3 ม.ค. 2022 เวลา 08:22 • ไลฟ์สไตล์
รีวิวชีวิตตัวเองในปีที่ผ่านมาก่อนจะเริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ 2565
ยุคนี้เป็นยุคของการรีวิว ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ต้องค้นข้อมูลว่าสินค้าที่เราจะซื้อมีใครรีวิวไว้บ้าง เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจ หรือ การดู netflix สักเรื่องโดยทั่วไปก่อนดูเราก็ต้องอ่านเรื่องย่อ หรืออ่านรีวิวหนังเรื่องนี้ก่อนว่าคุ้มค่าที่จะเสียเวลาดูหรือไม่
ภาพ Pixabay
ชีวิตตัวเราเองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน ตั้งแต่เกิดจนมาถึงปัจจุบัน ก็น่าที่จะรีวิว หรือ ทบทวนดูบ้างว่า ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้เราพอใจแล้วหรือยัง ความฝัน หรือ เป้าหมายที่อยากได้ ทำสำเร็จบ้างหรือไม่
ในปีใหม่ 2565 นี้จึงเป็นโอกาสดีที่เราควรมาทำการรีวิว หรือ ทบทวนชีวิตในปีที่ผ่านมาว่า เราได้ทำอะไรที่มีความสำเร็จ หรือล้มเหลวบ้าง รูปแบบชีวิตที่เราต้องการเป็นอย่างไร ตอนนี้ชีวิตเราอยู่จุดไหน เข้าใกล้ถึงเป้าหมายที่ต้องการแล้วหรือยัง
บทความตอนนี้จึงอาจจะมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก แต่อ้อยคราฟต์อยากเขียนบันทึกไว้กันลืม พอสิ้นปีจะได้กลับมาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง คิดว่าถ้าหากเรายิ่งทบทวน เราก็จะรู้จักตัวเราเองมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น
ภาพ Pixabay
จึงลองแบ่งการทบทวนชีวิตออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการเรียนรู้สิ่งใหม่หรือการทำตามความฝัน ด้านสุขภาพร่างกาย ด้านการพัฒนาจิตใจด้านใน ด้านความสัมพันธ์กับคนอื่น ด้านการเงิน
เริ่มต้นด้านแรก ด้านการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อ้อยคราฟต์คิดว่าสำหรับคนวัยเกษียณ ถ้าไม่อยากให้ชีวิตเงียบเหงาควรจะให้ความสำคัญในการเรียนรู้สิ่งใหม่ เพราะโลกยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เป็นเรื่องสำคัญจะทำให้เราไม่ถูกลืม หรือทิ้งไว้ข้างหลัง หลังเกษียณอ้อยคราฟต์ลงมือทำตามฝันที่เฝ้ารอมานาน อาทิเช่น ตอนช่วงต้นปี ได้ทดลองปลูกกุหลาบ ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะปลูกดูเล่นคลายเครียดอย่างมากไม่เกิน 10 ต้น เมื่อเวลาผ่านไปเกือบปี ตอนนี้มีกุหลาบเกือบห้าสิบต้น ลงมือทำเป็นสวนกุหลาบจริงจัง
ภาพ Pixabay
หรือ ความฝันอยากเป็นนักเขียน เป็นความฝันตั้งแต่เด็กเพราะชอบอ่านหนังสือ ปลายปี 2564 เริ่มเรียนเขียนบทความออนไลน์ เมื่อถึงสิ้นปีเขียนได้จำนวน 40 บทความ มีคนติดตาม 500 คน ภูมิใจมากสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น นอกจากนี้ได้เรียนรู้การลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีตอนปลายปีเช่นกัน เพราะอยากรู้จักว่าคืออะไร ทำไมเกิดกระแสทั่วโลก เหมือนลงทะเบียนเรียนวิชาสกุลเงินเหรียญดิจิตอล แต่ลงทะเบียนด้วยเงินจำนวนที่ไม่สูงและเป็นเงินเย็น
คะแนนด้านแรกนี้ให้ตัวเองคะแนนสูงพอสมควร แต่ยังไม่สมควรได้คะแนนเต็ม ถึงแม้จะลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ หลายอย่าง แต่สิ่งที่ตั้งใจมานานยังไม่สำเร็จ นั่นคือ การเปิดร้านห้องนั่งเล่นอ้อยคราฟต์เพื่อขายหนังสือและงานคราฟต์ เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 และต้องดูแลพ่อวัยชราที่ต้องการการดูแลที่เพิ่มขึ้น แต่ได้ลงมือปรับปรุงร้าน ทำรั้วบ้านใหม่ จัดสวนหน้าร้าน เปลี่ยนประตู ลงโปรแกรมขายสินค้า ฯลฯ
ภาพ Pixabay
ต่อมาด้านการดูแลสุขภาพร่างกาย ข้อนี้สำคัญที่สุด ถ้าระบบพื้นฐานการกินอยู่หลับนอนเป็นปกติ ทุกอย่างในชีวิตก็จะราบรื่น ไม่ว่าด้านการงาน การเงิน หรือ ความสัมพันธ์ แต่ปีที่ผ่านมาอ้อยคราฟต์ทำได้ไม่ดี น่าจะได้คะแนนน้อย ปีนี้วิ่งแค่ 300 กม. จากตั้งเป้าหมายเดือนละ 100 กม. ยังไม่เลิกกินแป้งและน้ำตาล แถมปีที่ผ่านมาเป็นนิ้วล็อคนาน 6 เดือนจากการปลูกกุหลาบ การพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอเพราะต้องนอนเป็นเพื่อนพ่อ
นอกจากนี้หลังเกษียณ คาดว่าจะได้เดินทางพักผ่อนท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่สถานการณ์โรคระบาดโควิดทำให้อยู่แต่บ้าน ทำให้มีความเครียดสะสม แต่อ้อยคราฟต์ก็มีวิธีการจัดการความเครียดให้ลดลง เช่น การทำสวนกุหลาบ หรือ การแว็บออกจากบ้านตอนบ่ายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแต่ละวันไปนั่งร้านกาแฟเพื่อปลี่ยนบรรยากาศ
สำหรับด้านการพัฒนาจิตวิญญานภายใน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ อ้อยคราฟต์เลือกการฝึกเจริญสติ โดยศึกษาจากยูทูบ ทุกคืนก่อนนอนก็ฝึกนอนสมาธิ พอตื่นนอนก็นั่งสมาธิ ถ้าจะให้คะแนนคงได้ปานกลางไปหาน้อย เนื่องจากทำบ้างไม่ทำบ้าง
ต่อมา ด้านความสัมพันธ์กับคนอื่น ด้านนี้ได้คะแนนสูง หลังเกษียณอ้อยคราฟต์มีเวลาดูแลปรนนิบัติพ่ออายุ 100 ปี อย่างเต็มที่ นอนห้องเดียวกันเฝ้าพ่อทุกคืน ดีใจที่ได้ดูแลในเวลาที่พ่อต้องการเราทันเวลา ซึ่งก่อนหน้าปี 2564 พ่อยังสุขภาพแข็งแรงเดินเหินไปมาได้เอง ชงกาแฟเอง แต่ในปีที่ผ่านมา ความชราของพ่อเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง กลางปีหกล้มเข้าโรงพยาบาล พอออกจากโรงพยาบาลต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น แต่ก่อนสิ้นปีอ้อยคราฟต์ได้จัดทริปพาพ่อเที่ยวกรุงเทพ อยุธยา และชลบุรี เป็นทริปที่พ่อมีความสุขมาก ซึ่งอาจเป็นทริปสุดท้ายที่พ่อจะสามารถร่วมเดินทางได้ เมื่อกลับมาถึงบ้านพ่อใช้เวลาฟื้นตัวนาน คะแนนด้านนี้น่าจะได้คะแนนเต็มเพราะอ้อยคราฟต์ปักหมุดการดูแลพ่อให้เป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง
สุดท้าย ด้านการเงิน หลังเกษียนอ้อยคราฟต์สามารถปลดภาระหนี้สินได้จากเงินออม มีปัจจัย 4 ครบแล้วในการดำรงชีวิต อยู่บ้านที่เป็นของตัวเอง มีรถยนตร์อายุ 15 ปีที่สภาพสามารถขับไปตลาดและร้านกาแฟได้ สามารถบริหารรายจ่ายไม่ให้เกินรายได้ ดำรงชีพแบบเกษียณพอเพียง
สรุปคะแนนรวมผลของการีวิวชีวิตตัวเองในปีที่ผ่านมา ถ้าคะแนนเต็มสิบ คงได้เพียงเจ็ด หรือ แปดคะแนน คะแนนที่ขาดหายไปจากการที่ไม่ได้ท่องเที่ยว และยังมีความวิตกกังวลในการดูแลพ่อผู้ชราในปัจจุบัน
ภาพโดยผู้เขียน
ปี 2564 เป็นปีแรกที่อ้อยคราฟต์ไม่ได้ทำงานเนื่องจากเกษียณแล้ว ตอนแรกยังไม่แน่ใจว่าชีวิตหลังเกษียณจะเป็นอย่างไร อาจจะคิดถึงชีวิตทำงานแบบเดิม ตื่นเช้าแต่งตัวขับรถไปทำงาน หรือ การได้เข้าร่วมประชุมต่าง ๆ แต่หลังจากหนึ่งปีที่ผ่านไป พบว่า ชีวิตอ้อยคราฟต์มีสิ่งใหม่ให้ทำตลอดเวลา เหมือนอัดอั้นรอเวลามานาน จนไม่มีเวลาหวนคิดถึงอดีต จึงบอกตัวเองว่าเมื่อก้าวออกจากงานแล้วก็ต้องปล่อยวาง ชีวิตมีเรื่องสนุกตื่นเต้นท้าทายรอเราอยู่ ชีวิตต้องมูฟออนต่อไป
สวัสดีปีใหม่ 2565
อ้อยคราฟต์ 🪴
เชื่อว่าการอ่าน การเขียน และการปลูกกุหลาบ ทำให้โลกนี้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
บทความที่ 65/4
โฆษณา