ลงทุนธีมพลังงานสะอาดจีนที่รัฐบาลสนับสนุน
กองทุน P-CGREEN
ปีนี้กระแสที่มาแรงสุด ใครๆ ก็พูดถึง คงหนีไม่พ้นเรื่อง “กระแสรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด” เห็นได้จากนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐของหลายประเทศ และหลายคนก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
สำหรับคนที่สนใจลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด แต่ในพอร์ตมีหุ้นฝั่งสหรัฐเยอะแล้ว และอยากกระจายลงทุนในประเทศอื่นบ้าง วันนี้เรามีอีกกองทุนมาแนะนำ ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาดในประเทศจีนโดยเฉพาะ คือ กองทุน P-CGREEN
กองทุน P-CGREEN ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF เป็นกองทุนหลัก เน้นลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มพลังงานทางเลือก, การพัฒนาและการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน, การออกแบบอาคารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม, การป้องกันมลพิษ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
Top 5 Holdings
- XPENG (10.23%) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน เน้นไปที่ลูกค้าระดับกลางและระดับสูงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า มี Xmart OS ที่เป็นระบบควบคุมความบันเทิงในรถและระบบ XPILOT ที่เตรียมพัฒนาเป็น Fully Autonomous
- LI AUTO (9.93%) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดไม่นาน มีเครื่องยนต์ขนาดจิ๋วที่ช่วยสร้างกระแสไฟฟ้าส่วนเพิ่มสำหรับแบตเตอรี่ได้เอง
- NIO (7.87%) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน มีจุดเด่นคือ สถานีสลับแบตเตอรี่โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นในการเปลี่ยน
- BYD (7.26%) ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของจีน ต่อมาเริ่มผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และเมื่อโลกได้เริ่มหันหน้าเข้าสู่พลังงานสะอาดก็กลายมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของจีน
- CHINA LONGYUAN (5.41%) ผู้ผลิตพลังงานลมรายใหญ่ที่สุดในจีน มีฟาร์มกังหันลมมากกว่า 300 แห่งกระจายทั่วประเทศจีน
หากแบ่งสัดส่วนตามอุตสาหกรรมหลักที่ลงทุน พบว่า
41% ลงทุนในสินค้าฟุ่มเฟือย
27% ลงทุนในอุตสาหกรรม
16% ลงทุนในเทคโนโลยี
11% ลงทุนในสาธารณูปโภค
4% ลงทุนในอสังหาฯ
จะเห็นได้ว่าหุ้นส่วนใหญ่ที่กองทุนนี้ลงทุนในสินค้าฟุ่มเฟือยมากสุด ซึ่งก็คือหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง รองลงมา คือ ลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งทั้งคู่เป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ
โดยได้กำหนดให้แบรนด์รถยนต์ต้องผลิตรถ EV 16% ของกำลังการผลิตรวมในปี 2022 และต้องขายรถ EV เป็นสัดส่วน 25% ในปี 2025
นอกจากนี้ ในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของจีน ออกนโยบายการพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (Green Ecology) โดยจีนหันมาให้ความสำคัญกับ De-carbonization และตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อต้องการเป็นประเทศที่ปลอดคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2060 อีกด้วย
มองได้ว่าอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดเป็นลูกรักรัฐบาลที่หวังดันขึ้นมาเป็น Growth ตัวใหม่ให้เศรษฐกิจจีน แตกต่างจากหุ้น Tech ที่ทุบรายวัน
ข้อมูล ณ วันที่ 12/31/2021
BottomLiner
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
