หมดยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก มีแต่ปลาเร็วกินปลาช้า !?
ในสมัยก่อนเวลาที่คุณคิดอยากจะทำธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ที่มีรายใหญ่ทำอยู่แล้ว คุณมักจะคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จยาก และไม่สามารถสู้รายใหญ่ได้
.
และทุกครั้งก็จะนึกถึงคำคำหนึ่งนั่นก็คือ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แล้วสมัยนี้ยังถือคติปลาใหญ่กินปลาเล็กแบบนี้ได้อยู่อีกไหม หรือมีคำใดที่มาเปลี่ยนแปลงคำนี้ไปแล้ว
วันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง
.
ต้องยอมรับเลยว่าในสมัยนี้ กระแสความอยากเป็นผู้ประกอบการ การเป็นนายตัวเอง หรือการอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองมาแรงมากๆ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าคนจะมีความพยายาม กระตือรือร้นมากขึ้น แต่หลายๆครั้ง คนมักจะเลือกทำธุรกิจที่มีธุรกิจใหญ่ทำอยู่แล้ว ไม่ใช่ธุรกิจที่แปลกใหม่ไปจากเดิม จึงมักจะถูกมองว่าประสบความสำเร็จได้ยาก เพราะมีรายใหญ่ทำอยู่ก่อนหน้าแล้ว หรืออีกคำหนึ่งก็คือ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
.
แต่เมื่อเกิดวิกฤตอย่าง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าแม้จะเป็นธุรกิจรายใหญ่ก็ล้มได้เหมือนกันนั่นจึงเป็นตัวช่วยยืนยันว่าปลาใหญ่กินปลาเล็กไม่สามารถใช้ได้กับทุกธุรกิจถ้าธุรกิจที่มีอยู่แล้วและยังเป็นรายใหญ่แต่ไม่มีแผนการรับมือกับสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ล้มได้เหมือนกัน
.
นอกจากนี้ยังทำให้เห็นว่าธุรกิจรายเล็กที่มีการปรับตัวได้เร็ว คล่องตัวกว่า สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งยิ่งทำลายกำแพงความเชื่อเดิมที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ถูกเปลี่ยนมาเป็น ปลาเร็วกินปลาช้า อย่าลืมว่าโครงสร้างองค์กรที่ใหญ่ ยิ่งทำให้สภาพคล่องในการบริหารลดลง เพราะต้องผ่านกระบวนการมากมายกว่าจะตัดสินใจได้ แต่ถ้าเป็น SME รายย่อยการตัดสินใจจะเร็วกว่าและคล่องกว่า
.
เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคุณคิดจะลงมือทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ต่อให้มีรายใหญ่ทำอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ปรับตัวได้รวดเร็วตามทุกสถานการณ์ และยิ่งคิดต่อยอดไปถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นไปอีก โอกาสที่คุณจะสามารถเอาชนะรายใหญ่ได้ก็จะสูงตาม
.
แต่ถ้าเกิดคุณยังคิด แต่ไม่ลงมือทำสักที จนมันเลยเวลาที่เหมาะสมคุณอาจจะพลาดโอกาสนี้ไปก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วจงใช้ความได้เปรียบในความรวดเร็ว เพื่อเอาชนะคู่แข่งธุรกิจ
.
#NopPongsatorn #อายุน้อยร้อยล้าน #ธุรกิจ #นักธุรกิจ
#SME #StartUp
#พัฒนาตัวเอง #ข้อคิดธุรกิจ #ปรับตัวธุรกิจ
#ปลาเร็วกินปลาช้า
.
ที่มาของข้อมูล
-bangkokbiz
-torbenrick (รูป)
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
