5 ม.ค. 2022 เวลา 05:51 • ธุรกิจ
กำเนิดโคตรเซลส์ในตำนาน EP 5 สัมภาษณ์ชี้ชะตา
ประโยคแรกที่ท่านผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจเอ่ยทักคือ
"คุณพ่อเธอสบายดีหรือเปล่า"
โคตรเซลสฯ เหลือบมองป้ายชื่อบนโต๊ะท่าน ใช่จริงด้วย ผู้บริหารท่านนี้เป็นอดีตลูกศิษย์คุณพ่อ คุณแม่เขานั่นเอง คราวนี้ไม่เกร็งแล้ว เพราะทราบข้อมูลเบื้องต้นมาคร่าวๆ
บรรยากาศการพูดคุยไม่มีกลิ่นอายของการสัมภาษณ์งานเลย ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนนอกจากจะเป็นลูกศิษย์คุณแม่เขาแล้ว บ้านท่านก็อยู่ใกล้บ้านพักครูด้วย ท่านเห็นเขามาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ยังเคยช่วยเลี้ยงเขาเลยสมัยนั้น คุณแม่เขาเป็นครูที่ท่านสนิทด้วยมากที่สุดในโรงเรียน
ท่านเล่าเรื่องของท่านให้ผมฟังหลายอย่าง ตั้งแต่เรียนจบมัธยมที่นั่น จนเข้ามาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ จบแล้วก็มาทำงานที่บริษัทนี้เลย ไม่เคยย้ายไปไหน ร่วมบุกเบิกสร้างบริษัทนี้ขึ้นมากับ Gen 2 ทั้งหมดตั้งแต่แรกเริ่ม
พอมีจังหวะ โคตรเซลส์ฯ เลยถือโอกาสถามท่านถึงข้อสงสัยที่ติดอยู่ในใจเรื่องเซลส์เก่าที่นี่ ว่าหายไปไหนกันหมด ท่านจึงเฉลยให้ฟังว่าทีมเซลส์ต่างจังหวัดยกทีมลาออกไปอยู่บริษัทคู่แข่งกันหมดตอนสิ้นเดือนที่แล้ว เหลือแค่เซลส์ภาคอีสานบนคนเดียว ที่ตัดสินใจอยู่ต่อไม่ยอมทิ้งบริษัทตามพวกนั้นไป ฟังจากน้ำเสียงท่านดูออกเลยว่าไม่ค่อยจะลงรอยกับกลุ่มเซลส์เก่าเท่าไหร่นัก
โคตรเซลส์ฯ ผ่านด่านที่2 นี้มาได้แบบงงๆ เดินตามเจ้าหน้าที่ไปด่านที่ 3 ยังตึกแรก รอบนี้เป็นคิวของท่านผู้จัดการฝ่ายบุคคล แต่ช่วงนั้นใกล้พักเที่ยง เจ้าหน้าที่จึงให้พวกเราไปหาอะไรทานกันก่อน เวลา 13.00 น. เริ่มเข้ารับการสัมภาษณ์ตามคิว
ช่วงบ่ายโคตรเซลส์ฯ เข้ารับการสัมภาษณ์จากท่านผู้จัดการฝ่ายบุคคล เนื้อหาไม่มีอะไรเลย ท่านถามถึงคุณพ่อเสร็จก็เล่าเรื่องของท่านให้ฟังต่อ สักพักท่านถามว่ารู้เรื่องของเซลส์เก่าหรือยัง โคตรเซลส์ฯ ก็ตอบว่าทราบแล้ว ทางผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจเล่าให้ฟัง ท่านพยักหน้า แล้วบอกเสียดาย ชุดนี้เก่งมาก ร่วมบุกเบิกสร้างบริษัทกันมาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะตัวผู้จัดการฝ่ายขายต่างจังหวัดเนี่ยสุดยอดฝีมือเชียว เป็นคนเดียวที่เจ้าของบริษัทนี้กลัวที่สุด
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็มานั่งรอกันที่ห้องประชุมเดิม จนพากันทยอยเข้ามาครบ เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาแจ้งพวกเราว่า ให้กลับกันได้แล้ว สำหรับผู้ที่ผ่านการสัมภาษณ์วันนี้ บริษัทจะติดต่อไปภายในไม่เกิน 3 วัน เพื่อให้เข้ามารับการสัมภาษณ์รอบสุดท้าย
ตอนนั้นพึ่งบ่าย 2 เอง โคตรเซลส์ฯ เลยนั่งรถเมล์กลับอย่างชิวๆ
วันนั้นคือวันพฤหัสบดี
วันรุ่งขึ้นโคตรเซลส์ฯ ก็มาทำงานตามปกติ ไม่มีใครว่าอะไร เพราะปกติโคตรเซลส์ฯ ก็ไม่ค่อยหยุดงานบ่อยอยู่แล้ว บ่ายสามวันนั้นเองพี่ฝ่ายบัญชีอีกคนเดินเข้ามากระซิบโคตรเซลส์ฯ บอกว่า เมื่อกี้บริษัทที่เธอสมัครไว้เขาโทรมา บอกพรุ่งนี้ 08.15 น.ให้เข้าไป แล้วพี่เขาก็ยิ้มพร้อมบอกโคตรเซลส์ฯ ว่าพยายามให้ได้นะ (วันนั้นขากลับเจ้าหน้าที่บุคคลเขาขอเบอร์ติดต่อที่บริษัทไว้ด้วย)
อืมม์ เมื่อวานก็พึ่งลากิจไป พรุ่งนี้ต้องลาอีกแล้วเหรอ สงสัยคงต้องป่วยอีกแล้วล่ะเรา
วันรุ่งขึ้นโคตรเซลส์ฯ จับรถสองแถวออกไปแต่เช้า เห็นเวลายังเหลืออีกเยอะเลยขึ้นรถเมล์ไปแบบชิวๆ วันนี้ไม่ได้แจ้งใครว่าหยุด เดี๋ยววันจันทร์ค่อยบอกว่าท้องเสียแล้วกัน ง่ายดี
โคตรเซลส์ฯ ไปถึงที่นั่นก่อนเวลาหน่อย น้องประชาสัมพันธ์คนสวยจำได้ เธอเรียกแม่บ้านวัยรุ่นคนเดิมพาไปห้องประชุมชั้น 2 เช่นเคย มีคนรออยู่ก่อน 5-6 คน สักพักก็มีคนทยอยตามเข้ามาเรื่อยๆ คราวนี้ต่างคนเริ่มมีการยิ้มพูดคุยทักทายกันบ้างแล้ว เกือบ 08.30 น. โคตรเซลส์ฯ สังเกตุได้ว่า ชุดเดิมที่เจอกันวันนั้นมีหายไป 2 คน เท่ากับวันนี้มีเหลืออยู่ 13 คน และมี 3 คนที่ต้องหลุดออกไป
ท่านผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้ามาแจ้งกับพวกเราว่า รอบนี้คือ Final ผู้ที่สัมภาษณ์วันนี้คือ ท่านประธานฯ และกรรมการผู้จัดการ พวกเราถูกพาออกไปนั่งที่ด้านนอกห้องประชุม ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเชิญเข้าไปทีละคน คนที่สัมภาษณ์เสร็จก็ให้กลับเข้าไปรอในห้องประชุมเดิม โคตรเซลส์ฯ ถูกเรียกเข้าไปเป็นคนที่ 12 คนสุดท้ายหลังโคตรเซลส์ฯ เป็นเฮียหนวดขี้เก๊ก แต่งตัวเนี้ยบ ใส่เลสทอง 5 บาท
ผู้สัมภาษณ์มี 2 ท่าน ท่านประธานอายุประมาณ 60 ต้นๆ ท่าทางใจดี ส่วนท่าน MD น่าจะ 50 กลางๆ จ้องหน้าโคตรเซลส์ฯ นิ่ง ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา ท่านประธานให้โคตรเซลส์เล่าถึงงานที่เคยทำให้ฟัง โดยเฉพาะเวลาเข้าร่วมประมูลงานต่างๆ หรือเวลาที่เราเข้าไปเจรจากรณีจัดซื้อพิเศษ ซึ่งโคตรเซลส์ฯ ก็ตอบได้หมด เพราะเคยทำมาจริง
ดูท่านประธานจะถูกชะตาโคตรเซลส์ฯ เป็นพิเศษ ส่วนท่าน MD น้องชาย มองว่าโคตรเซลส์ฯ ยังเด็กเกินไปไม่เหมาะ คราวนี้ท่านประธานดูในใบสมัครโคตรเซลส์ฯ เห็นว่าเคยย้ายไปอยู่จังหวัดใหญ่ในภาคอีสานแห่งหนึ่ง ท่านเลยถามว่า ในจังหวัดนี้รู้จักผู้บริหารคนไหนบ้างมั้ย โคตรเซลส์ฯ ก็เอ่ยออกมา 2-3 ชื่อ ซึ่งเมื่อก่อนท่านเหล่านั้นเคยเป็นลูกน้องคุณพ่อมาก่อน
โคตรเซลส์ฯ สังเกตุเห็นว่า ท่าน MD ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาจ้องเขม็งตอนได้ยินชื่อนั้น ก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์
ท่านประธานถามว่า "ดื่มไหม"
ก็ตอบท่านไปว่า "ดื่มครับ"
ท่านถามต่อว่า "แล้วบ่อยไหม"
ถ้าเป็นคนอื่นรับรองต้องตอบว่า ไม่บ่อย เฉพาะเวลาเข้าสังคม อะไรประมาณนั้น
แต่โคตรเซลส์ฯ ตอบท่านว่า
"ค่อนข้างบ่อยครับ"
โคตรเซลส์ฯ สังเกตุเห็นว่าท่าน MD กำลังพยายามกลั้นยิ้มตอนได้ยินคำตอบ ส่วนท่านประธานพยักหน้าทำนองพอใจในคำตอบแบบตรงไปตรงมาของโคตรเซลส์ฯ ท่านบอกให้กลับไปรอในห้องประชุมก่อน สักพักจะมีการแจ้งผลไป
โคตรเซลส์ฯ เข้ามานั่งรอผลในห้องประชุม บรรยากาศภายในเริ่มผ่อนคลายลง พี่ๆ หลายคนดูมั่นใจกันมาก ส่วนโคตรเซลส์ฯ กำลังคิดว่าวันจันทร์คงโดนเจ้านายเรียกเข้าไปเทศน์ชุดใหญ่แน่นอน เล่นหยุดแบบท้าทายกันขนาดนี้
สักพักเฮียหนวดก็กลับเข้ามา อีกไม่ถึง 2 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่มาเชิญผู้สมัครคนหนึ่งออกไป สักพักก็มาเชิญอีกคนออกไป ผ่านไปอีกเกือบ 20 นาที บรรยากาศในห้องเริ่มตึงเครียดมากขึ้น
เจ้าหน้าที่คนเดิมมาเชิญเฮียหนวดขี้เก๊กออกไป
แทบจะไม่ถึง 2 นาที ท่านผู้จัดการฝ่ายบุคคลเดินเข้ามา แล้วกล่าวต้อนรับพวกเราเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ โดยขอให้ทุกคนเข้ามาเริ่มงานพร้อมกันภายในวันอังคารทันที (ยังดีให้เวลากลับไปลาออกจากที่เก่าก่อน 1วัน)
บทส่งท้าย : อันนี้โคตรเซลส์ฯ มารู้ภายหลัง ตอนที่ตัดคนสุดท้ายออก มีอยู่ 2 คนที่ตัดสินใจลำบาก คือโคตรเซลส์ฯ กับเฮียหนวดขี้เก๊ก ผู้บริหารบางท่านเสนอว่าให้รับเอาไว้ทั้งคู่ แต่เอาคนใดคนหนึ่งมาวิ่งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแทน แต่ท่าน MD ไม่ยอม ท่านจะตัดออก 1 คน (ไม่น่าเชื่อนะ มีคนบอกภายหลังว่า ท่านจะตัดเฮียหนวดขี้เก๊กออก แล้วรับโคตรเซลส์ฯ คนเดียว)
สุดท้ายทำท่าจะโต้เถียงยืดเยื้อ ท่านประธานเลยตัดบทไปว่า ให้เฮียหนวดขี้เก๊กเข้ามาอีกรอบวันจันทร์ แล้วให้ผู้จัดการภาคนครหลวง เป็นคนสัมภาษณ์และตัดสินใจเองว่าจะพิจารณาให้ลงเขตไหน
สรุป พอรู้ว่าให้วิ่งกรุงเทพฯและปริมณฑล เฮียหนวดขี้เก๊กแกเลยไม่เอา
เกือบลืมอีกเรื่อง ชื่อของผู้ใหญ่ที่ภาคอีสานที่เอ่ยออกมาท่านนั้น กว้างขวางมากในแวดวงกลุ่มผู้บริหารแถวภาคอีสานด้วยกัน แล้วบังเอิญดันรู้จักกับท่าน MD ด้วยน่ะครับ
โฆษณา