8 ม.ค. 2022 เวลา 00:59 • การศึกษา
#ศีลบริสุทธิ์ ~#สมาธิก็ทรงตัว ~#ปัญญาก็เกิด
นักเจริญพระกรรมฐานนับตั้งแต่เริ่มเข้าขณิกสมาธิเป็นต้นมา จะต้องเป็นผู้มี
ศีลบริสุทธิ์อยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าจะต้องมานั่งสมาทานให้พระนำกัน คนที่ยังติดพระนำแล้วจึงมีศีลก็แสดงว่าบุคคลนั้นไม่มีศีลเลย ศีลมันอยู่ที่ใจ คือความงดเว้นเท่านั้น ถ้าเราสามารถงดเว้นปัญจเวร ๕ ประการ หรือว่าสิกขาบท ๘ ประการ ที่เรียกว่าศีล ๕ หรือศีล ๘ เราไม่ละเมิดเสียแล้วก็ชื่อว่าเราเป็นผู้มีศีล ไม่ต้องรอให้พระให้ แต่ความจริงพระท่านไม่ได้ให้ ท่านให้การศึกษาเท่านั้น
เป็นอันว่านักเจริญพระกรรมฐานจะก้าวเข้าไปสู่ความเป็นผู้ทรงฌานก็ดี จะเป็นพระอริย
เจ้าที่ดี ท่านจะบกพร่องในศีลไม่ได้ แต่ขณะใดขึ้นชื่อว่าท่านเป็นผู้บกพร่องก็แสดงว่าท่านเอาดีไม่ได้เลย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าถ้าศีลบกพร่อง ก็แสดงว่าเราตายแล้วต้องไปเกิดในอบายภูมิ แล้วก็จะเป็นผู้ทรงฌานเกิดเป็นพรหม หรือว่าเป็นผู้ทรงอุปจารสมาธิ ขณิกสมาธิเกิดเป็นเทวดา หรือตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานไปนิพพาน จะไปได้ยังไงในเมื่อศีลของเราบกพร่อง เราต้องเป็นสัตว์ในอบายภูมิ
ฉะนั้น ขอท่านทั้งหลายจงสังวรเรื่องศีลให้มาก คำว่า “สังวร” นี่แปลว่า “ระวัง”
อันดับแรกต้องมีศีลบริสุทธิ์เสียก่อน ไม่ใช่บริสุทธิ์เฉพาะเวลาที่สมาทานพระกรรมฐาน ให้ศีลมันบริสุทธิ์ทุกลมหายใจเข้าออก ถ้าศีลของท่านบริสุทธิ์ทุกลมหายใจเข้าออก การเจริญสมาธิก็เป็นของง่าย เพราะศีลจะมีขึ้นได้เพราะอาศัยเมตตา ความรักซึ่งกันและกัน กรุณา ความสงสารซึ่งกันและกัน คนที่มีจิตเมตตา ความรัก กรุณา ความสงสาร อารมณ์เย็น จิตมีความเยือกเย็น ความฟุ้งซ่านของจิตไม่มี ความเร่าร้อนของจิตไม่มี อารมณ์ก็สบาย
ในเมื่ออารมณ์สบายมีความเยือกเย็น จิตก็ทรงสมาธิได้ดี หรือการจองล้างจองผลาญคิดประหัตประหารซึ่งกันและกัน หรือว่าความโลภโมโทสันอยากได้ทรัพย์ของบุคคลอื่น การที่จะละเมิดความรัก หรือการที่จะมุสาวาท การที่จะดื่มสุราเมรัยไม่มี ในเมื่ออาการห้าอย่างนี้ไม่มีแล้ว จิตก็มีความสบาย มีอารมณ์เป็นสุข อันดับแรกปรับปรุงศีลให้ดี #เมื่อปรับปรุงศีลดีแล้วสมาธิก็ทรงตัว #เมื่อสมาธิทรงตัว #ปัญญามันก็เกิด #นี้เป็นพื้นฐานของการเจริญฌานและวิปัสสนาญาณ
สำหรับด้านวิปัสสนาญาณในด้านสุกขวิปัสสโก ยังไง ๆ ท่านก็อย่าลืมทิ้งอานาปานุสสติกรรมฐาน #จำไว้ให้ดีว่าจะทำกรรมฐานกองต่อๆไปก็ดี #หรือว่าจะเจริญวิปัสสนาญาณก็ดี #ท่านจะทิ้งอานาปานุสสติกรรมฐานไม่ได้ #ถ้าท่านทิ้งอานาปานุสสติกรรมฐานเมื่อไร #กรรมฐานกองอื่นวิปัสสนาญาณที่จะทำก็พังหมด อานาปานุสสติกรรมฐานมีอุปมาเหมือนกับพื้นแผ่นดิน อารมณ์จิตที่จะทรงเป็นสมาธิหรือปัญญาจะเกิดเหมือนกับเราซึ่งยืนอยู่บนแผ่นดิน ถ้าเราไม่มี
แผ่นดิน เราจะยืนที่ไหน จะนั่ง จะนอน จะยืนจะเดิน จะก้าวไปข้างหน้า จะถอยไปข้างหลัง ไม่มีที่เพราะมันไม่มีแผ่นดิน จำไว้ให้ดีว่าอานาปานุสสติกรรมฐานนี่ทิ้งไม่ได้
ทีนี้การทรงอานาปานุสสติกรรมฐานในด้านสุกขวิปัสสโก เขาทำกันไม่ยาก เขาทำกันง่ายๆ คือโดยไม่ต้องไปคิดถึงอานาปานุสสติกรรมฐานก็ได้ พยายามทำจิตให้ทรงตัวควบคุมกำลังจิตของท่านให้อยู่ในขอบเขตของวิปัสสนาญาณ วิปัสสนาญาณนี่ผมจะพูดกับท่าน วันนี้จะเอาวิปัสสนาญาณ ๙ มาพูด แต่ขอพูด ๒ อย่างเท่านั้น เพราะว่าวิปัสสนาญาณ ๙ นี่ผมทำ ๒ อย่างเท่านั้น อีก ๗ อย่างไม่มีความหมาย อีก ๗ อย่างก็เดินเข้ามาหา ๒ อย่าง ๒ อย่างก็คือ
๑. #นิพพิทาญาณ ความเบื่อหน่ายในขันธ์ ๕
๒. #สังขารุเปกขาญาณ วางเฉยในอารมณ์ต่าง ๆ ที่จะพึงเกิดขึ้น หรือว่าอาการต่าง ๆ ที่จะพึงเกิดขึ้นกับใจก็ดีกับขันธ์ ๕ ก็ดี
ถ้าได้ ๒ ตัวนี้ก็ชื่อว่าจบวิปัสสนาญาณ ๙ ไม่ต้องไปนั่งไล่เบี้ยนับบันไดมีกี่ขั้นให้มันยุ่งไปเปล่า ๆ อย่าไปทำตนอย่างนักวิชาการนะ แหม.. ศัพท์แสงมันเก่งกันจริง ๆ ไล่อย่างโน้น ออกอย่างนี้ ไปอย่างนี้ ไปอย่างโน้น ไล่เดี๊ยะ ผลที่สุดไม่ได้อะไรเลย ก็ทำไปอย่างนกแก้ว นกขุนทอง จะได้ประโยชน์อะไร
ที่มา : หนังสือ(คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง)เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๑๒๒~๑๒๔. โดยพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดจันทาราม(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี.
โฆษณา