Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
no name
•
ติดตาม
31 ธ.ค. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
" แอนดี้ โคล เมื่อสาลิกากลายเป็นผี "
พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีหลายเรื่องทั้งในและนอกสนาม
1
เรื่องในสนามก็คือ เมื่อไหรก็ตามที่ทั้งสองทีมนี้เจอกัน เกมมักออกมาสนุกตื่นเต้นแทบทุกครั้ง ประตูมักเกิดขึ้นเยอะ เป็นแบบนี้มานาน
กลางยุค 90s นี่คือสองทีมที่ขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ ลีก กันอย่างสุดตื่นเต้น
นิวคาสเซิ่ล เป็นทีมที่ดี และมักเล่นเกมรุกเอาใจแฟนบอลอยู่เสมอ มันคือ "เครื่องหมายการค้า" ของทีมสาลิกาดง
ทั้งสองทีมมีการซื้อขายนักเตะกันบ่อยครั้งตลอดช่วงที่ผ่านมา แม้กระทั่งช่วงที่แย่งแชมป์กันเองก็ตาม ยุคนั้น การย้ายตัวมักเป็นการคุยกันเองของสองผู้จัดการทีม ไม่ว่าสโมสรไหนก็มักรู้จักอีกฝ่าย พอออกจากสนามฟุตบอล สามารถคุยกันได้โดยไม่ได้มีการคิดว่าเป็นอริ ชนิดไม่เผาผี อย่างในปัจจุบัน
หนึ่งในการย้ายตัวสุดคลาสสิกระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ นิวคาสเซิ่ล ก็คือกรณีของ แอนดี้ โคล ในเดือนมกราคม 1995
จอห์น กิ๊บสัน เป็นหัวหน้าฝ่ายข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ นิวคาสเซิ่ล อีฟว์นิ่ง โครนิเคิ่ล เมื่อปี 1995 เล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่มีข่าวนี้หลุดออกมาจากทางนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
"ผมอยู่ในห้องข่าวและได้รับโทรศัพท์จากบางคนภายในสโมสรเพื่อบอกข่าวด่วนกับผม"
"มันช็อคจริงๆ 'นายล้อเล่นป่าววะ?' นี่ไม่ใช่สไตล์ของคีแกน เลย เขาซื้อนักเตะที่ดีที่สุด เขาไม่ได้ขายนักเตะที่ดีที่สุด สถานการณ์ทำให้เราวุ่นวายทันที เพราะหนังสือพิมพ์เรากำลังจะตีพิมพ์ออกอยู่แล้ว และนี่มันข่าวหน้าหนึ่ง!"
"แต่ มันจะเกิดขึ้นแน่หรือ? โคล เจ็บไปช่วงหนึ่ง และช่วงหลังเล่นไม่ดีนัก คุณสงสัยในเรื่องสภาพร่างกาย"
"แล้วจากนั้นก็มีเสียงต่อต้านจากแฟนบอล นี่จบไม่สวยแน่ และคนแรกๆ ที่รู้ข่าวคือพวกบรรณาธิการรอบดึกของเราในวันนั้น"
ไม่ต้องแปลกใจเลยในสิ่งที่ จอห์น กิ๊บสัน บอก ทำไมเหล่า ทูนอาร์มี่ จะไม่ออกมาโวยวายเล่า ก็ในเมื่อพวกเขามองว่า มันคือการยื่นหอกให้ศัตรู
แถมหอกเล่มนี้ยังเป็นหอกที่คมและอันตรายที่สุดด้วย
ครึ่งหลังของซีซั่น 1992/93 แอนดี้ โคล ย้ายจากบริสตอล ซิตี้ มายัง นิวคาสเซิ่ล ในขณะนั้นพวกเขาเป็นทีมในดิวิชั่น1 (ชปช. ตอนนี้) และโคล ก็ยิง 12 ประตูจาก 12 นัดพาทีมคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 1 ได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จ
ปี 1993/94 ปีแรกของ โคล บนเวทีพรีเมียร์ ลีก ในสีเสื้อนิวคาสเซิ่ล เขาทำสถิติสูงสุด ยิงถึง 34 ประตูจาก 40 นัด (สมัยนั้นมี 22 ทีม เตะ 42 นัด) คว้าดาวซัลโวมาครองอย่างสุดยอด และรวมทุกรายการ 45 นัด กดไปถึง 41 ประตู เป็นสถิติสโมสร
การทำบอลแบบเน้นเกมรุกของ เควิน คีแกน บวกกับการผลิตสกอร์ของ แอนดี้ โคล และเพื่อนร่วมทีมอย่าง ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์, รูเอล ฟ็อกซ์, พอล เบรสเวลล์, สตีฟ วัตสัน, จอห์น เบเรสฟอร์ด, ลี คลาร์ก, สก็อตต์ เซลลาร์ส ทำให้พวกเขาจบถึงอันดับ 3 ของตารางคะแนนเลยทีเดียว
แอนดี้ โคล สามารถทำประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทั้งสองนัดที่เจอกันในฤดูกาลนี้
นิวคาสเซิ่ล คิดการใหญ่ ปีต่อมา แน่นอนว่า คีแกน เล็งถึงการลุ้นแชมป์ มีการเสริมทัพดึง ฟิลิปป์ อัลแบร์, พอล คิตสัน, มาร์ก ฮ็อตติเกอร์ มาร่วมทีม
โคล ยังออกสตาร์ทซีซั่นได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 8 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ใน 11 นัดแรก ซึ่งเป็น 11 นัดที่นิวคาสเซิ่ล ร้อนแรงมาก ไม่แพ้ใครเลย ชนะ 9 เสมอ 2 โดย 2 นัดที่เสมอคือการเจอกับทีมแกร่งด้วยกันอย่างลิเวอร์พูล และแบล็คเบิร์น
จุดเปลี่ยนมาถึงเอาในนัดที่ 12 ซึ่งเป็นการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอดี แต่ แอนดี้ โคล ลงสนามไม่ได้พอดี เพราะมีอาการบาดเจ็บ
1
เกมนั้นเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ชนะไป 2-0 จาก แกรี่ พัลลิสเตอร์ กับ คีธ จิลเลสพี ปีกดาวรุ่งวัย 19 ปี ซึ่งภายหลังจะมีบทบาทสำคัญต่อดีลสนั่นเกาะอังกฤษครั้งนี้
จากนั้น ดูเหมือนฟอร์มของ นิวคาสเซิ่ล จะเริ่มมีสะดุด ลุ่มๆ ดอนๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้
แอนดี้ โคล คัมแบ็กกลับมาก็ยิงประตูได้ทันที ในเกมเสมออิปสวิช 1-1 แต่จากนั้น ฟอร์มของเขาก็เงียบหายไปเลย ไม่ยิงติดต่อกัน 6 นัด จนถึงเกมแรกของปี 1995 ในวันที่ 2 มกราคม
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นตรงนี้ เพราะหลังจากเกมแรกของปี จะมี เอฟเอ คัพ รอบ 3 รออยู่ ในวันที่ 8 มกราคม
ระหว่างช่วงนี้เองที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าเข้าพูดคุยอย่างจริงจัง
ลี คลาร์ก มิดฟิลด์เบอร์ 10 ของนิวคาสเซิ่ล ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของโคล อยู่บ้านใกล้กัน มักขับรถไปซ้อมด้วยกันเสมอ
เช้าวันที่ 10 มกราคม มีซ้อมตามปกติ คลาร์ก มากดกริ่งหน้าบ้าน เพื่อรับ แอนดี้ โคล ไปสนามซ้อมด้วยกัน แต่เขาพบความไม่ชอบมาพากล
"เขาไม่มาเปิดประตู และโทรศัพท์ของเขาก็ดังอยู่ในบ้าน ผมคิดในใจ 'ฉันไม่ยอมโดนสโมสรปรับที่ไปสายแน่' ผมเลยขับไปสนามซ้อมคนเดียวก่อน"
1
ระหว่างที่ คลาร์ก กำลังขับรถนั่นเอง แอนดี้ โคล ก็โทรเข้าโทรศัพท์ในรถของคลาร์ก และบอกว่า เขาโทรมาจากแมนเชสเตอร์ และเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง และให้ คลาร์ก รับปากว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
"ผมเจ็บปวดมาก มันถูกตกลงกันเรียบร้อยแล้วในคืนก่อนหน้า และเขาลงไปที่นั่น เราควรจะต้องซื้อนักเตะที่ดีที่สุดสิ ไม่ใช่ขายนักเตะที่ดีที่สุด ในการซ้อม มีความผิดหวังกันอย่างมาก แต่เราก็เชื่อในตัวเควิน (คีแกน)"
1
เทอร์รี่ แม็คเดอร์ม็อตต์ ซึ่งเป็นมือขวาของ คีแกน บอกว่า แอนดี้ โคล เป็นเด็กดี ฝีเท้าดี แต่ช่วงนั้นดูเหมือนว่าผลงานของเขาจะตกลงไป และใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
1
"เราเดาว่าเขาอาจได้กลิ่นว่า เขาอาจจะได้ย้ายออก เขาไม่ได้เล่นอย่างที่เคยทำได้ เควิน เลยคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับสโมสร และสำหรับ แอนดี้ ที่จะทำการดีลนี้"
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม คือวันที่ทุกอย่างถูกพูดคุยและตกลงกัน คีแกน กับ แม็คเดอร์ม็อตต์ เข้าไปโน้มน้าว และเถียงกับบอร์ดบริหาร ให้รับข้อเสนอนี้จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ข้อเสนอที่ว่า เป็นสถิติเกาะอังกฤษเวลานั้น มีมูลค่าร่วม 7 ล้านปอนด์ คือเงินสด 6 ล้านปอนด์เศษ และบวกกับ คีธ จิลเลสพี ที่ตีราคา 1 ล้านปอนด์ สลับขั้วมาจากแมนฯ ยูไนเต็ด
แน่นอนว่าดีล นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหาก คีธ จิลเลสพี ไม่ยอมตกลงเอาด้วย ตอนนั้น เขาเป็นเพียงปีกดาวรุ่ง ขึ้นชั้นมาจากคลาส ออฟ 92 เช่นกัน แต่ตำแหน่งของเขามีคนขวางหน้าอยู่ โดยเฉพาะ อันเดร แคนเชลสกี้ส์ ปีกจรวดยูเครน ส่วน เดวิด เบ็คแฮม เพื่อนร่วมรุ่น กำลังจะโดนปล่อยยืมไปที่ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ เป็นการชั่วคราว
มันมาตกลงกันได้ที่ เชฟฟิลด์ เพราะในวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวไปเยือน บรามอลล์ เลนของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในเกมเอฟเอ คัพ
ในห้องแต่งตัวทีมเยือนก่อนเกม เฟอร์กี้ ก็เปิดฉากพูดคุยกับเด็กหนุ่ม คีธ ทันที เขามีชื่อติดทีมชุดนี้มาด้วยเป็นตัวสำรอง
1
"เซอร์ อเล็กซ์ ดึงตัวผมมาแล้วอธิบายสถานการณ์ ผมมากับทีมโดยคาดหวังว่าจะได้เล่น แล้วตอนนี้ผมต้องมานั่งคิดถึงอนาคตของผมกับสโมสร ผมช็อค ผมดูเกมนั้นไม่รู้เรื่องเลย" จิลเลสพี เล่าความหลังครั้งนั้น
มาร์ค ฮิวจ์ส กับ เอริค คันโตน่า ทำคนละประตูช่วยปีศาจแดงคว้าชัย 2-0
หลังเกม จิลเลสพี ก็ได้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ มันมาจากกองหลังกัปตันทีมของเขาที่ชื่อ สตีฟ บรูซ นั่นเอง
บรูซ เกิดในไทน์ไซด์ เขาเป็นจอร์ดี้คนหนึ่ง และเป็นแฟนบอลนิวคาสเซิ่ลตัวยง เขาบอกกับ จิลเลสพี ว่า ควรพิจารณาข้อเสนอนี้ เพราะมันเป็นโอกาสที่จะได้ลงเล่นเต็มเม็ดเต็มหน่วย
1
"สตีฟ เป็นจอร์ดี้ และเขาบอกผมให้คว้าโอกาสนี้ไว้ เขาบอกว่า ผมยังมี อันเดร แคนเชลสกี้ ขวางอยู่อีกที่ยูไนเต็ด นี่เป็นโอกาสที่จะไดเล่น และสร้างชื่อให้ตัวเอง ผมตัดสินใจได้แล้ว ผมจะย้ายไป"
ต่อมาเมื่อเกมจบ นักเตะคนอื่นๆ เดินทางกลับแมนเชสเตอร์ แต่ คีธ จิลเลสพี กับเฟอร์กี้ เดินทางเข้าไปในตัวเมืองเชฟฟิลด์ เพื่อนัดพบกับ เควิน คีแกน และผู้บริหารของนิวคาสเซิ่ล
"ผมมีเวลาคุยกับคีแกนแป้บเดียว เขาขายสโมสรและผมก็ซื้อทันที มันใช้เวลาแค่นาทีเดียว เขามีเวทย์มนต์ในตัว"
"แต่ผมไม่มีเอเยนต์ในตอนนั้น ดังนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เลยคุยแทนผม ผมรับอยู่ 250 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เขาบอกพวกนั้นไปว่าผมรับอยู่ 600 ปอนด์ และทำให้พวกเขาเพิ่มดับเบิ้ลให้เป็น 1,200 ปอนด์! ผมดีใจมาก"
อย่างน้อยในการย้ายทีม เฟอร์กี้ ก็บลัฟใส่นิวคาสเซิ่ล จนทำให้ลูกนกจากรังของเขาอย่าง จิลเลสพี ได้รับค่าเหนื่อยที่สูงที่สุดมากกว่าที่คาดหวังเอาไว้เสียอีก วันรุ่งขึ้น จิลเลสพี ก็โทรบอกครอบครัวในไอร์แลนด์เหนือถึงการย้ายทีมหนนี้
ตอนที่ข่าวการซื้อขายครั้งนี้หลุดออกไป แฟนบอลนิวคาสเซิ่ล จำนวนมากมาประท้วงหน้าสโมสร ดักลาส ฮอลล์ ลูกชายของ เซอร์ จอห์น ฮอลล์ ประธานสโมสร บอกว่าจะจัดรถเพื่อพา คีแกน กับ แม็คเดอร์ม็อตต์ ออกไปทางประตูเล็ก เพื่อหนีความเกรี้ยวกราดของแฟนบอล
ทว่า คีแกน มีความเป็นสุภาพบุรุษพอ เขาบอกว่าจะออกไปเจอกับแฟนบอลเอง สุดท้าย เขากับ แม็คเดอร์ม็อตต์ ก็ออกไปอธิบายเหตุผลกับแฟนบอลถึงเรื่องราวต่างๆ
แน่นอน แฟนบอลหวังว่าถ้าสโมสรปล่อยกองหน้าชั้นดีออกไป ก็ควรจะมีตัวแทนเข้ามา
จริงๆ คือพวกเขาต้องรอครึ่งปี คีแกน ก็คว้า เลส เฟอร์ดินานด์ มาตอนซัมเมอร์ 1995 และทำให้แฟนบอลหายโกรธเมื่อดึง อลัน เชียเรอร์ ปาดหน้าเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จในปี 1996
ฝั่งของ แอนดี้ โคล เปิดเผยว่า รอยร้าวระหว่างเขากับ คีแกน มันเริ่มต้นตั้งแต่ต้นปี 1994 แล้ว ในเกมหนึ่ง ซึ่งนิวคาสเซิ่ล ออกไปแพ้ วิมเบิลดัน 2-4
"ผมรู้ว่าผมกับ เควิน เคยทะเลาะกัน เขามาด่าทำให้ผมโมโห อย่างที่เขาทำกับ คลาร์กี้ (ลี คลาร์ก) ในวันหนึ่ง"
"เราแพ้เกมนั้น และเขาก็มาด่าผมจนผมโมโห เพราะเราแพ้ ดังนั้น เราก็กลับไปที่โรงแรม เควิน ก็บอกผมว่า "Do one" (หมายถึง ไล่ให้ไปพ้นๆ หน้า) ผมเลยบอกว่า 'ได้ ไม่มีปัญหา' ผมเก็บข้าวของแล้วออกไป ความสัมพันธ์ก็ไม่เหมือนเดิมอีก"
"ผมไม่ได้จะหาทางย้ายจากนิวคาสเซิ่ล ผมมีความสุขมากๆ ที่นั่น ตอนเกิดเรื่องที่โรงแรมตอนนั้น ผมก็แค่คิดว่า 'ไม่ ผมไม่ยอมให้คุณมาพูดกับผมแบบนั้น' ดังนั้นพอผมหายไป 5 วัน เราก็นัดมาคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน และเขาก็ยื่นสัญญาใหม่ให้ผม แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไป"
ทว่า โคล บอกว่าจริงๆ แล้วปัญหาของเขาที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค คือ เขารู้สึกว่าตัวเอง "ดัง" เกินไป ทั้งที่อายุเพิ่ง 23-24 ปีเท่านั้น
"ผมสนุกกับที่นิวคาสเซิ่ลนะ ปัญหาเดียว สำหรับผมโดยส่วนตัวเลยก็คือ มันมาถึงเร็วเกินไปในชีวิตผม"
"ผมไม่ใช่คนที่ชอบถูกผู้คนยกย่อง ผมว่ามันบ้าคลั่งมาก ตอนที่ผมไปซูเปอร์มาร์เก็ต ผมช็อปปิ้งไม่ได้เลย คนตามผมเพื่อขอลายเซ็น ผมแบบว่า 'นี่มันอะไรกันเนี่ย?'
ส่วนเรื่องที่ว่า เขาได้รับความสนใจจาก แมนฯ ยูไนเต็ด นั้้นมันเกิดขึ้นก่อนการย้ายตัวพักนึงแล้ว เพราะได้คุยกับนักเตะของปีศาจแดง ตอนไปเข้าแคมป์ทีมชาติอังกฤษ
"ในการไปร่วมทีมชาติอังกฤษช่วงแรกๆ ของผม ผมได้คุยกับ อินซี่ (พอล อินซ์) และเขาบอกผมเสมอว่า 'ป๋าชอบนายนะ' แล้วผมก็ตอบไปว่า 'ไม่ ไม่มีทางหรอก นิวคาสเซิ่ลไม่มีวันขายผม' สำหรับผม ผมก็นึกว่ามันเป็นการอำกัน ไม่ได้คิดจริงจัง"
การย้ายครั้งนี้ ทำให้แฟนบอลนิวคาสเซิ่ล ไม่พอใจแอนดี้ โคล อย่างมาก แม้ว่าสโมสรจะอธิบายถึงเหตุผลชัดเจน และยอมรับว่าพวกเขาต้องการรับข้อเสนอของทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอง ไม่ใช่การขอย้ายออกของตัวนักเตะ
สำหรับ จิลเลสพี เขาก็ไปมีเส้นทางอาชีพที่ดีกับ นิวคาสเซิ่ล กลายเป็นกำลังหลักให้ทีม 3 ปี ก่อนโดนปล่อยไปแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ขณะที่ แอนดี้ โคล เมื่อย้ายมายังแมนฯ ยูไนเต็ด เขาไม่ได้ยิงถล่มทะลายเหมือนที่นิวคาสเซิ่ลอีก แต่มันก็มากพอ และดีพอที่จะทำให้เขากลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของสโมสร และคว้าแชมป์มากมายกับทีมปีศาจแดง
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line :
https://line.me/R/ti/p/@cheerballth
Facebook :
www.facebook.com/cheerball
Twitter :
www.twitter.com/cheerballth
Website :
www.cheerball.com
Youtube :
www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
1 บันทึก
6
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย