“มีเงินเก็บ 1 ก้อน” ควรนำไปลงทุนอะไรดี? ต้อนรับปีใหม่!
ปีใหม่แบบนี้! สำหรับใครที่เริ่มเก็บเงินมาได้สักระยะและเริ่มมองหาช่องการลงทุน วันนี้ aomMONEY ขอหยิบข้อมูล 6 แหล่งลงทุนที่น่าสนใจ! ไม่ว่าจะลงทุนเพื่อให้เงินเติบโตงอกเงยหรือลงทุนไว้ใช้ยามเกษียณ
ทีมงานก็รวบรวมไว้ให้ครบที่นี่แล้วครับ 🙂
✅ 1.คริปโตฯ และ NFT
นาทีนี้ จะมีอะไรมาแรงเท่ากับการลงทุนในคริปโตล่ะครับ โดยการลงทุนในเหรียญคริปโตฯ มีข้อดีคือ เริ่มต้นด้วยเงินที่น้อยมาก 10 บาทก็ลงทุนได้ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงที่เรียกได้ว่าอาจจะพลิกชีวิตเป็นเศรษฐีในข้ามคืน (จากการการขายราคาส่วนต่าง)
เพียงแต่การจะลงทุนในเหรียญคริปโตฯ aomMONEY ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ศึกษาข้อมูลเหรียญให้ดีก่อน เลือกลงทุนในแพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรอง จาก กลต. เท่านั้น ที่สำคัญ! ต้องตระหนักไว้เสมอว่า อย่าโลภ การลงทุนในคริปโตฯ มีความผันผวนสูง เสี่ยงขาดทุน (เป็นศูนย์) ได้สูงมาก
ดังนั้น จึงไม่ควรนำเงินลงทุนทั้งหมดที่มีทุ่มไปที่การลงทุนคริปโตฯ หรือลงทุนเพียงเหรียญใดเหรียญหนึ่งหรือสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ควรจัดพอร์ตกระจายการลงทุนไปสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย เช่น หุ้น กองทุน ตราสารหนี้ เป็นต้น
✅ 2. หุ้น
เพื่อนๆ ที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการ แต่ไม่อยากลงมือปั้นธุรกิจเอง ผมบอกเลยครับว่าการลงทุนในหุ้น! นี่แหละ คือ โอกาสของการมีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมกับเจ้าของบริษัท โดยเราจะซื้อหุ้นของบริษัทใดได้ บริษัทนั้นต้องเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้แม้การลงทุนในหุ้นจะมีความเสี่ยงสูงในการขาดทุน เพราะเหมือนเราไปร่วมหัวจมท้ายกับกิจการนั้นๆ แต่เราก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าเงินฝากหรือตราสารหนี้แน่นอน ทั้งในแง่เงินปันผลหรือกำไรจากการขาย
✅ 3. กองทุนเปิดทั่วไป
เพื่อนๆ คนไหนที่อยากเริ่มต้นลงทุน กองทุนเปิดทั่วไปก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย เช่น 500 บาท หรือ 1 บาท เท่านั้น โดยแต่ละกองทุนจะมีนโยบายนำเงินไปลงทุนกับสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน เช่น บางกองทุนลงทุนกับตราสารหนี้ บางกองทุนลงทุนในหุ้นไทย บางกองทุนลงทุนหุ้นจีน บางกองทุนลงทุนในอสังหาฯ ตรงนี้เพื่อนๆ ก็ต้องลองไปศึกษาดูครับ เพราะบ้านเรามีนโยบายกองทุนให้เลือกหลากหลายมาก
จุดเด่นของกองทุนเปิดทั่วไป คือ การซื้อขายได้ทุกเวลาทำการ ไม่มีระยะเวลาการถือครอง แถมลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นแค่หลักร้อย ดังนั้นจึงเหมาะมากกับมือใหม่ที่ไม่มีเวลา แต่ต้องการลงทุนให้คนงอกเงย!
✅ 4. กองทุน ETF
ETF คือ ลูกผสมระหว่างหุ้นและกองทุนครับ ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาการลงทุนที่ล้อกับดัชนีที่เราสนใจ เช่น ดัชนีหุ้นไทย ดัชนีหุ้นสหรัฐ ดัชนีหุ้นกลุ่ม Healthcare กองทุน ETF ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ เพราะเน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี หรือราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิงครับ
ที่สำคัญ ค่าธรรมเนียมถูกมาก! ทั้งนี้การซื้อขาย ETF จะซื้อขายกันเหมือนหุ้นที่ดูราคากันแบบเรียลไทม์ แถมได้กระจายความเสี่ยงเพราะมีหุ้นหลายตัวอยู่กอง นี่แหละครับความสนใจของกองทุน ETF (แต่ในไทยยังไม่ค่อยฮิต สภาพคล่องอาจจะยากหน่อยนะครับ)
✅ 5. กองทุน SSF และ RMF
สำหรับคนที่ต้องการลงทุนระยะยาวและพ่วงด้วยสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ขอแนะนำให้รู้จักกับกองทุน SSF และ RMF ครับ ทั้ง 2 กองทุนนี้เหมาะกับการลงทุนเพื่อเก็บเงินเกษียณและระยะยาวทั้งคู่ เพียงแต่ต่างกันแค่เงื่อนไขการลงทุนและระยะเวลาในการถือครอง โดย SSF ต้องถือครอง 10 ปีบริบูรณ์ นับจากวันที่ซื้อถึงจะขายทำกำไรได้ ส่วน RMF จะขายได้ก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปี ก็เรียกได้ว่าเป็นการบังคับตัวเองเก็บเงินยาวๆ อีกช่องทางครับผม
✅ 6. ประกันสะสมทรัพย์
สำหรับคนที่อยากออมเงินและได้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต ประกันสะสมทรัพย์ก็น่าสนใจครับ เพราะนอกจากจะรู้จำนวนเงินที่แน่นอนในอนาคตว่าเราจะได้เงินก้อนเท่าไหร่ กรณีที่เราเสียชีวิตก็ยังมีเงินก้อนทิ้งไว้ให้คนข้างหลังอีกด้วย เช่น ออม 5 ปี เมื่อถือครบปีที่ 10 จะได้เงินก้อนจำนวนหนึ่งออกมา หรือถ้าเสียชีวิตก็มีวงเงินคุ้มครองด้วย
แม้การซื้อประกันสะสมทรัพย์จะได้ผลตอบแทนที่ไม่มาก สู้การลงทุนในคริปโตฯ หุ้น หรือกองทุนไม่ได้ แต่อย่าลืมนะครับว่า วัตถุประสงค์ที่ใช้มันต่างกัน การลงทุนเราทำเพื่อให้เงินงอกเงยได้ผลตอบแทน แต่การซื้อประกันสะสมทรัพย์ เราได้ความคุ้มครองชีวิตและการออมเงินรวมถึงผลตอบแทนตามสัญญาครับ
✅ 7. ประกันบำนาญ
สำหรับคนที่อยากได้เงินเบี้ยเลี้ยงหลังเกษียณ ขอแนะนำให้รู้จักกับ “ประกันบำนาญ” โดยเมื่อเราจ่ายเบี้ยจนครบสัญญาและเกษียณแล้ว ประกันบำนาญจะคอยจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้กับเรา แบบรายเดือน หรือรายปี ตามที่สัญญาระบุ
ข้อดีคือ ระหว่างที่เราจ่ายเบี้ยให้กับประกันเราสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะ อีกทั้งประกันบำนาญช่วยให้เราคำนวณได้ว่า หลังเกษียณเราจะมีเงินจำนวนเท่าไหร่ แตกต่างกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ถ้าใครมองหารายได้หลังเกษียณอยู่ ประกันบำนาญก็ตอบโจทย์ครับ
✅8 ประกันชีวิตควบการลงทุนแบบยูนิต ลิงค์
สำหรับคนที่อยากได้ความคุ้มครองชีวิต และคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุน ประกันชีวิตควบการลงทุนแบบ “ยูนิต ลิงค์” ก็จะตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ครับ โดยเบี้ยประกันที่เราจ่ายจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะถูกหักออกไปเพื่อชำระค่าใช้จ่ายในการทำประกันชีวิตก่อน เบี้ยส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในกองทุนรวมตามสัดส่วนที่เราเลือกไว้
แม้ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนส่วนนี้ ผลตอบแทนอาจจะน้อยกว่าการลงทุนกองทุนโดยตรงด้วยตัวเอง แต่ว่าสิ่งที่กองทุนรวมไม่มี คือ ความคุ้มครองชีวิตหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดนะครับ ดังนั้นผมแนะนำว่า ถ้ามองหาประกันชีวิตที่มีการลงทุนไปด้วย “ยูนิต ลิงค์” ตอบโจทย์ได้ครับ
อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่า “การลงทุน” ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็มีความเสี่ยงจากการขาดทุน (เว้นประกันสะสมทรัพย์ ประกันบำนาญ การฝากเงิน และสลากออมทรัพย์) การกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวอาจจะเป็นความเสี่ยงที่มากจนเกิน aomMONEY แนะนำศึกษาเรื่องการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อลดโอกาสในการขาดทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรกันด้วยนะครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์ครับ
#aomMONEY
◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
aomMONEY ก้าวแรกสู่ความสำเร็จทาง "การเงิน"
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢
👍 ชอบกด Like โดนใจ กด Share และอย่าลืม ✅ See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ ๆ ก่อนใคร
ติดตามความรู้ทางการเงินในช่องทางอื่นๆ ได้ที่
📌 กลุ่มกองทุนไหนดี https://bit.ly/3aOjgMl
- 25
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
