28 ธ.ค. 2021 เวลา 07:01 • ความคิดเห็น
ปัญหาของความไม่รู้
ย้อนไปเมื่อปี 1995 แมคอาร์เธอร์ วีลเลอร์ ถือปืนเดินเข้าไปปล้นธนาคาร
กลางวันแสก ๆ 2 ธนาคาร โดยที่ไม่มีการปิดบังใบหน้าใด ๆ
2
แน่นอนว่ากล้องวงจรปิดของธนาคารทั้ง 2 ย่อมจับใบหน้าของเขาได้อย่างเด่นชัด
เย็นวันนั้นตำรวจก็ยกกำลังไปรวบตัวเขาได้ถึงบ้านทันที
เมื่อตำรวจแสดงตัวจะจับกุมเพราะมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกใบหน้าเขาไว้ได้นั้น
แมคอาร์เธอร์ ก็โต้เถียงเสียงดังว่า ไม่มีทางที่กล้องวงจรปิดจะถ่ายหน้าเขาติดได้
เพราะเขาทาน้ำมะนาวเต็มใบหน้าเขาแล้ว เขาตะโกนเสียงดัง ๆ ออกมาซ้ำ ๆ ว่า
เขาทาน้ำมะนาวทั่วใบหน้าเขาแล้วจริง ๆ
1
เวลาล่วงเลยไปในที่สุดเขาก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ปล้นธนาคารทั้ง 2 แห่งจริง ๆ
สาเหตุที่เขาไม่คลุมใบหน้าเลยเพราะเขารู้ว่าน้ำมะนาวคือส่วนผสมหลักของหมึกล่องหน
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าถ้าเอาน้ำมะนาวมาทาทั่วใบหน้า เขาก็น่าจะล่องหนได้เช่นกัน
12
แมคอาร์เธอร์จึงคิดว่าการปล้นของเขาสมบูรณ์แบบไม่มีกล้องใด ๆ จับภาพได้
เรื่องราวการปล้นแมคอาร์เธอร์จึงเป็นข่าวโด่งดัง จนศาสตราจารย์ เดวิด ดันนิง และ จัสติน ครูเกอร์
สนใจว่าอะไรทำให้แมคอาร์เธอร์เชื่อเช่นนั้นได้ จึงหยิบมาเป็นแรงบันดาลใจในการทำทดลอง
1
แล้วผลการวิจัยทดลองก็ทำให้พวกเขาค้นพบว่า
ยิ่งคนที่ไม่รู้อะไรมากเท่าไร ก็จะยิ่งประเมินความรู้และความสามารถของตัวเองสูงเกินจริงมากเท่านั้น
กลับกันในคนที่ฉลาดรอบรู้มากเท่าไร ก็จะยิ่งประเมินความรู้ความสามารถตัวเองต่ำเกินจริงมากเท่านั้น
7
คนที่ไม่รู้ จะเข้าใจว่าตัวเองรู้เรื่องทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
จึงมีความมั่นใจตัวเองเต็มเปี่ยม และมักเสียงดังเสมอ ๆ
6
ในขณะที่คนฉลาดจะรู้ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากที่เขายังไม่รู้ จึงเต็มไปด้วยความสงสัย
1
งานวิจัยชิ้นนี้ทำให้ เดวิด ดันนิง และ จัสติน ครูเกอร์ ได้รับรางวัลอิกโนเบล
สาขาจิตวิทยาในปี 1999
6
จากผลงานวิจัยอาจกล่าวได้ว่า
บางครั้ง คนที่เสียงดังที่สุดอาจมีความรู้ความเข้าใจน้อยที่สุด
ในขณะที่คนที่รู้มากที่สุดกลับนิ่งเงียบคิดไตร่ตรองกลับไปกลับมาอยู่ก็เป็นได้
6
ปัญหาของคนที่รู้น้อยที่สุดแล้วเสียงดังนั่นเป็นเพราะว่า เขาแยกแยะไม่ออกว่าเขายังความรู้เรื่องอะไร
และรู้อะไรมากน้อยแค่ไหน จึงปล่อยให้ความไม่รู้จริงนำทางไปอย่างมั่นใจ
ปัญหาของความไม่รู้ จึงอาจไม่ใช่เนื้อหาว่าเราไม่รู้อะไร
แต่เป็นการที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ แต่เชื่อมั่นผิด ๆ ว่าเรารู้มากที่สุดครับ
6
อ้างอิงเนื้อหาจากและรูปจาก
Brandon-love.medium
หนังสือ Creative Blindness By Dave Trott
โฆษณา