8 ม.ค. 2022 เวลา 01:59 • การตลาด
รีวิวผิดชีวิตเปลี่ยนหรือผู้ฟ้องร้องชีวิตจะเปลี่ยนแทนเพราะเรียกค่าเสียหาย 3 ล้าน รีวิวไม่ถูกใจโรงแรม
ที่มา กระแสข่าว
เรื่องเด่นประเด็นร้อน โรงแรมที่เขาใหญ่ฟ้องร้องลูกค้าที่ไปให้ความเห็น/Review ในเพจ Agoda กับความรู้สึกที่ได้รับจากทางโรงแรม เพราะให้คะแนนน้อย 6 เต็ม 10 และบอกว่าราคาแพงเกินไป
โดยทางโรงแรมได้มอบหมายให้สำนักงานทนายความดำเนินการแจ้งความ โดยให้ผู้ที่ให้ความเห็น/Review ปฏิบัติตามนี้
1. ลบข้อความรีวิว หากไม่ดำเนินการจะคิดค่าเสียหายวันละ 50,000 บาท จนกว่าจะลบข้อความดังกล่าว
2. ให้ชำระค่าเสียหาย 3,000,000 บาท ภายใน 15 วันนับตั้งแต่ได้รับหนังสือฉบับนี้
3. ให้ลงโฆษณาขอโทษโรงแรมในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, เดลินิวส์, ข่าวสด, กรุงเทพธุรกิจ, มติชน รวม 5 ฉบับ เป็นเวลา 7 วัน
หากไม่ดำเนินการให้ครบถ้วน จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป
ที่มา https://hilight.kapook.com/view/219920
บอกตามตรงว่าใครเจอเรื่องนี้ไปคงตกใจและจิตตกอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่สงสัยในฐานะประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งก็คือ เรื่องแบบนี้ฟ้องร้องได้ด้วยหรือ รวมถึงสามารถฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายด้วยเงินจำนวนสูงขนาดนี้และให้ลงประกาศโฆษณาขอโทษในสื่อดังด้วย
นอกจาสงสัยว่าทำได้ด้วยหรือกับจำนวนเงินและวิธีการข้างต้น ยังสงสัยว่าการเข้าไปหาข้อมูลของลูกค้าที่โพสต์สามารถนำมาฟ้องร้องได้อย่างไรด้วย อีกอย่างที่สงสัยมากก็คือ การให้ความเห็น/Review เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของลูกค้าผู้เข้ารับการบริการไม่ใช่หรือ และที่สำคัญยังไม่ใช่การให้ข้อมูลที่จะทำให้โรงแรมสูญเสียได้ขนาดนั้น
เอาเป็นว่าเรื่องข้อกฎหมายอาจจะทำได้หรือทำไม่ได้ก็ตาม เพราะเรื่องนี้ “ยุคใหม่ฯ” ไม่สันทัด แต่ขอมองเรื่องนี้ในแง่มุมของนักการตลาดตัวน้อย ๆคนหนึ่ง
เริ่มต้นจากฝั่งโรงแรมก่อน
กรณีแรกสมมุติว่าทางโรงแรมชนะคดีการฟ้องร้องครั้งนี้ ได้รับทั้งค่าปรับได้รับทั้งเงินค่าเสียหายและได้รับการลงโฆษณาขอโทษ แบบ 100%
เรื่องนี้จะทำให้ลูกค้าที่จะเข้าไปใช้บริการโรงแรมอื่น ๆ จะส่งผลอย่างไร ถ้าไม่ใช่ความหวาดระแวง ที่สำคัญก็คือการหลีกเลี่ยงที่จะให้ความเห็น ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือลูกค้าคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ข้อมูล ทางโรงแรมก็ไม่ได้รับการจัดอันดับจากการให้คะแนน เพราะใครจะให้คะแนนสูงๆถ้าบริการที่ได้ไม่ใช่ ถ้าให้ไปแล้วก็ถูกฟ้อง สู้อยู่เฉย ๆดีกว่า
ที่มา The Japan Times
ในส่วนของลูกค้าหรือผู้ที่ถูกฟ้อง จะกล้าไปพักโรงแรมหรือไม่ในอนาคต โดยเฉพาะโรงแรมที่ฟ้องเธอและเธอก็ต้องมีญาติพี่น้องผองเพื่อน และคนเหล่านี้ก็มีคนที่รู้จักอีกหลายคน เมื่อเขารู้เรื่องนี้แล้วเขาจะคิดเช่นไร
มุมมองของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและเชื่อว่าเกิดขึ้นแน่คือ นักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลาย หรือนักสืบพันธ์ทิพ คงระดมความเห็นเชิงลบต่อโรงแรมแห่งนี้อย่างแน่นอน และไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะสืบหาว่าโรงแรมนี้ชื่ออะไรตั้งอยู่ที่ไหนใครเป็นข้าวของ ที่สำคัญเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ใครเป็นผู้ดำเนินการ
แต่สิ่งที่โรงแรมนี้จะได้รับผลกระทบมากในแบบที่เงิน 3 ล้านบาทที่ได้มาก็ไม่ได้เศษเสี้ยวความเสียจากแรงกระเพื่อมจากการดำเนินการฟ้องร้องคือ โรงแรมแห่งนี้อาจจะถูกต่อต้านจากบรรดาลูกค้าไม่เข้าไปพัก และหากมีธุรกิจอื่นหรือโรงแรมในเครือของผู้บริหารและเจ้าของก็จะได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย
ซึ่งอาจจะเกิดปรากฏการณ์จากโรงแรมคู่แข่งที่ใช้สถานการณ์นี้ มาใช้เป็นกลยุทธ์ในการเชิญชวนลูกค้าให้เข้ามาพักได้ อาจจะเป็นการโฆษณาว่าไม่มีการดำเนินการกับผู้ให้ความเห็นและคะแนนต่ำ หรือจะมอบรางวัลให้ทุกคนที่เข้ามาให้ความเห็นแบบใดก็ได้ ด้วยการให้ส่วนลดในครั้งถัดไป
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
แต่ที่ยังไงผลกระทบทางบวกคงไม่เกิดกับผู้บริหารโรงแรมแห่งนี้แน่นอน
สมมุติว่า “ยุคใหม่ฯ” เป็นผู้บริหารโรงแรมแห่งนี้ จะไม่ดำเนินการแบบนี้อย่างแน่นอน 1,000,000% หรือจะมากกว่าก็ได้ แต่จะนำความเห็นนี้ไปลงประกาศในสื่อออนไลน์ตามช่องทางต่าง ๆ พร้อมกับขอบคุณผู้ที่ให้คะแนนต่ำ ที่ทำให้ทางโรงแรมจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมทั้งให้เข้าพักฟรีหรือมีส่วนลดให้ในครั้งถัดไป เพื่อมาให้ความเห็นอีกครั้งว่ามีการปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือไม่อย่างไร
ลองเปรียบเทียบกันดูนะครับว่าวิธีการฟ้องร้องลูกค้า ที่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้จะชนะหรือแพ้ก็ไม่รู้ กับวิธีที่ “ยุคใหม่ฯ” นำเสนอ วิธีไหนทำให้โรงแรมแห่งนี้มีผลประกอบการที่ดีขึ้นกว่ากัน
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา