30 ธ.ค. 2021 เวลา 19:17 • ไลฟ์สไตล์
DAY 7 จุดหักเห เซอร์ไพรส์กว่า
DAY 7
Good bye เกาะช้าง
ตื่นมาเช้านี้สดชื่นมาก เพราะได้นอนเต็มอิ่ม
ไม่ต้องพะวงกับผลบอลเหมือนคืนก่อนเพราะแพ้ไปแล้ว 55
อาบน้ำ ทำธุระเสร็จ ก็เก็บของใส่เป้
จัดการกับขนม และนม ที่เหลือแต่ก็ยังไม่หมด
ดีที่เหลืออีกไม่มาก พอยัดใส่เป้ได้
พอร้านค้าเปิด ผมก็เอากุญแจห้องไปคืน
และบอกว่าเช้านี้ผมอิ่มแล้ว เพราะกินขนมไปจนจุก
เจ้าของร้านก็รับกุญแจห้องคืนไป ยิ้มๆและขอบคุณที่อุดหนุน
พร้อมทั้งอวยพรให้เดินทางกลับปลอดภัย
ผมก็ว่าขากลับ ผมไม่ได้ปั่นเยอะแล้ว ผมเอาจักรยาน
ขึ้นรถ บขส.กลับครับ
หลังจากออกจากที่พักผมมีเวลา 1ชั่งโมงหน่อยๆก่อนเรือ
เที่ยวที่ต้องการจะไปด้วยจะออกจากท่าที่เกาะช้าง
ผมดูตอนขามาปั่นประมาณ 45 นาที ทั้งๆที่ข้าวของพะรุงพะรัง
ส่วนขากลับ ปั่นแบบโล่งๆสบาย ไม่เกินครึ่ง ชม.ก็ถึงท่าเรือ
จริงแล้ว ควรจะเป็นแบบนั้น แต่..
ช่วงเริ่มอัดขึ้นเขาคลองสน ช่วงขากลับ มีความรู้สึกว่าชันกว่าฝั่งขามา
เพราะสังเกตูตอนลงเขา ช่วงขามาเบรกจนกลัวสายสลิงค์เบรกจะขาด
ก็คือชันมากกว่า แต่ขึ้นสั้นกว่านั่นเอง
แบบนี้ไม่ยาก ก็ยืนเหยียบเลยซิครับ แรงดีกลัวอะไร
ยืนเหยียบได้สิบกว่ารอบขา เกิดเสียงดังปึ๊ด..
โซ่ขาดครับ ..จบกัน
ดีที่ตัวไม่ตกจากรถเพราะบันไดมันหวาม ขาทิ่มพลวดไปข้างหน้า
ก็ต้องลงจากรถ หาเศษถุงพลาสติกข้างทาง
รวบโซ่ที่คาอยู่ที่เฟืองและตีนผีของจักรยาน มาใส่ถุงเพื่อกันเปื้อน
แล้วก็ยัดใส่กระเป๋าใต้อานจักรยาน
สิ่งที่คาดการณ์ไว้ ว่า ยางจะรัว ยางจะแตก รถจะล้มได้แผล ไม่เกิด
แม้แต่ลมอ่อนก็ยังไม่มี แต่ใครจะคิดว่า โซ่ขาด กำจริง 55
เมื่อไม่มีโซ่ ก็ปั่นต่อไม่ด็ ก็ต้องเข็นไป
พอลงเขาก็โดดขึ้นอานแล้วปล่อยให้ไหลลงไป
แต่ไม่ง่ายครับ
จักรยานเวลาไม่มีโซ่ มันจะเสียสมดุล เวลาวางเท้าที่ลูกบันได
มันจะแกว่งๆ โคลงเคลง
สรุปก็คือไปไม่ทันเรือเที่ยวที่ต้องการ
และอะไรที่ๆวางแผนไว้ก็ผิดแผน
ต้องเปลี่ยนแผนการกันใหม่หมด
จากที่กะไว้ว่าจะนั่งเรือออกจากเกาะช้าง
เที่ยวแปดโมงกว่าๆแล้วไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือแหลมงอบ
จากนั้นก็จะเอาจักรยานขึ้นรถบขส.ที่แหลมงอบ
ไปลงที่จันทบุรี แล้วต่อรถไปลง บขส อำเภอกบินทร์บุรี
แล้วก็ต่อรถเข้าแปดริ้ว ถ้าเป็นไปตามแผน
จะถึงแปดริ้วช่วงเย็นๆ ก็แฮบปี้เอนดิ้งไปแล้ว
แต่พอโซ่ขาด ก็ต้องเปลี่ยนแผนใหม่
โดยยังไงก็ต้องเอารถจักรยานไปต่อโซที่ขาด
ที่ร้านขายจักยานเสือภูเขา ในเมืองให้ได้ก่อน
เพราะว่า เจ้าโซ่เสือภูเขามันจะต้องมีเครื่องมือเฉพาะของมัน
ในการตัดต่อโซ่ ไม่สามารถใช้ขอต่อโซ่เหมือนจักยานทั่วไปได้
และร้านพวกนี้ต้องมีเครื่องมือแน่นอน
(แต่เดี๋ยวนี้มีข้อต่อแบบต่อเร็วขายแล้ว สบายขึ้นครับ)
หลังจากเข็นๆโดดๆขึ้นลงจักรยาน ตอนขึ้นเขา
ก็ลงจากรถแล้วเข็นขึ้นเขา
พอช่วงลงเขา ก็รีบกระโดดขึ้นจักรยาน
แล้วปล่อยไหลลงเขาไป ลงเร็วมากก็ไม่ได้มันโคลงเคลง
กว่าจะมาถึงท่าเรือ ก็ไม่ทันเรือเที่ยวนั้นแล้ว
จากเดิมที่ต้องมารอเรือ กลายเป็นเรือไม่รอเราซะงั้น 55
เรือที่ข้ามไปแหลมงอบ ค่าโดยสารจะถูกกว่าเรือเฟอรี่
ตอนที่นั่งเที่ยวขามาเล็กน้อย
เป็นเรือขนาดเล็กกว่าเรือเฟอรี่มาก เหมือนเอาเรือประมง
ขนาดซัก10 วา แล้วทำหลังคาเตี้ยไว้กันแดดแล้วใช้วางสัมภาระได้
เที่ยวที่ผมโดยสารไปคนเยอะมาก
เจ้าของเรือใจดีไม่เก็บค่าระวางบรรทุกจักรยาน
โดยให้เกียรติ ผมและจักรยาน ขึ้นไปนั่งบนหลังคา
ปนๆไปกับพวกฝรั่งที่ชอบนั่งหลังคาอาบแดดกัน
คงคิดว่าผมชอบอาบแดดเหมือนพวกฝรั่งมังครับ 55
พอได้เวลาเรือก็พาเรา โต้คลื่นที่มีทั้งโคลงซ้าย โคลงขวา
ลอยสูงๆต่ำๆ และหัวเรือมุดขึ้นๆลงๆ ตามยอดคลื่น
เพราะเรือลำมันเล็กนั่นเอง ผู้โดยสารก็เยอะแทบจะล้นเรือ
บอกตรงๆผมกลัวเรือคว่ำมากๆ จนลืมเมาคลื่นไปเลย 55
ระหว่างนั่งอยู่บนเรือ มีฝรั่งคนนึงตาดีชี้มาที่จักรยาน
ว่าโช่หายไปไหน ผมบอก “chain broken”
ออไรท์ๆ แล้วก็ยิ้มๆกัน
โต้คลื่นอยู่ในทะเลราวๆเกือบ 50 นาที
ก็มาถึงแหลมงอบ (จริงๆ น่าจะถึงเร็วกว่านี้ แต่เรือแบกน้ำหนักจนแปล้ เลยช้า)
พอถึงแหลมงอบก็มีรถตุ๊ก ตุ๊ก เดินมาเรียกหาลูกค้าที่ขึ้นจากเรือ
แต่ไม่มีใครสนใจผมซักคน คงเพราะเห็นมีจักรยานมามั๊ง
ผมเลยถามคนขับ ตุ๊ก ตุ๊ก ว่าแถวนี้ มีร้านซ่อม หรือขายจักรยานมั๊ย
เค้าว่ามีร้านเดียวในตัวเมืองตราด
ถ้าจะไปคิดค่าโดยสารร้อยนึง ผมก็ตอบตกลง
วิ่งไปราวๆ 20 กว่านาที ก็มาถึงร้านขายจักรยานเสือภูเขา
ในตัวเมืองตราด
ผมก็เลยเข้าไปให้เขาต่อโซ่ให้หน่อย
ทางร้านก็จัดการให้รวดเร็วคล่องแคล่วมาก
แถมยังช่วยปรับตั้งเกียร์ ให้ด้วย
แล้วบอกว่าผมตัดโซ่ไปคู่นึงนะ พี่ไปต่อเพิ่มเอาครับ
ผทก็OK เพราะโซ่มันต้องตัดเป็นคู่ อยู่แล้ว
แต่ถ้ามันตัดออกแล้วสั้นไป เวลาเปลี่ยนเกียร์
ไปใช้จานใหญ่แล้ว ตีนผีมันจะยืดออกมากเกินไป
ซึ่งจะทำให้สปริงบางตัวในตีนผียืดจนล้าเกินไปครับ
พอทำเสร็จเรียบร้อย ผมก็ถามว่าเท่าไรครับ
ช่างที่เป็นเจ้าของร้านก็บอกว่า ไม่เป็นไร ไม่คิดเงินครับ
ช่วยเหลือกันครับ นักปั่นด้วยกัน
ผมก็ยกมือไหว้ ขอบคุณพี่เจ้าของร้าน
“ขอบคุณครับ”
ในความมีน้ำใจ ที่ไม่ใช่คิดแบบพ่อค้าครับ
รูปตีนผี จักรยาน ที่วงกลมไว้สีเขียวๆ ฝรั่งเรียกว่า Rear Derailleur
(ขอบคุณภาพจาก internet ครับ)
ตีนผี จักรยาน( Rear Derailleur)
หลังจากนั้นก็ปั่นมาที่ บขส.ตราด ที่ออกมานอกเมืองเล็กน้อย
แล้วก็รอรถโดยสารที่จะไปจันทบุรี ระหว่างรอรถ
ก็หามื้อเที่ยงกิน ทั้งๆที่เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงนิดๆเอง
ยังไม่หิวเท่าไร แต่ถ้าไม่กินตอนนี้
ก็จะหิวตอนอยู่บนรถแน่ๆ
พอรถมาปุ๊บ ผมก็ให้เด็กรถช่วยยกเป้ กับล้อหน้าจักรยาน
ที่ผมถอดรอไว้ก่อนแล้วยกขึ้นรถ
ส่วนผมแบกตัวรถที่ถอดล้อหน้าออกไปแล้วขึ้นรถตามไป
ที่ต้องถอดล้อหน้าออก เพราะมันทำให้ตัวรถสั้นลง
ไม่เกะกะ เวลาเอาขึ้นรถที่แคบๆ เวลาวางก็หงายรถ
เอาล้อชี้ฟ้าขึ้นด้านบน แล้วเอาอานนั่งวางกับพื้น
แค่นี้ก็ไม่ล้มแล้ว บางคนสงสัยว่า
ทำไมไม่จอดปกติแล้วเอาขาตั้งลงล่ะ แค่นี้ก็ไม่ล้มแล้ว
บังเอิญรถพวกนี้ถ้าเอาไปเป็นรถที่ใช้แข่งขัน
จะไม่มีขาตั้ง โปร ครับ โปร 55
ผมก็ให้เงินเด็กรถไป 20 บาทที่ช่วยผมยกของ
พอได้ทิป ทีนี้ดูแลดีมากเลยครับ ไม่ให้อะไรมา
เบียดกับรถจักรยานเลย ผมเลยต้องเอาเป้ไปหนุนๆ
ไว้แทนพวกกระสอบที่ผมเอามามาเบียดๆไว้
กันจักรยานคว่ำตอนรถโดยสารเหวี่ยงเข้าโค้ง
แต่แอดรถก็ดันหวังดี เอาออกซะหมด 55
ผมมาถึงตรงสามแยกที่จะเข้าตัวเมืองจันทบุรี
ก็เกือบบ่ายโมงแล้ว พอดีรถที่จะไปสระแก้ว
ที่ผมจะต้องนั่งต่อไป มาจอดรอผู้โดยสารตรงนั้นพอดี
เด็กรถก็บอกผมว่า ลงตรงนี้เลยครับพี่
แล้วน้องเขาก็คว้าเป้ และล้อหน้าวิ่งนำหน้าไปที่รถ
ผมก็รีบแบกตัวรถตามไป
เหมือนเล่นวิ่งผลัด เด็กรถอีกคันที่จอดรออยู่
ก็มารับของจากเด็กรถคันที่นั่งมาจากตราด
รับส่งกันพอดีเป๊ะ ส่วนผมก็วิ่งตามและแบกจักรยานไปด้วย
เล่นเอาเกือบขึ้นรถไม่ทัน เพราะรถบขส.เขาไม่ได้จอดสนิท
แต่ใช้วิธีไหลๆเอา และก็ตะโกนเรียกผู้โดยสารไปด้วย
เด็กรถคนใหม่นี่เหมือนมืออาชีพ รู้งานดีมาก
รับจักรยานจากมือผมไป วางแบบหงายท้องเสร็จปุ๊บ
เอาเป้มาหนุนพิงข้างจักรยาน ทันทีกันล้มเวลาเข้าโค้ง
แบบนี้ก็ต้องทิปซิครับ รออะไร จัดไป20 บาท 55
การเดินทางช่วงนี้จาก จันทบุรี ไป ศาลาลำดวน จ.สระแก้ว
ค่อนข้างไกล ใช้เวลาเกือบ3 ชั่วโมง
ผมก็เริ่มง่วงก็เลยนอน แล้วเอาขาหนีบจักรยานไว้กันล้ม
แอดรถคนนี้เห็นเข้าก็บอก พี่หลับไปเลยเดี๋ยวผมดูให้
ว่าแล้วน้องเด็กรถก็นั่งกับพื้น เหยียดขาแล้วแกก็เอาหลัง
พิงเป้ที่ผมหนุนรถไว้ กันรถจัรยานคว่ำได้ดีเลย
จากนั้นทั้งผม และแอดรถก็แข่งกันหลับ 55
หลับไปนานมาก มาตื่นตอนเกือบบ่ายสามโมงแล้ว
เหลืออีกเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย
ก็เลยถามเด็กว่าถ้าผมไม่ลง ศาลาลำดวน
ไปลงกบินทร์บุรีเลย จะทันรถ โคราชที่จะเข้าแปดริ้วมั๊ย
เพราะผมรู้แล้วว่าผมไม่ทัน รถที่มาจาก อรัญประเทศ
ที่จะไปแปดริ้วแน่นอน
ถึงต้องลงเพื่อนอนบ้านเพื่อน ที่ศาลาลำดวน
น้องเด็กรถ ตอบว่าไม่แน่ใจ บางทีรถโคราชวิ่งเร็วเราก็ไม่ทัน
แต่ถ้าวิ่งกันตามปกติ น่าจะทันกัน
ผมประเมินแล้ว ลงศาลาลำดวนดีกว่ามี โอกาสไม่ทันรถโคราชสูง
เพราะรถเราหวานเย็นเหลือเกิน จอดรอแทบทุกป้าย 55
มาถึงศาลาลำดวน บ่ายสี่โมงกว่า เอารถลงมาใส่ล้อหน้าเรียบร้อย
ก็หาตู้โทรศัพท์สาธารณะ โทรหาเพื่อนที่เป็นลูกสาวเจ้าของบ้าน
ที่ตอนนี้มาเรียนหนังสือแล้วพักอยู่ในซอยเดียวกับบ้านที่ผมอยู่ที่แปดริ้ว
บอกมันว่าให้โทรบอกที่บ้านหน่อย ว่าคืนนี้จะไปขอพักคืนนึง
เพราะไม่มีรถกลับแปดริ้วแล้ว
DAY 8 Last Episode ตามลิงค์นี้ครับ
DAY 6 ตามลิงค์นี้ครับ
โฆษณา