30 ธ.ค. 2021 เวลา 00:03 • กีฬา
[ #แพะที่ถูกเชือดบูชายัญ ]
ผลเสมอกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อคืนวันจันทร์ ชนิดที่ว่าควรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทำให้พวกสื่อต่างกระพือให้สถานการณ์หลายอย่างดูแย่หนักไปกว่าเดิมอีก
2
หลายคนได้เห็นข่าวจากเดลี่ เมลแล้ว ซึ่งอ้างว่าความสัมพันธ์ของผู้เล่นในทีมเกิดรอยปริร้าว มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ขาดความสามัคคีปรองดอง ไร้ยูนิตี้ กระทบต่อทีมสปริต
ว่าแล้วก็จำแนกแจงแจงเลยว่า แต่ละกลุ่มก้อนใครกันบ้าง ซึ่งเดาได้ไม่ยากสักเท่าไรหรอก
1
ก๊กของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะต้องมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส รุ่นน้องในทีมชาติโปรตุเกส รวมถึงพวกที่พูดจาภาษาเดียวกันอย่างเช่น ดีโอโก้ ดาโลต์ , เฟร็ด และ อเล็กซ์ เตลลีส
1
กลุ่มทีมชาติอังกฤษมี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมปัจจุบันเป็นแกนนำ มาร์คัส แรชฟอร์ด , ลุค ชอว์ , เจดอน ซานโช่ หรือ เมสัน กรีนวู้ด คอยสนับสนุน
อีกกลุ่มคือ ดาบิด เด เคอา กับ ฆวน มาต้า 2 แข้งสเปนภายในทีม แยกออกไปไม่ยุ่งกับใครโดยตรง ต่างแสดงพาวเวอร์ของตนเอง
นอกจากนี้สื่อดังกล่าวยังได้ข้อมูลอีกว่า ภายในแคนทีนหรือห้องรับประทานอาหารสำหรับผู้เล่นและทีมงาน เปลี่ยนจากโต๊ะยาวที่นั่งเรียงกันเป็นแถวและหันหน้าชนกัน เหมือนแบบโรงอาหาร ก็เปลี่ยนมาเป็นโต๊ะแบบนั่ง 4-5 คน
1
นั่นหมายถึงเปิดโอกาสให้นักเตะกินข้าวแบบก๊กใครก๊กมันได้สะดวกขึ้นอีก แทนที่จะได้รวมกลุ่มใหญ่
ในขณะเดียวกันยังพยายามพุ่งประเด็นไปยัง โรนัลโด้ และ บรูโน่ ว่าเป็นเหมือนคนเขย่าให้ทีมเกิดความปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น
มีการไปดึงเอาความคิดเห็นของ แกรี่ เนวิลล์ กูรูผู้สันทัดกรณี ซึ่งพูดถึงภาษากายของทั้งสองคน แย่เกินกว่าจะรับได้และเป็นลักษณะนี้มาพักใหญ่แล้ว
หลังสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย โรนัลโด้ รีบบึ่งเข้าอุโมงค์ทันที ไม่สนใจจับมือตามธรรมเนียมหรือทักทายเพื่อนนักเตะด้วยกัน ไม่ต้องพูดถึงจะเดินไปปรบมือขอบคุณแฟนบอล โยนเสื้อแจกให้ นั่นไม่มีอยู่แล้ว
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูเปอร์สตาร์โปรตุกีส มีพฤติกรรมเช่นนี้ วันไหนฟอร์มไม่ดี เล่นไม่ได้ดั่งใจมักจะไม่แคร์ใครเสมอ
ส่วน บรูโน่ เองภาษากายที่ออกท่าหงุดหงิดมากเกินไป ในยามที่ตัวเองทำพลาดหรือกระทั่งเพื่อนร่วมทีมทำเสีย แกรี่ เนวิลล์ ระบุว่าเห็นแบบนี้มาสองเดือนแล้ว ชักจะรำคาญเข้าไปทุกที
บางครั้งมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ซ้ำยังบั่นทอนความรู้สึกเพื่อนๆอีก มันเหมือนไปโยนความผิดให้
1
กลับมาที่ โรนัลโด้ อีกรอบในเกมกับเดอะ แม็กพายส์ มีหลายจังหวะที่เขาพยายามจะสปรินท์หรือวิ่งทำทาง ยามเห็นเพื่อนบางคนได้บอล ซึ่งในจังหวะที่กำลังทำเกมบุกอย่างนี้ ก็ควรวางมาให้
แต่น่าเสียดายที่ต้องตีรถเปล่าเก้อไม่น้อยเลย แล้วพอวิ่งฟรีไม่มีบอลมาถึง โรนัลโด้ มักจะออกอาการหัวเสียใส่เพื่อนอีกด้วย
ถ้าใครเป็นนักฟุตบอล โดยเฉพาะระดับอาชีพ มักจะถูกปลูกฝังมาเลยว่าอย่าพยายามโทษเพื่อนร่วมทีมเด็ดขาดหากทำพลาด สิ่งที่ควรทำคือให้กำลังใจกัน เพื่อความเป็นปึกแผ่นสมัครสมาน เพราะฟุตบอลเล่นกันเป็นทีม
นักเตะคนไหนก็ตามที่ชอบโยนความผิดให้เพื่อนจะดูแย่ทันที นี่คือสิ่งทีไม่ควรเกิดขึ้น
แต่ในเกมที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค เห็นเลยว่า โรนัลโด้ มีอาการหลายครั้ง จนนำไปสู่การวิจารณ์มากมาย ถึงความไม่เหมาะสมและมีแต่ทำให้สถานการณ์แย่ลง
อย่างไรก็ตามมีเสียงสะท้อนกลับมาว่า ทุกคนรู้ดีนี่คือสิ่งปกติของเขา ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย บางครั้งความมุ่งมั่นจริงจังเกินไป ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างที่เห็น
ในเมื่ออยากยิงประตู อุตส่าห์วิ่งไปแล้ว แต่เพื่อนกลับไม่ให้บอล มันก็ต้องหงุดหงิดธรรมดา ภาษากายที่แสดงออกนั้น เหมือนเป็นการเตือนเพื่อนร่วมทีมไปในตัวด้วย
อีกทั้งสถานะความเป็นซูเปอร์สตาร์ของเขา มักจะมีเส้นบางๆของสิทธิพิเศษคั่นไว้ ซึ่งเรื่องนี้เพื่อนนักเตะก็คงเข้าใจไม่ยากนัก
หมายความว่าบางคราวภาษากายอาจจะไม่เข้าท่านัก แต่ไม่มีใครถือโทษโกรธหรือนำไปคิดให้รกสมองหรอก
ในขณะเดียวกันยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บรูโน่ เองก็เจตนาวางบอลให้ โรนัลโด้ บ่อยครั้งเกินไป บางช็อตโดนประกบหรืออยู่ในพื้นที่ไม่น่าจะจ่ายไปถึงได้ ก็ยังดิ้นรนจนไม่เกิดประโยชน์
ว่าแล้วก็ดึงเอาความเป็นคนโปรตุกีสเหมือนกัน สนิทแนบแน่นกันเป็นทุนเดิมมาโยงเข้ากันจนได้
อาจจริงที่ว่า บรูโน่ ดูเป็นอย่างนั้น แต่ในอีกทางเมื่อคุณมีผู้เล่นอย่าง โรนัลโด้ อยู่ในทีม ก็ต้องหาทางเปิดบอลไปให้อยู่แล้ว เพราะรู้ดีว่าหากบอลอยู่กับเท้าของเขา โดยเฉพาะในกรอบเขตโทษจะอันตรายแค่ไหน
หรือกุนซืออาจจะสั่งมาเอง พยายามสอดส่ายสายตาหา โรนัลโด้ เพราะนี่คือการสร้างโอกาสอย่างดีเลย
อย่างว่านั่นแหล่ะ พอผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ภาพรวมมันดูแย่ไปหมด ประเด็นดังกล่าวก็ถูกหยิบนำมาวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนตามไปด้วย
ยังไม่นับเรื่องฟอร์มของ บรูโน่ ที่ดร็อปลงไปอย่างน่าใจหายในระยะหลัง เหมือนไม่ใช่ร่างเดิมเลย
อย่างเกมล่าสุดกับนิวคาสเซิ่ล มีสถิติบันทึกไว้ว่า เขาเสียการครอบครองถึง 26 ครั้ง มากกว่าใครในสนามเลย
ปกติแล้ว บรูโน่ จะครองบอลได้ดี มีการปล่อยออกจากเท้าที่แม่นยำเชื่อถือได้ เพราะทั้งทักษะและสภาพจิตใจ สอบผ่านมานานแล้วในเกมระดับสูง
อีกทั้งการมีส่วนร่วมโดยตรงกับประตู ไม่ว่าจะยิงเองหรือเปิดให้เพื่อซัลโว ยังเป็นเครื่องหมายการค้า ซึ่งนำไปสู่ความคาดหวังของแฟนบอลอีกต่างหาก
ทว่าหากมองอีกด้าน หลายครั้งที่ บรูโน่ จ่ายบอลแบบได้เสียหรือเรียกง่ายๆว่าต้องการวัด ถ้าเพื่อนหลุดไปแล้วมีโอกาสได้ประตูสูง ฉะนั้นความผิดพลาดก็ต้องสูงตามไปด้วย
เมื่อเขาไม่อาจทำได้เหมือนอย่างเคย ก็ต้องยอมรับผลงานตัวเองไป ฟุตบอลมันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ ในวันที่แย่ขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นทีมใหญ่และเล่นได้ไม่สมราคา
แน่นอนว่าปัญหาตกมายัง ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมว่าจะทำอย่างไร เพื่อเค้นให้ทั้ง โรนัลโด้ และ บรูโน่ กลับมาเค้นฟอร์มอันยอดเยี่ยมได้อีกและด้วยวิธีการเล่นแบบไหน สูตรอะไรถึงจะเหมาะ
โดยเฉพาะ บรูโน่ ด้วยแล้ว ถูกตั้งคำถามเรื่องระบบ 4-2-2-2 ของเจ้านายคนใหม่ ดูไม่ค่อยเวิร์คเท่าไร เหมือนไปฉุดประสิทธิภาพด้อยกว่าเดิมด้วย
หนสุดท้ายที่เขามีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง ต้องย้อนไปยัง 2 ธันวาคมที่ผ่านมา เกมลีกเข่นอาร์เซน่อล 3-2 ซึ่งซัด 1 ประตูและยังเป็นช่วง ไมเคิ่ล คาร์ริค ขัดตาทัพผู้จัดการทีม
นี่ปาเข้าไปเกือบเดือนแล้ว ที่บทบาทสำคัญหายไปเฉยๆ ยิ่งเมื่อเปลี่ยนกุนซือใหม่ ดูหายเงียบไปเลยทีเดียว
เกมพรีเมียร์ลีกวันพฤหัสบดีนี้เจอเบิร์นลี่ย์ในบ้าน จะติดโทษแบนลงช่วยไม่ได้อีก นั่นหมายถึงจะร้างประตูและแอสซิสต์ครบเดือนเป็นอย่างน้อยเลย
เรื่องความสามัคคีในทีมซึ่งเกิดปัญหาตามที่สื่ออ้างมานั้น เราไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วข้างในเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่ปมใหญ่อยู่ที่ฟอร์มของผู้เล่นหลักๆอย่าง โรนัลโด้ และ บรูโน่ มากกว่า ทำอย่างไรจะกลับมาได้เหมือนเดิม
เพราะถ้าเข้าฝักอีกที เชื่อเถอะว่าข่าวลือในทำนองนี้ที่เคยได้ยินมา ก็จะหายเข้ากลีบเมฆไปเอง
จำไว้ว่าข่าวเชิงลบ มักมาพร้อมกับผลงานทีมที่ไม่ดีเสมอ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา