7 ม.ค. 2022 เวลา 01:57 • กีฬา
เปเล่สร้างชาติ: ราชาลูกหนังแห่งบราซิล ผู้เพิกเฉยต่อเผด็จการเพื่อสร้างความสุขให้คนในชาติ
ถ้าพูดถึงชื่อ "เปเล่"คนที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 ขึ้นไป จะรู้จักในภาพชายแก่ๆนั่งรถเข็นที่ชอบยกย่องดาวรุ่งหรือทีมที่โดดเด่นคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก จนได้ผลในทางตรงกันข้าม แต่สำหรับผู้ที่เกิดตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 จะทราบถึงความยิ่งใหญ่ของชายที่ชื่อ "เปเล่" ในฐานะนักฟุตบอลเพียงคนเดียวที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกถึง 3 สมัย
เรื่องราวของเปเล่ได้รับการบันทึกผ่านภาพยนตร์สารคดีของ Netflix ที่มีชื่อเดียวกับเขา โดยตัวเขาเองเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวและตอบคำถาม พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมและบุคคลสำคัญที่อยู่ร่วมสมัยกับเขา ตัดกับภาพไฮไลท์สมัยที่เปเล่ลงสนาม
เปเล่เกิดในเดือนตุลาคม 1940 และได้ยินข่าวที่ทีมชาติบราซิลแพ้ต่อทีมชาติอุรุกวัยในนัดสุดท้ายรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1950 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ทำให้เปเล่มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลและพาบราซิลคว้าแชมป์โลกให้ได้
เปเล่เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรซานโตสในเดือนมิถุนายน 1956 ด้วยวัยเพียง 15 ปี และกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของซานโตสทันที ด้วยสถิติการยิงประตูอันถล่มทลายแตะหลักร้อยรวมทุกรายการในประเทศ ทำให้เปเล่มีชื่อติดทีมชาติบราซิลชุดลุยศึกฟุตบอลโลกปี 1958 ด้วยวัยเพียง 17 ปี โดยรายการนี้ถือเป็นรายการแจ้งเกิดของเปเล่ ด้วยการทำ 6 ประตูในรอบน็อคเอาท์ โดยรวมถึง 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ ช่วยให้บราซิลเป็นคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยแรก ส่วนเปเล่สร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศและคว้าแชมป์โลกด้วยวัยเพียง 17 ปี 249 วัน
เปเล่ร่ำไห้หลังพาบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1958
จากแชมป์โลกสมัยแรก ทำให้บราซิลเป็นที่รู้จักในสายตาชาวโลกมากขึ้น เด็กๆในบราซิลเริ่มใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลและมีชื่อเสียงอย่างเปเล่ ส่วนเปเล่กลายเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจบราซิลเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเป็นจุดกระตุ้นให้แข้งบราซิลออกไปเล่นในยุโรปมากขึ้น กลายเป็นสินค้าส่งออกขึ้นชื่อของประเทศไม่แพ้กาแฟ เรียกได้ว่า เปเล่มีส่วนในการสร้างบราซิลให้เจริญรุ่งเรืองก็ไม่ผิดนัก
เปเล่ยังคงโชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรงกับซานโตสอย่างต่อเนื่องจนมีชื่อติดทีมชาติบราซิลลุยศึกฟุตบอลโลก 1962 ที่ชิลี แม้จะได้รับบาดเจ็บในเกมรอบแรกที่พบกับเชโกสโลวาเกีย แต่เปเล่ก็ยังฝากผลงานในฟุตบอลโลกครั้งแรกไว้ที่ 1 ประตูช่วยบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2
ยุคสมัยความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของบราซิลจบลงเมื่อเกิดรัฐประหารปี 1964 อันเนื่องมาจากกระแสต่อต้านคอมมิวนิสต์อันเป็นที่หวาดกลัวในช่วงเวลานั้น ประชาชนชาวบราซิลต่างขอให้เปเล่เป็นกระบอกเสียงทางการเมือง แต่เปเล่ขอปฏิเสธเนื่องด้วยเขาไม่รู้เรื่องการเมือง และมีท่าทีสนิทสนมกับผู้นำเผด็จการทหารบราซิลในเวลานั้น เพราะรัฐบาลควบคุมเส้นทางการเงินอย่างละเอียด ทำให้ทางออกของเปเล่มีอยู่ทางเดียวคือ การโฟกัสไปที่ฟุตบอลเท่านั้น
เมื่อเปเล่นำทีมชาติบราซิลไปแข่งขันฟุตบอลโลก 1966 ที่อังกฤษ คู่แข่งล้วนมีแผนการจัดการตัดเปเล่ออกไปจากการแข่งขัน โดยเน้นไปที่การเข้าสกัดอย่างหนัก ทำให้เปเล่โชว์ฟอร์มได้ไม่เต็มที่ และจบลงด้วยการตกรอบแรกหลังชนะเพียงนัดเดียวจากการลงสนาม 3 นัด
หลังสถานการณ์การเมืองในบราซิลเริ่มรุนแรงขึ้น มีการเซ็นเซอร์สื่อ ห้ามการชุมนุมทางการเมือง รวมไปถึงการลอบสังหารฝั่งตรงข้าม รัฐบาลบราซิลภายใต้การนำของเอมิลิโอ เมดิชีจึงต้องหาทางออกเพื่อใช้ประชาชนลืมความขัดแย้ง ด้วยการกระตุ้นทางเศรษฐกิจและใช้ฟุตบอลทีมชาติเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ และลดความขัดแย้งภายในประเทศ ภายใต้แคมเปญ "บราซิล ใครไม่รักก็ออกไป"
Brazil, love it or leave it "บราซิลใครไม่รักก็ออกไป"
เปเล่ตัดสินใจลงเล่นทีมชาติบราซิลลุยฟุตบอลโลก 1970 ที่เม็กซิโกเป็นครั้งสุดท้าย และเปเล่สามารถพาบราซิลคว้าแชมป์โลกครั้งที่ 3 ให้กับตัวเองและทีมชาติบราซิลได้สำเร็จ โดยทำได้ 4 ประตูและช่วยให้บราซิลชนะรวด 6 นัดตลอดรายการ สร้างความสุขให้กับประชาชนชาวบราซิลทั้งประเทศ ซึ่งเปเล่ได้หลั่งน้ำตาระหว่างการสัมภาษณ์ว่า “เขารู้สึกดีใจที่พาบราซิลคว้าแชมป์โลกและทำให้ประชาชนมีความสุข ไม่เกิดการนองเลือดขึ้นอีก ถ้าบราซิลไม่ได้แชมป์ เหตุการณ์ในประเทศคงแย่ไปกว่านี้”
เปเล่ดีใจหลังทำประตูให้บราซิลในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1970
เปเล่ประกาศอำลาทีมชาติในปีถัดมา ก่อนย้ายออกจากซานโตสในปี 1974 เพื่อบุกเบิกการเล่นซอคเกอร์ในสหรัฐอเมริกากับนิวยอร์ค คอสมอส จนถึงปี 1977 จึงได้แขวนสตั๊ดในวัย 36 ปี ส่วนบราซิลกว่าจะเปลี่ยนสถานะจากเผด็จการทหารสู่ประชาธิปไตยต้องรอไปถึงปี 1985
เปเล่ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของบราซิล ทำให้บราซิลกลายเป็นที่รู้จักในสายตาชาวโลกมากขึ้น แม้บราซิลจะเปลี่ยนสถานะการปกครอง แต่เปเล่เลือกจะไม่ตอบโต้ และทำหน้าที่ของตนเองด้วยการเล่นฟุตบอล สร้างความสุขให้ประชาชนด้วยการพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกถึง 3 ครั้ง รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนชาวบราซิลหันมาเล่นฟุตบอลเพื่อค้าแข้งยังต่างประเทศ โดยมีเปเล่เป็นไอดอล จึงเรียกได้ว่า เปเล่มีส่วนในการพัฒนาชาติบราซิลทั้งเศรษฐกิจและการกีฬ่าอย่างแท้จริง
โฆษณา