พิมรี่พายถึงจุดสูงสุดแล้วกำลังถดถอยลงหรือไม่แล้วจะทำอย่างไรหากเป็นเช่นนี้จริง
ณ ช่วงเวลานี้ในวงการไลฟ์สดขายสินค้าผ่าน Facebook คงไม่มีใครจะดังหรือขายได้มากกว่า “พิมรี่พาย” แล้ว ทำเงิน 200 ล้านบาทในการขายกล่องสุ่ม ทั้งกล่องละ 100,000 และ 10,000 บาท รวมระยะเวลาไม่ถึง 15 นาที ใต้ฟ้าปฐพีประเทศไทย คงต้องรออีกนานกว่ากว่าจะพบแบบนี้อีกครั้ง
คำถามที่ว่าพิมรี่พายถึงจุดสูงสุดแล้วยัง? หากใช้ความรู้สึกตอบก็จะมีความเห็นแตกต่างกันไป แต่หากเรานำวงจรชีวิตของสินค้าหรือธุรกิจมาเป็นเกณฑ์ในการวัด (Product Life Cycle) เราจะพบว่าพิมรี่พายได้ถึงจะจุดสูงสุดแล้ว ที่หากไม่ทำอะไรที่ใหม่เพิ่มดันธุรกิจให้กลับขึ้นไป พิมรี่พายอาจจะต้องกลายเป็นตำนานเหมือนโกดักและโนเกีย
มาดูกันว่าเหตุผลอะไรที่นำมาเป็นเกณฑ์วัดว่าถึงจุดสูงสุดและกำลังจะถดถอย ใช้เกณฑ์อะไรในการวัด (แบบง่าย ๆ)
-ช่วงเข้าสู่ตลาด (Introduction) เป็นช่วงที่ลงทุนสูงแต่ขายได้น้อย ผู้คนยังไม่รู้จักและยังไม่เชื่อมั่น ต้องลงทุนในการสร้างความเชื่อถือของลูกค้า ช่วงนี้ยังไม่สามารถทำกำไรได้
-ช่วงเติบโต (Growth) วัดผลได้ง่าย ๆคืออัตราการเติบโตของธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยอดขายและกำไร
-ช่วงคงที่หรืออิ่มตัว (Maturity) ยอดขายจะเติบโตช้าๆ มีคู่แข่งเริ่มพัฒนาเข้ามาใกล้ทุกที กำไรต่อหน่วยคงที่ หรือยอดขายเติบโตแต่กำไรน้อยลง ช่วงนี้ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของธุรกิจ ที่คนที่ทำธุรกิจต้องคอยจับตามมองและหาทางออกใหม่แต่เนิ่น ๆ หรือที่เรียกว่าการทำ S-Curve หรือ Product Extension เพื่อไม่ให้ธุรกิจไปอยู่ในช่วงถดถอย
Source: SlideTeam
-ช่วงถดถอย (Decline) วัดผลแบบง่ายๆ คือยอดขายลดลงกำไรลดลง ลูกค้าเริ่มหันไปหาคู่แข่งมากขึ้น
ธุรกิจของพิมรี่พาย เมื่อนำเกณฑ์ข้างต้นมาวัดผล เห็นได้ชัดว่าอยู่ในช่วงสูงสุดที่กำลังจะรอวันตก จากการสัมภาษณ์ของเธอในรายการหนึ่ง เธอบอกว่าขาดทุนไปหลายสิบ (ล้าน) เลย แม้ว่าจะทำรายได้ถึง 200 ล้าน และตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่า พิมรี่พายต้องเผชิญกับปัญหารอบด้านโดยเฉพาะด้านกฎหมายที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอีกหลายคดี
การที่พิมรี่พายประกาศผ่าน Facebook พิมรี่พายขายทุกอย่าง ในวันที่ 25 ธันวาคม 64 เวลา 11.19 น. ที่มีข้อความบางส่วนบอกว่า “ จะพักการไลฟ์จนกว่าจะหาระบบการจัดการให้ดียิ่งขึ้นค่ะ” นี่ก็เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพิมรี่พาย กำลังหาทางปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้ธุรกิจเข่สู่ช่วงถดถอยหรือตกต่ำ
ที่มา Facebook พิมรี่พายขายทุกอย่าง
สาเหตุที่ทำให้พิมรี่พายถึงสามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ มาจากการแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ (Pain point) โดยเฉพาะเรื่องของความมั่นใจที่จะได้สินค้าตรงตามที่สั่ง สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการบริจาคช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก เป็นคนกตัญญูรู้คุณคนทั้งบุพการีและผู้ที่ให้โอกาสเธอ เป็นคนที่สื่อสารตรงใจคนจำนวนมากจากภาษาที่ดิบๆ ที่เป็นภาษาเข้าใจง่าย
แต่ในขณะเดียวกันที่ทำให้ธุรกิจของพิมรี่พายสู่ช่วงถดถอยเร็วขึ้น มี 3 เหตุผลหลัก ๆ คือ
1. ใครก็อยากขึ้นไปอยู่ตำแหน่งที่เธอยืนเพราะผลประโยชน์มหาศาล จึงหาทางโค่นเธอลงด้วยทุกวิถีทางที่จะทำได้ โดยเฉพาะเรื่องการใช้กฎหมายในการจัดการ
2. การสื่อสารที่ใช้คำพูดแรง ๆแม้จะมีคนชอบจำนวนมากก็จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเกลียดก็มีเยอะ โดยเฉพาะคนที่ต้องรับผลจากคำพูดของพิมรี่พาย กลุ่มนี้ก็ไม่ต่างกับกลุ่มแรกที่จ้องหาทางเล่นงานเธอ
3. พิมรี่พายวิจารณ์การเมือง ทั้งการพูดแบบตรง ๆ หรือคำพูดที่เสียดสี แล้วรายการของเธอมีคนเข้าฟังจำนวนมาก จึงทำให้พิมรี่พายต้องรับกับปัญหาจากทั่วสารทิศในระยะเวลาที่เร็วกว่าปกติ
ที่มา MatiChon
ข้อที่ 1 ไม่ว่าธุรกิจไหนก็เจอเพราะเป็นเรื่องของการแข่งขันในระบบทุนนิยม ส่วนข้อ 2 และ 3 สามารถเลี่ยงได้อยู่แล้วหากต้องการให้ธุรกิจดำเนินต่อไป โดยเฉพาะข้อ 3 หากใครอยากทำมาหากินได้อย่างสงบ หรืออยู่แบบไม่ต้องระแวงภัยเลี่ยงได้ก็เลี่ยง เพราะการเมืองไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนก็เหมือนกัน เป็นเรื่องของผลประโยชน์ ใครที่ทำให้กระทบผลประโยชน์ของเขาจบไม่สวยทุกคน ย้ำว่าเป็นทุกรัฐบาล
เชื่อว่า อดีต พส. ที่สึกออกไปและ อีก พส. ที่มีกำหนดจะสึก คงจะต้องรับมือกับภัยจากมือที่มองไม่เห็นอีกหลายเรื่อง เพราะไปยุ่งเรื่องข้อ 3 ข้างต้น เรื่องแบบนี้ “ยุคใหม่ฯ” เคยได้ข้อมูลมาจากไลฟ์โค้ชท่านหนึ่ง ที่โดนทัวร์ลงอย่างหนักในแบบตัวเองก็งง จนมีเพื่อนที่เป็นข้าราชการตำรวจโทรมาบอกว่า ทำใจหน่อยนะเพราะมึ...ยุ่งเรื่องการเมืองเยอะไป พอหยุดพูดถึงภัยก็หายไปในบัดดล (เรื่องนี้น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์มหัศจรรย์ของโลกได้)
ที่มา Bright Today
ในฐานะของนักการตลาดคนหนึ่งที่ชื่นชมและชื่นชอบพิมรี่พายมาก ๆ เพราะเธอคือคำภีร์การตลาดของไทย ทั้งยังเป็นคนที่ถีบตัวเองขึ้นมาจากจุดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งขึ้นมาผงาดเป็นอันดับหนึ่งเรื่องการขายสินค้าออนไลน์แบบไลฟ์สดได้ เป็นคนที่เก่งสามารถจัดการปัญหาต่าง ๆดี และที่ประทับใจเธอมากที่สุดคือความเป็นคนกตัญญูรู้คุณ ที่เป็นสัญลักษณ์ของคนดี
พิมรี่พาย แค่เพียงลดข้อ 2 ถอยห่างข้อ 3 ธุรกิจก็ดำเนินเติบโตต่อไปได้อย่างสบาย ๆแล้ว เพราะเรื่องการตลาดเธอไม่ได้เป็นรองใครเลยในใต้ฟ้าปฐพีนี้ (แอบเหมือนหนังจีนเล็กน้อย)
ที่มา Mission To The Moon Media
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
