#วันนั้นเพียงแต่วันนั้น
โดย #มิสมาต้า
หากในวันนั้นไม่มีการแข่งขันฮ็อกกีน้ำแข็งระหว่าง แวนคูเวอร์ คานักส์ กับ ซีแอตเทิล คราเคน เพราะเกิดล็อกดาวน์ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยจากโควิด
หากในวันนั้น ไบรอัน แฮมิลตัน ไม่ได้มาทำงานเป็นสต๊าฟฟ์ให้ คานักส์ ตามปกติเหมือนที่เคยทำมานานกว่า 20 ปี เพราะมีธุระด่วน
หากในวันนั้น นาเดีย โปโปวิซี ไม่ได้เข้าไปนั่งเชียร์ คราเคน ในฐานะแฟนตั๋วปีของทีม เพราะมีนัดทำรายงานเกี่ยวกับวิชาเนื้องอกที่เธอกำลังเรียน
หากในวันนั้น นาเดีย ไม่ได้ไปนั่งเชียร์ทีมรักตรงบริเวณที่ ไบรอัน กำลังยืนทำงานให้ทีมคู่แข่งของเธอพอดี
หากในวันนั้น นาเดีย ไม่บังเอิญไปสังเกตเห็นไฝที่ต้นคอของไบรอัน จนทำให้เธอถึงกับอุทานในใจว่า "ว้าว นี่มันเป็นไฝที่ตรงตามลักษณะของไฝต้นตอของมะเร็งในตำราเรียนชัดๆ"
หากในวันนั้น นาเดีย ไม่ได้พกคุณสมบัติที่ดีของความเป็นมนุษย์ที่ดีไป เธอก็คงจะไม่ได้พิมพ์ข้อความลงบนมือถือด้วยข้อความที่ว่า "ไฝที่หลังต้นคอของคุณอาจทำให้เป็นมะเร็ง กรุณาไปพบแพทย์" แบบตัวโตๆ เพื่อความชัดเจน และ เคาะกระจกดังๆ เพื่อเรียกความสนใจจากเจ้าของไฝ
หากในวันนั้น ไบรอัน ไม่ได้อารมณ์ดีเพราะทีมกำลังนำ และ ไม่ได้บังเอิญได้ยินเสียงเคาะกระจกเรียก เขาอาจจะไม่ได้สนใจหันไปอ่านข้อความอันเป็นจดหมายเตือนที่เขาจะไม่มีทางลืมเลือน จนถึงขนาดยกมือเพื่อลูบต้นคอที่ไม่เคยสังเกตเลยว่ามีไฝเม็ดนั้นปรากฏอยู่
หากในวันนั้น ไบรอัน มองว่า นาเดีย เพี้ยนจนไม่มองว่าไฝธรรมดาคือต้นตอของมะเร็ง จนทำให้เขาไปขอให้ภรรยาดูว่ามีไฝจริงหรือไม่ แล้วก็พบว่ามีจริง
หากในวันนั้น ไบรอัน เป็นคนที่ชอบ "เดี๋ยว" จนไม่รีบไปปรึกษากับทีมแพทย์ของสโมสร และได้รับคำแนะนำว่าเป็นไปได้ที่คุณกำลังจะมีมะเร็งติดตัว
หากในวันนั้นไฝที่ถูกจี้ออกไปเพื่อส่งตรวจสอบชิ้นเนื้อ จะยังไม่ทันโตจนเจาะทะลุถึงผิวหนังชั้นที่สองจนทำให้เชื้อร้ายขยายตัวจนพัฒนาจนเป็นมะเร็งร้ายคุกคามชีวิตเขาจนถึงความม้วยมรณา
หากในวันนั้นพรหมลิขิตจะไม่ได้ทำหน้าที่ให้ทั้งสองคนมาพบกันโดยบังเอิญ ซึ่งทั้งคู่อาจเคยเจอกันมาแล้วในหลายเกมก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองทีมลงแข่งกัน แต่โชคชะตาของทั้งคู่ยังไม่ได้ขีดเส้นให้ได้ใส่ใจกัน
จนทำให้นาเดียได้เห็นไฝเม็ดเล็กๆ ที่ต้นคอไบรอัน ทั้งที่ ไบรอัน สวมทั้งหมวก สวมเสื้อที่มีปกคอเสื้อที่พับสูงขึ้นมา สวมใส่สายเฮดโฟนสื่อสารเกะกะบริเวณต้นคออยู่ ซึ่งจังหวะที่นาเดียสังเกตเห็นเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีของการเคลื่อนไหว แต่กลับพอดีเสียจนสายตาของนาเดียได้พบกับไฝเม็ดนั้นของไบรอัน
วันนี้ ไบรอัน ก็คงยังทำงานให้ทีมของเขาต่อไปตามปกติ พร้อมกับการเติบโตของเซลล์มะเร็งร้ายที่รอวันทำร้ายเขา
ส่วน นาเดีย ก็คงเป็นเพียงนักเรียนแพทย์ที่ชอบตามไปเชียร์ทีมโปรดตามเคย
ซึ่งทั้งเขา และ เธอ อาจจะได้พบกันในอีกหลายปีข้างหน้าในฐานะคนไข้ และ คุณหมอ
พรหมลิขิตไม่จำเป็นทำให้คนได้พบเจอกัน ประทับใจกัน และ ตกหลุมรักกันตามเลิฟสตอรี่เพียงเท่านั้น แต่พรหมลิขิตสามารถดลบันดาลให้มนุษย์ธรรมดาสองคนได้พบกันเพื่อเอื้อเฟื้อต่อกันได้ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน
ไม่ว่าการพบกันของทั้งคู่จะเป็นเรื่องของบุญกรรมที่เคยร่วมทำกันมาในอดีตชาติ หรือ เป็นการสอนจากเบื้องบนเพื่อให้มนุษย์ทุกคนได้รับรู้ว่าเกิดเป็นมนุษย์จงอย่าหยุดมีน้ำใจให้กันก็ตาม
สุดท้าย ไบรอัน ได้กอดขอบพระคุณ นาเดีย นางฟ้าช่างใส่ใจในวันวานที่กำลังจะกลายเป็นนางฟ้าชุดกราวน์ในวันข้างหน้า พร้อมกับทุนการศึกษาที่สองคู่แข่งบนลานน้ำแข็งในวันนั้นร่วมกันมอบให้เธอเป็นจำนวน 10,000 เหรียญ
ไม่มีใครรู้ว่า นาเดีย จะเรียนจบด้วยเกียรตินิยมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เธอจะเป็นคุณหมอที่ดีที่สุดในโลกคนนึงอย่างแน่นอน
ผู้เขียนโชคดีที่ได้เห็นข่าวนี้เคลื่อนผ่านตามา จึงได้รู้สึกอิ่มใจไปกับเรื่องราวดีๆ ตั้งแต่ต้นปี จึงแอบหวังว่าความน่ารักของคู่นี้นี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกคนมอบสิ่งที่ดีต่อกันในวันที่โลกของเรายังเผชิญหน้ากับภัยร้ายตัวเดิม
ใส่ใจกัน เอื้ออารีต่อกัน โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
#PlayNowThailand #khelnow #football
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
