5 ม.ค. 2022 เวลา 00:17
"ดร.โนงุจิ ด้วยใจนักสู้" เรื่องจริงของนักวิจัยชาวญี่ปุ่น เจ้าของใบหน้าบนธนบัตร 1000 เยน
2
ประวัติของดร.โนงูจิสนุก เข้มข้น จนมีการนำไปเขียนเป็นการ์ตูนมาเมื่อหลายสิบปีก่อน ในหมู่นักอ่านการ์ตูนยุคปัจจุบันยังคงเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้ง
3
เล่าเรื่องตามการ์ตูน
ดช.โนงุจิพิการที่มือมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวยากจน มีพ่อขี้เหล้า จึงโดนเพื่อนแกล้งเป็นประจำ ทำให้ไม่ชอบไปโรงเรียน
1
วันนึงโนงุจิได้รับโอกาสช่วยครูประจำชั้นสอนหนังสือ เค้าพบว่าเมื่อมีความรู้เพื่อนก็ไม่รังแก
1
ตั้งแต่นั้นมาโนงุจิตั้งใจเรียนจนผลการเรียนเป็นที่หนึ่งตลอด เป็นที่รักของเพื่อนและครู
1
ด้วยความที่โนงุจิยากจน ไม่มีเงินซื้อหนังสือเรียน จึงมักจะได้รับความช่วยเหลือจากครูอยู่เสมอทำให้เค้ารักและเคารพครูมาก ความฝันของโนงุจิในตอนนั้นจึงอยากเป็นครู
1
แต่ก็ต้องผิดหวังทันทีที่บอกครูประจำชั้น เนื่องจากมือซ้ายที่พิการเป็นอุปสรรค
3
แม้โนงุจิผิดหวังมาก แต่เค้ามีความฝันใหม่
คือ"เป็นหมอ" ซึ่งนั่นเป็นเป้าหมายที่สูงขึ้นไปอีก
2
ในตอนนั้นการสอบเข้ามหาลัยแพทย์ต้องสอบ 2 รอบ ว่ากันว่าบางคนสอบถึงสิบปีก็ไม่ติด แต่โนงุจิสามารถสอบรอบแรกติดตั้งแต่ครั้งแรกด้วยคะแนนสูงสุด
3
โนงุจิเรียนจบหมอด้วยวัยเพียง 20 เท่านั้น แต่ก็มีอุปสรรคต่อมาคือมือซ้ายที่พิการของเค้าไม่สามารถจับมีดผ่าตัดได้
2
แต่เค้ายังไม่ยอมแพ้ ..
2
โนงุจิผันตัวเองไปเป็นนักวิจัย เริ่มหาหนทางออกไปสู่ต่างประเทศ ที่ไม่มีการกดขี่รังแกโนงุจิผู้ยากจนและไม่จบจากม.โตเกียว
1
งานแรกของโนงุจิในหนังสือการ์ตูนเขียนไว้ว่าได้เงินเดือนน้อยกว่าคนดูแลสัตว์ทดลองเสียอีก เค้าต้องดูแลสัตว์ทดลองไปด้วย เขียนวิจัยไปด้วย จนเริ่มเป็นที่ยอมรับต่อผู้ร่วมสถาบันมากขึ้น
2
ต่อมาได้ทำงานที่สถาบันร้อกกี้เฟลเลอร์ที่มีชื่อเสียง
โนงุจิมีผลงานวิจัยออกมามากมายที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเค้าและญี่ปุ่น ได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย ผลงานที่ทำให้ดร.โนงุจิเป็นที่ยอมรับคือการเพาะเชื้อก่อโรคซิฟิลิส
2
ต่อมามีโรคไข้เหลืองระบาดหนัก และยังไม่มียารักษา ดร.โนงุจิจึงอาสาร่วมทีมวิจัยโรคไข้เหลืองด้วยตนเอง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เค้าติดโรคไข้เหลืองระหว่างการวิจัยและเสียชีวิตในที่สุด
3
ดร.โนงุจิเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่น ไม่ใช่เพียงเพราะมีใบหน้าปรากฎอยู่บนแบงก์ 1000 เยน หรือเป็นมังงะเท่านั้น
1
แต่ดร.โนงุจิยังเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้จะไม่มีต้นทุนใดติดตัวมาในตอนเกิด
4
นอกจากความไม่ยอมแพ้แล้ว ยังมีความอดทนต่ออุปสรรคทางสังคม การโดนดูถูกต่าง ๆ มุมานะต่อการทดลองด้วยการแพทย์ที่มีขีดจำกัด และกล้าหาญที่จะเผชิญหน้าต่อทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่การเผชิญหน้ากับโรคร้ายที่คร่าชีวิตเค้าในที่สุด
3
"ความอดทนมีรสขม แต่ผลของความอดทนมีรสหวาน"
เป็นข้อความที่ดร.โนงุจิสลักไว้เมื่อกลับมาญี่ปุ่นครั้งสุดท้าย
4
จะเล่าอะไรให้ฟัง
5 ม.ค.65
3
โฆษณา