังสือเล่มนี้มาเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ใช้เวลาอ่านไม่กี่วันจบเลย เรามองว่าเป็นหนังสือปิดท้ายปี 2021 ที่ดีมากทั้งเนื้อหาและความทันสมัยของภาษาและการร้อยเรียง วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกเลยอยากมารีวิวหนังสือดีมากๆเล่มนี้ให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ 🙂
เล่มนี้ว่าด้วยเรื่องของความจริงว่าหลายๆอย่างที่เราเข้าใจว่าจริง อาจจะไม่เป็นจริงอย่างนั้นก็ได้ หรือ อาจจะจริงสำหรับเรา แต่อาจจะไม่จริงสำหรับคนอื่นก็ได้ หนังสือเล่มนี้ร้อยเรียงและแบ่งเนื้อหาออกมาเป็นหลายส่วน เริ่มตั้งแต่ว่าระดับเซลล์ว่าคนเราแตกต่างกันและมีความจริงคนละชุดกันได้อย่างไร ไปจนกระทั่งถึงระดับจิตวิญญาณที่เทียบมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆในโลก ประเด็นดีๆ ในหนังสือเล่มนี้มีเยอะมาก ยากที่จะสรุปออกมาให้ครบถ้วน แต่จะขอยกตัวอย่างประเด็นที่เรามองว่าน่าสนใจมาแบ่งปันกันค่ะ
ในระดับเซลล์ ถ้าใครเคยอ่าน Pleased to meet me จะพอทราบว่า จริงๆแล้วเราไม่สามารถเลือกชีวิตตัวเองได้ขนาดนั้น เช่น ใครจะชอบกินเผ็ด กินบรอคโคลี คออ่อน อนุรักษ์นิยม (Conservative) หรือ เสรีนิยม (Liberal) ความเชื่อที่ว่ามนุษย์เราจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็นถ้ามีความตั้งใจมากพอ ถ้ามองในมุมวิทยาศาสตร์อาจจะไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด เพราะนิสัยและความสามารถหลายๆอย่างมันถูกบันทึกลงมาในยีนส์ตั้งแต่เกิดแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่เห็นใครที่ทำอะไรต่างจากเรา ก่อนจะไปตัดสิน อยากให้เริ่มที่ความเข้าใจว่าคนเราแตกต่างกันก่อน
เมื่อเข้าใจในจุดนี้แล้ว ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าเป็นธรรมดาที่เมื่อเห็นคนที่แตกต่างจากเราหรือพรรคพวกของเรา เราอาจจะคิดว่าคนอื่นๆผิดปกติหรือ “ไม่ดี” แต่ ความดีก็อยู่ที่ไม้บรรทัดของแต่ละคน แต่ละสังคมอีกเช่นกัน ย้อนมองกลับไปการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสมัยสงครามศาสนา และ สงครามโลกเป็นเรื่องที่รับได้ในยุคสมัยนั้น แต่กลับกลายเป็นเรื่องผิดศีลธรรมในยุคนี้ หรือ การรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดมากในยุคก่อน แต่เป็นเรื่องธรรมดาในยุคนี้ เพราะฉะนั้นแล้วต่อให้เป็นเรื่องที่ชัดเจนแค่ไหนก็ไม่มีไม้บรรทัดที่สมบูรณ์แบบ มีเพียงแค่ กฎการอยู่ร่วมกันที่ทำให้สังคมเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นแทนที่จะตัดสินไม้บรรทัดคนอื่น หาไม้บรรทัดร่วมกันที่ทำให้สังคมสงบสุขน่าเป็นประโยชน์มากกว่า
เมื่อมองในภาพใหญ่ขึ้น ส่วนที่เราประทับใจเป็นพิเศษคือในส่วนที่ไม่ได้มองความจริงในฐานะมนุษย์มองมนุษย์เท่านั้น แต่ให้มองในฐานะที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตสปีชีส์นึงในโลก เหมือนปลาวาฬ ต้นไม้ เห็ด และ เชื้อรา ที่มีหน้าที่ต่างๆกันไปในระบบนิเวศ การที่สปีชีส์ของเราเติบโตเร็วมากทางจำนวนในยุคที่ผ่านมาหลายร้อยปี โดยอ้างว่าเพราะเราเป็นสัตว์ประเสริฐนั้น โดยอ้างสิ่งที่เราสร้างมาเช่น วัฒนธรรม ภาษา หรือ ความฉลาด แต่ทว่า ปลาวาฬก็มีวัฒนธรรม มีกฎการอยู่ร่วมกัน มีวิธีการสื่อสาร และ เพลงฮิตประจำกลุ่มเหมือนพวกเรา ต้นไม้ก็มีการสื่อสาร ช่วยเหลือ เกื้อกูล เตือนภัย เหมือนเวลาที่มนุษย์เราเตือนกันเวลามีอันตราย และอีกหลายๆตัวอย่างที่ชวนคิดว่า มนุษย์เรา “ประเสริฐ” กว่าสัตว์ชนิดอื่นจริงๆหรือ? มนุษย์เรา “สำคัญ” ขนาดนั้นจริงๆหรือ?
พอได้ลองมาคิดดูจริงๆแล้ว เราก็ค้นพบว่ามนุษย์เราอาจจะภูมิใจในสปีชีส์ตัวเองไปหน่อย อาจจะลืมไปว่าเราไม่ได้ครองโลกนี้อยู่ ยังมีสิ่งมีชีวิตและวัตถุอีกมากมายที่อยู่ในโลกนี้เหมือนๆกับเรา และไม่ได้มีความสำคัญน้อยไปกว่าเราเลย ก่อนที่จะมีมนุษย์โลกก็ยังอยู่มาได้ และเราเชื่อว่าต่อให้มนุษย์สูญพันธุ์ไป โลกก็ยังอยู่ได้อยู่ดี
กลับมาที่เรื่อง “หายบ้า” ที่เกริ่นไว้ตอนแรก เราเองก็เป็นคนที่รู้สึกชีวิตต้องมีเป้าหมาย ต้องทำมากขึ้น ดีขึ้น รวยขึ้น ฯลฯ โดยเฉพาะในช่วง COVID-19 ที่มีหลายเรื่อยที่ต้องคิดและจัดการ ซึ่งแนวคิดนี้มันมาจากการที่เชื่อว่า “มนุษย์สำคัญ เราสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มาก และ สปีชีส์ของเรา (อาจจะสปีชีส์เดียว) ที่สร้างความสำคัญได้ขนาดนี้” ทำให้เราต้องวิ่งไล่ตามเป้าหมายต่างๆที่มนุษย์เรากันเองนี่แหละสร้างขึ้นเพราะเชื่อว่าเรายิ่งใหญ่ แต่ในบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าคนเราสามารถใช้ชีวิตไปเรื่อยๆได้นี่นา เพราะเราเองก็เหมือนเห็ด เหมือนต้นไม้ เหมือนปลาวาฬที่มีหน้าที่แตกต่างกันไป สามารถมีความสุขรายวันได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย หรือ ภูมิใจในหน้าตาตัวเองได้ถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่าสวยกว่านี้ได้อีก
ตอนเราอ่านหนังสือเล่มนี้ เราตั้งใจที่จะอ่านเพื่อรับรู้มุมมองที่ “แตกต่าง” ของ “คนอื่น” แต่พออ่านจบ เรากลับได้รู้จักมุมที่ “แตกต่าง” ของ “ตัวเอง” แทนว่าพอเราปล่อยวางจากความรู้สึกที่เราต้อง “ยิ่งใหญ่” มาเป็นภาพที่เราเป็นเพียงตัวเล็กจิ๋ว แทบจะเป็นฝุ่นของระบบนิเวศ กลับทำให้เรารู้สึกคลายใจขึ้นได้อย่างประหลาด และรู้สึกว่าปัญหาที่รุมเร้าอยู่เล็กลงทันที เป็นหนังสืออีกเล่มของคุณนิ้วกลมที่เราชอบ ถ้าใครอยากเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความรู้สึก “หายบ้า” เหมือนเรา แนะนำให้ลองอ่านเล่มนี้ดูนะคะ 🙂
Favourite Quote: หากชีวิตคือความสนุก เป้าหมายย่อมเป็นมายา (หน้า 409)
#roundfinger2021
สั่งซื้อหนังสือได้ที่ LINE : @roundfinger https://lin.ee/YQ435Yk
ในเพจ @roundfinger หรือ @koobbooks
ป.ล. มีเล่มที่มาด้วยกันในเซตอีกเล่มชื่อ “Have a nice life” ตอนนี้อยู่ในคิวรออ่าน ถ้าใครอ่านจบแล้วมาแบ่งปันกันได้นะคะ 😃
ชื่อหนังสือ: ความจริงไม่ได้มีหนึ่งเดียว
นักเขียน: นิ้วกลม
จำนวนหน้า: 451
ราคา: 395 บาท
สำนักพิมพ์: KOOB
Overall: 9/10
Score Explanation
Writing Style: 9/10 เรื่องภาษาของคุณนิ้วกลมไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว ประทับใจการเลือกใช้คำ การร้อยเรียง และ ความสละสลวย อ่านเพลินมากเลยค่ะ นั่งอ่านแป๊บเดียวก็จบเล่มแล้ว
Time worthiness: 9/10 เนื้อหาอาจจะยาวซักหน่อยแต่ค่อนข้างเข้มข้น มีตัวอย่างประกอบเยอะมาก เป็นแนว Factual มากกว่า Opinion ซึ่งเป็นสไตล์ที่ถนัดเลยชอบมาเป็นพิเศษ
Content Usefulness: 9/10 อยากให้ทุกคนได้อ่านเพราะเราเชื่อว่าการเข้าใจว่าความจริงมันไม่ได้มีหนึ่งเดียวมีประโยชน์มากในการเข้าใจตัวเองและผู้อื่น
ถ้าใครชอบ Content แบบนี้สามารถเลือกติดตามได้ตามความสนใจดังนี้ค่า
> ชอบอ่าน: https://www.facebook.com/alphabetsreview
> ชอบเรียนรู้ : https://www.facebook.com/reviewlearnings
> ชอบลงทุน: https://www.facebook.com/tradeeveryth
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
