31 ธ.ค. 2021 เวลา 00:34
แทนที่จะทำงานกันแบบครอบครัว การทำงานควรจะเป็นเหมือน Sport team
📚 No Rules Rules รีวิว #17
พอได้ฟังรีวิวหนังสือเล่มนี้แล้วก็รีบไปซื้อมาอ่านทันทีเลยครับ เป็น Culture การทำงานที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก
ชอบแนวคิดเค้าคือ ถ้าอยากให้คนมีความคิดสร้างสรรค์ มีวิธีคิด แนวคิดใหม่ๆในการ drive บริษัท คุณต้อง control เค้าให้น้อยลง
“Lead with context, not control”
และ “Don’t seek to please your boss”
ให้เค้าได้ take a break เพื่อที่สมองจะได้มี room ในการคิดอะไรใหม่ๆนอกจาก routine และการแก้ปัญหารายวัน
ซึ่งในเล่มนี้จะเล่าอย่างละเอียดเลยว่า
🗣 อ่าว แล้วเราไม่มีกฏมาคอยคุม คนเราจะไม่ออกข้างทางกันหรอ❓/ จะไว้ใจคนเราได้แค่ไหนกัน❓
🗣 ให้เค้าลางานกันเยอะๆ บริษัทก็ไม่คุ้มสิ ไม่ maximized profit ตามที่ business ควรทำนะ❓
ในที่นี้ขอตอบคร่าวๆก่อนลง sequence การสร้าง Culture ของ Netflix โดย CEO คุณ Reed Hastings
🗣 อ่าว แล้วเราไม่มีกฏมาคอยคุม คนเราจะไม่ออกข้างทางกันหรอ / จะไว้ใจคนเราได้แค่ไหนกัน❓
👉 จุดเริ่มต้นคือ เค้าคัดแต่คนที่ super talent มาทำงาน แบบเก่งระดับ top ของ business มาทำงาน โดยจ่ายให้แพงที่สุด ใครจ่ายแพงกว่า ให้พนักงานมา challenge ได้เลย
พอคนเก่งแล้ว คนเหล่านั้นจะรู้ว่าสิ่งไหนที่ควรทำและไม่ควรทำ และสิ่งไหนดีต่อบริษัท
อีกประด็นคือการให้ feedback กันตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผย ส่วนตัวผมอ่านแล้วยังแบบ ในไทยคงจะยากหน่อย แต่ที่ US เค้าเล่าว่าเหมือนมีคนช่วยตรวจสอบ ช่วยแนะนำ กันตลอดเวลา เค้าโอเค
แทนที่จะมีแค่หัวหน้าที่คอยดูเราหรือให้คำแนะนำเรา จะมีคนร่วมงานอื่นๆคอยทำหน้าที่นี้ด้วย โดยทุกคนมุ่งหวังให้งานออกมาดีกันทั้งนั้น ไม่ได้ feedback แบบให้ความรู้สึกเป็นศัตรูหรือคู่แข่งกัน
แต่ตรงนี้ western vs asian culture จะต่างกันพอควร เค้ามีพูดถึงเรื่อง culture map ด้วยว่า ตอนเค้า apply แนวคิดต่างๆ ต้องไปปรับเพิ่มให้เข้ากับคนในประเทศนั้นๆด้วย
🗣 ให้เค้าลางานกันเยอะๆ บริษัทก็ไม่คุ้มสิ ไม่ maximized profit ตามที่ business ควรทำนะ❓
👉 ไม่มี quota วันลา ! เป็นไปได้ไง ใช่ครับ ที่นี่เค้าเชื่อใจพนักงานมาก ให้ไปบริหารจัดการกันเอง แค่ไม่ให้กระทบงาน กระทบคนในทีม แต่หัวหน้าเอง ผู้บริหาร CEO ก็ต้องทำเป็นตัวอย่างด้วย อย่าง CEO เวลาเค้าลาที หายไปอย่างนานเลยครับ 🤣
🌟 สิ่งที่เป็น Highlight มากๆ
แทนที่จะทำงานกันแบบครอบครัว การทำงานควรเป็นเหมือน Sport team
👍 นั่นคือทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือชัยชนะ ความสำเร็จ เราต้องพยายามพัฒนาทีมเรา ให้ทุกๆตำแหน่งมีคนที่เก่งที่สุด หา The Best มาทำงานในตำแหน่งนั้นๆ
✍️✍️✍️
ต่อมา มาเข้าเนื้อหากันสักนิด ขั้นตอน กระบวนการสร้าง Culture ของ Netflix
1️⃣ First Step
1.1) Build up talent density: high performer
👉 ดึงคนเก่งๆมาร่วมงานให้มากที่สุด ให้องค์กรเต็มไปด้วยคนเก่ง
1.2) Introduce candor : feedback
👉 สร้างวัฒนธรรมการให้ feedback ให้กับพนักงาน
1.3) Remove control : vacation/expense policy
👉 ลดการควบคุม ลดกฏเกณฑ์ลง เช่น ไม่มีจำกัดวันลาพักร้อน ไม่มี expense policy ให้พนักงานคิดเสมือนว่าเป็นเงินตัวเอง ถ้ามันดีกับบริษัทจริงๆ แพงหน่อย แต่ผลที่ได้อาจคุ้มกว่า ให้ประเมินเอง
 
2️⃣ Second Step
2.1) Strengthen talent density: paying top of market
👉 เพิ่มจำนวนคนเก่งในองค์กรโดยจ่ายค่าจ้างแพงที่สุดในตลาด เรียกได้ว่าจ่ายจนคนอยากมาทำงานด้วยกันหมด ใครจ่ายมากกว่าให้มาบอก จะขึ้นเงินเดือนให้งี้
2.2) Increase candor : transparency
👉 ทำอะไรให้ clean ตรวจสอบได้เสมอ
2.3) Release control : decision making approval
👉 ลดการควบคุม โดยการให้ตัดสินใจด้วยตัวเอง แทนที่จะต้องรออนุมัติจากหัวหน้า ซึ่ง business ที่ทำงานแบบ silo จะไม่พร้อมกับการหมุนที่เร็วขึ้นของโลกธุรกิจและไม่กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
3️⃣ Third Step
3.1) Max up talent density : keeper test
👉 ไม่ใช่แค่ดึงคนเก่ง แต่ถ้าคนไหน performance ตก หรือไม่ดีเหมือนเดิม หรือคนอื่นๆเก่งกว่า และทำให้เราตกเป็นบ๊วยของทีม
🥶 เมื่อนั้น คุณต้องออกจากบ้าน AF จร้า
💪 นั่นคือ จะมี Keeper Test เพื่อประเมินพนักงาน ถ้าถูกประเมินให้จากไป บริษัทจะจ่าย package อย่างงามเลย เรียกได้ว่าตั้งตัวได้เลย
👋 แต่ในมุมบริษัท เค้าก็จะได้มี position เพิ่มเพื่อดึงคนเก่งเข้ามาทำงานเพิ่ม ไม่ต้องทน manage กับ low performer หรือพวก negative attitude
🤔 ความเห็นส่วนตัว : เป็น culture ที่โหดมากระดับหนึ่งเลย แต่ในหนังสือบอกพนักงานก็โอเคกันนะครับ
ด้วยความที่เค้าเป็นคนเก่ง จะชอบการท้าทายตลอดเวลาอยู่แล้ว ใครรู้สึกไม่ปลอดภัย เครียด เค้าก็บอกว่าไม่เหมาะกับ culture เค้าก็เพียงเท่านั้น อื้ม โหดดีครับ 😅
3.3) Max up candor : circle of feedback
Eliminate most control : leading with context not control
👉 สุดท้ายเมื่อสร้างมาได้ถึงตรงนี้ คำว่า lead with context, not control และ No Rules Rules ก็จะเป็นจริงขึ้นมาได้
#NoRulesRules
#GolferoReview
โฆษณา