31 ธ.ค. 2021 เวลา 05:27 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Spider-Man :NoWayHome
ดูจบแล้วไม่อวย แต่ก็ยังร้องไห้จากใจแฟนสไปเดอร์แมนจริงๆ
นี่คือหนังที่ทำให้สไปเดอร์แมนในจักรวาล MCU กลายเป็นสไปเดอร์แมนในแบบที่คนรักสไปเดอร์แมนทุกคนคาดหวังให้เขาเติบโตไปเป็น ดูมาตั้งสามภาคเหมือนหนังกำลังจะเริ่มจริงๆ ก็ภาคนี้นี่แหละ
เขียนรีวิวยากแสนยาก เพราะต้องพยายามไม่สปอยมาตลอด แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว งั้นเอาเลยละกัน
8/10 ครับ
หนังดีมาก แต่ให้ได้เท่านี้ด้วยประการทั้งปวง
ขอติก่อนหลังจากนั้นจะชมยาวๆ ถ้าจะให้พูดถึงว่าตัดอะไรไป 2 คะแนน ก็คือ 2 เรื่องหลักๆ นี้เลย
1. การกำกับฉากแอคชั่นที่มีคุณภาพมาตรฐานหนัง mcu แต่ไม่ได้โชว์ความเป็น สไปเดอร์แมน เท่าที่ควร ปีเตอร์ในภาคนี้ลดลูกเล่นไฮเทคลงเยอะซึ่งเป็นเรื่องดี แต่หนังพรีเซ้นจุดเด่นออริจินัลของสไปเดอร์แมนออกมาได้น้อยมาก ใครดูเพลินๆ อาจจะไม่เห็นจุดนี้ชัดเจนนัก แต่ใครที่ดูหนังสไปดี้มาทั้งชีวิต คงพอมองเห็นศักยภาพว่าสไปเดอร์แมนยังทำอะไรได้อีกมาก คิวบู๊ก็เฉยๆ ค่อนไปทางเนิบนาบ เราคิดว่าการกำกับฉากบู๊เป็นข้อเสียของผู้กำกับ จอนวัตส์ มาโดยตลอดตั้งแต่ภาคแรกที่ฉากสู้บนเครื่องบินเราดูรอบแรกแทบไม่รู้เรื่อง มาภาคนี้ทำได้ดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นประทับใจอะไร
3
2. การกลับมาของสองสไปดี้ โทบี้ แอนดรูว์ เลือกเปิดตัวด้วยฉากคอมเมดี้ซึ่งเราว่าเสียของมาก จริงอยู่ว่าเราก็เฮในโรงเหมือนกัน แต่ฉากสองคนนี้โผล่มา ต่อให้กดออดเปิดประตูบ้านเข้ามาเฉยๆ คนก็กรี๊ดอยู่แล้ว เข้าใจว่าฉากก่อนหน้าเพิ่งจะดราม่าหนักคงอยากปรับกราฟอารมณ์ลง แต่สองคนนี้ควรได้เข้าซีนมาแบบอิมแพคกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสมศักดิ์ศรีกว่านี้ จะในความคับขัน หรือความกดดันปรี๊ดแตกอะไรของทอมก็ได้ ละการขยี้อะไรพวกนี้ลงไปในซีนนั้นๆ คงทำให้การมาของสองคนนี้เป็นอะไรที่น่าจดจำขึ้นอีกมาก
2
ถึงหนังจะมีสไปเดอร์แมน 3 คนแต่มันก็ไม่ใช่หนัง 3 ตัวเอกเหมือนพวกอเวนเจอร์แต่อย่างใด เรื่องมันยังคงหมุนรอบตัวละครหลักคนเดียว ทำให้อีกสองคนได้บทสมทบที่เป็นตัวประกอบเอามากๆ มองเป็นได้ทั้งข้อดีข้อเสีย แต่หนังก็น่าจะขยี้โมเม้นอะไรที่มันเซอวิสแฟนๆ ให้พีคสุดๆ ได้ถ้ายอมให้แอร์ไทม์มากกว่านี้หน่อย อย่างฉากแอนดรูว์แก้กรรมช่วยเอ็มเจ หรือฉากโทบี้เข้ามาปกป้องนอร์แมน ทุกอย่างมันเร็ว มันรวบรัดจนนักแสดงไม่มีเวลาถ่ายทอดอารมณ์ไปถึงคนดูได้มากเท่าที่ควร ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาที่หนังให้กับฉากตลกไร้สาระนี่แอร์ไทม์คนละเรื่องกันเลย
1
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาก็ตัดหนังได้มากสุดแค่ 2 คะแนน big idea และตัวบทของหนังแม่งดีมาก(มากก)
1
No way home อาจจะเป็นหนังปิดไตรภาค แต่แท้จริงแล้วคือหนังเปิดตำนานของ spiderman ใน mcu อย่างแท้จริง
บทส่งท้ายมันพาเราไปเจาะลึกการเติบโตของปีเตอร์ได้แบบเหมือนอัดหมัดเสยเข้าหน้าคนดูอย่างจัง ทำลายภาพลักษณ์ที่เขายังเป็นเด็กมาตลอดหลายภาค และเป็นฮีโร่มือใหม่ที่ต้องคอยมีพี่เลี้ยงทิ้งไปอย่างหมดจดหมดสิ้นไม่มีเหลือ
สัญลักษณ์ของความเสียสละซึ่งอยู่คู่ความเป็นสไปเดอร์แมนเสมอมาก็กระจ่างชัดในภาคนี้ อะไรๆที่หนังพยายามนำเสนอในภาคแรกของเวอร์ชั่นเก่าๆ ก็ถูกเอามาเดินเรื่อง และเล่าในภาคนี้ เราได้เห็นทุกความสูญเสียที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของปีเตอร์ปาร์คเกอร์จากหนังทุกเรื่องที่ผ่านมา และกระทืบซ้ำอย่างหนักหน่วงด้วยการตายของป้าเมย์ในภาคนี้ กลายเป็นสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นที่เราได้รู้เบื้องหลังและเบื้องลึก พัฒนาการของตัวละครของเขามากที่สุด ก่อนจะถึงวันที่เราจะได้เห็นเขาเป็นสไปเดอร์แมนอย่างแท้จริง (ในอนาคตเรื่องต่อๆ ไป)
หลังจากทุกคนลืมการมีตัวตนของปีเตอร์ หลังจากเขาไม่เหลือใคร เก็บข้าวของไปใช้ชีวิตคนเดียว ตัดชุดเอง (เห็นออริจินัลสูทแล้วแทบกรี๊ด) ก็รู้สึกได้เลยว่า จากนี้ไปนี่แหละคือ ของจริง
ท้ายเรื่อง ตอนปีเตอร์ไปหาเอ็มเจ ฉากนี้ 10/10
สีหน้าของเขาที่เห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุขดีแม้จะลืมเขาไปแล้ว ตอนเอ็มเจถามปีเตอร์ว่า ต้องการอะไรอีกไหม (นอกจากกาแฟ) คำตอบคือ "ไม่" น้ำตากูแทบไหล อะไรวะเนี่ย ทำไมนายถึงต้องทำขนาดนี้
สายตาปีเตอร์เศร้าสร้อยจนเรารู้สึกได้ถึงการต่อสู่กันที่เกิดขึ้นภายในจิตใจระหว่างความสุขของตนกับคนที่เขารัก
เขารู้ว่าตัวเองควรทำอะไร และกำลังจะสูญเสียสิ่งสำคัญที่มีค่ากับเขาไปเพื่อการปกป้องมันเอาไว้ ฉากนี้มันสะท้อนทุกอย่างที่สไปเดอร์แมนเป็นเสมอมา เหมือนคำพูดของป้าเมย์ในภาคสองว่า
"บางครั้งคนเราต้องยอมเสียสละในสิ่งที่ตนปรารถนาที่สุด เพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง"
แม้อยู่คนละจักรวาล ปีเตอร์ก็คือปีเตอร์ แม้ใจปรารถนาเพื่อนและคนรัก แต่สิ่งที่สไปเดอร์แมนแตะต้องมักแตกสลาย (ตามที่โจน่าพูดเอาไว้ในรายการข่าว) เขาจึงเลือกที่จะละทิ้งสิ่งที่ตัวเองต้องการที่สุดในชีวิต เพื่อการเป็นฮีโร่เพื่อนบ้านที่แสนดี เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่เขาช่วยเหลือได้สานต่อเจตนารมณ์และลงมือทำในสิ่งที่ถูกต้องเช่นกัน
2
สรุปคือ ทอม เล่น โคตร ดี อันนี้ สิบเต็ม
แต่อย่างที่กล่าวมา หนังมันก็ไม่ได้เพอร์เฟค มันเซอวิสแฟนๆ ภาคเก่าแบบสุดจัดๆ แต่ก็กินบุญเก่าเยอะมากในขณะเดียวกัน
ตัวโกงที่น่าจดจำก็ กรีนก๊อบลิน เอา mvp ไปซะ ไม่หวง
ถึงหนังจะเคลมว่าตัวเองยิ่งใหญ่ระดับ end game แต่เปล่าเลย มันก็ยังเป็นหนังที่ปมจุดขัดแย้งทุกอย่างมันหมุนรอบตัวคนๆ เดียว ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น
แต่สุดท้ายมันก็ยังสนุกมาก ถึงจะใช้โทบี้กับแอนดรูว์ไม่ค่อยคุ้ม ก็ยังขอบคุณมากที่โผล่มาให้เราหายคิดถึงอยู่ดี
1
คะแนนมันคือ 8/10 แต่ก็เป็นหนังสไปเดอร์แมนที่ยอดเยี่ยม และทุกคนควรดู แฟนๆ อย่างฉันก็น้ำตาไหลกันไป เดี๋ยวจะไปดูรอบสาม สวัสดีนะคุณสต๊าค ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ คุณไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรอีก เพราะเด็กน้อยในวันนั้น ได้กลายเป็นฮีโร่ที่คนทั้งโลกต้องการแล้ว
211231
Ace
1
โฆษณา