26 ธ.ค. 2021 เวลา 02:04 • ความคิดเห็น
หลักในการลงโทษเขาไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงให้คนทำผิดหลาบจำหรือป้องปรามคนอื่นไม่ให้กระทำความผิด..นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ความสำคัญมาก ๆ อยู่ที่..การเอาคนที่เป็นอันตรายต่อคนอื่นหรือต่อสังคมส่วนรวมไปเก็บไว้ในที่ที่จะทำให้คนหรือสังคมปลอดภัยในในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ประเด็นน่าคิดจึงอยู่ที่ คุกในปัจจุบันผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องโทษคดียาเสพติด คำถามที่น่าสนใจคือถ้ายาเสพติดบางตัวที่มันไม่อันตรายมากหรือสามารถแก้กฏหมายที่ทำให้มันไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไปจะดีต่อสังคมส่วนรวมมากกว่าไหม
เช่นปัจจุบันกระท่อมนี่หลุดไปแล้ว ใครมีครอบครอง เสพหรือจำหน่ายไม่ต้องถูกจับกุมคุมขัง อีกสักหน่อยกัญชาคงตามมา นี่จะทำให้คดียาสพติดลดน้อยลงแน่นอน
ถ้าจะลดจำนวนผู้ต้องขังจริง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมก็ต้องเป็นยาบ้า(แอมเฟตามีน) ถ้าเราคิดใหม่กลับด้านเลยให้องค์ดารเภสัชผลิตขายในราคาที่ถูกกว่าในท้องตลาด ขบวนการผู้ค้ายาบ้าจะถูกทลายลงอย่างสิ้นเชิง แล้วเรามาเข้มงวดเพียงเอาผิดผู้เสพเกินขนาดจนน่าจะเป็นอันตรายต่อสังคม โดยลงโทษแค่ปรับหรือนำตัวไปบำบัดรักษา(เคยได้ยินหลักการว่าผู้เสพคือเหยื่อ)
รัฐไทยกล้าทำแบบนี้คุกทั่วประเทศจะมีผู้ต้องขังลดลงอย่างสำคัญ เะราะผู้ต้องขังจำนวนมากคือคดีค้ายา ผลดีมากอีกอย่างคือขบวนการค้ายาจะหายไปเพราะแข่งขันกับยาบ้าที่ถูกต้องตามกฏหมายไม่ได้ การป้องกันคนไม่ให้เสพยาก็ไปใช้วิธีการให้ความรู้เขาแทน
ใช้วิธีการนี้กับนักโทษการเมือง..คือให้เสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง
วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ใช่ของแปลกอะไร เขาทำกันในประเทศที่พัฒนาแล้ว ตัวอย่างที่ดีก็ลองหาอ่านดูเรื่องแบบนี้ในประเทศเนเธอร์แลนด์ว่าเขาทำกันอย่างไร อย่าคิดนะว่าคนเขาจะเสพยากันทั้งเมืองเพราะมันไม่เป็นแบบนั้น
โฆษณา