เมื่อคนทำงาน "ลาออก" เพื่อมาเทรดคริปโต
เต็มเวลามากขึ้น เพราะดูแล้วโอกาสได้เงินมีมากกว่า
.
▫กระแสโลกคริปโตที่มีหนุ่มสาววัยทำงานจำนวนมากที่ลาออกจากงาน เพื่อหันมาลงทุนแบบเต็มเวลามากขึ้น พอฟังแล้วถือว่าเป็นความเสี่ยงและท้าทายอย่างมาก ซึ่งหากเป็นเราอาจคิดว่า ทำได้อย่างไร เพราะงานประจำของใครหลาย ๆ คนนั้นก็มีความมั่นคงอยู่แล้ว ซึ่งต่างจากสกุลเงินดิจิทัลมาก
พวกเขากล้าฝากชีวิตไว้กับตลาดคริปโตได้อย่างไร?
.
▫จากผลสำรวจ Civic Science ปี 2021 ที่ผ่านมา ได้เปิดเผยว่ามีคนอเมริกันจำนวนมากที่ลาออกจากงานและเลือกที่จะหันไปลงทุนในคริปโตอย่างเต็มตัว เหตุผลเพราะได้กำไรจำนวนมากจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล คิดเป็น 4 % ของคนอเมริกันที่ลาออกจากงาน เนื่องจากมีรายได้ไม่ถึง 1.6 ล้านบาทต่อปี
▫นักลงทุนในคริปโตส่วนใหญ่ 28% จะวางแผน "การลงทุนแบบระยะยาว" ในขณะที่ 23% หวังผลกำไรในระยะสั้น และ 12% คือ “ต้องการเป็นอิสระจากรัฐบาล” และ 11% คือลงทุนเนื่องจาก “ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่”
▫ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเล่นในตลาดนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่า 58% ของ Gen Z (อายุ 10-24) กำลังคิดเรื่องลาออกจากงานเพื่อเข้าสู่โลก crypto อย่างเต็มตัว ซึ่งบางคนก็ลาออกจริงๆ
▫ในรายงานนี้ยังระบุว่า Gen Z นั้นจะเก็บเงินและลงทุนในระยะยาวมากกว่าใช้จ่าย ซึ่งพวกเขามั่นใจว่ามีโอกาสที่รุ่นเขาจะมั่งคั่งมากกว่ารุ่นพ่อเเม่ของตนเองจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล
▫การวางแผนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ร่ำรวยจากตลาดคริปโตเกือบ 50% ตอบว่า พวกเขาจัดสรรพอร์ตการลงทุนอย่างน้อย 1 ใน 4 จะมีคริปโตเคอร์เรนซี และ 30% มีคริปโตเคอร์เรนซี มากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมด
▫ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในคริปโตสามารถเปลี่ยนรายได้สำหรับใครบางคนไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
▫ยกตัวอย่างเคสของ Brenda Gentry หญิงชาวอเมริกันวัย 46 ปี ได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำด้านการเงินมากกว่า 16 ปี เพื่อก่อตั้งบริษัทให้คำปรึกษาการเทรดคริปโต Defi และ NFT เธอมีลูกสาวสองคนและมองว่า สกุลเงินดิจิทัลสร้างความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้ (generation wealth)
▫Gentry เริ่มจากค่อย ๆ ลงทุนในบิตคอยน์ พอจับทางได้ ก็เริ่มลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าการลงทุนในคริปโตเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก แต่เธอมีประสบการณ์การทำงานด้านการเงิน และการลงทุนมาก่อน จึงไม่กังวลมากนัก
▫หลังจากที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล เธอมีรายได้ต่อเดือนราวๆ 2.6 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ารายได้ประจำรวมกัน 1 ปี (2.5 ล้านบาท) ซึ่งเธอก็ได้เริ่มให้ลูก ๆ วัย 19 และ 23 หันมาลงทุนและทำธุรกิจนี้ด้วยกัน
▫สิ่งนี้ทำให้ Gentry มองเห็นโอกาสมากมายในโลกสกุลเงินดิจิทัล เธอคิดว่า NFT และ Defi จะช่วยลดความยากจนใน generation นี้ได้จริง ๆ
▫ในขณะที่ lily วัย 24 ปี ได้ลาออกจาก Uber ในตำแหน่ง product design เพื่อสร้างงานศิลปะบน NFT อย่างเต็มตัว เธอเล่าในช่วงที่ทำงานประจำ เพื่อนได้แนะนำให้ขายงานลงบน NFT เพราะตนขายได้ 6.7 ล้านบาท เธอมองว่าแม้งานในคริปโตจะมีความเสี่ยง แต่งานประจำนั้นก็เสี่ยงไม่เเพ้กัน ทั้งในเรื่องการไล่พนักงานหรือแม้แต่ภาระงานที่ทำให้พนักงานเครียด แต่ NFT นั้นเปิดจินตนาการให้สร้างสรรค์ผลงานได้ไม่รู้จบ
▫จะเห็นว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว การลาออกของคนยุคใหม่เพื่อหันมาเล่นคริปโตนั้นอาจเป็นความมั่นคงในอนาคตที่จะไม่ทำให้พวกเขากลับไปยากจนได้อีกก็เป็นได้
▫อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะก่อนจะเข้าไปในตลาด จำเป็นต้องศึกษาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จจากตลาดนี้ มีหลายกรณีที่เทรดแล้วขาดทุนย่อยยับ
▫สุดท้ายนี้ ทางเลือกในการลงทุนในคริปโตถือเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เพิ่มรายได้ก็จริง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผันผวนมาก ควรศึกษาทุกครั้งก่อนลงทุน อย่าลืมว่ามันเป็นเหมือนดาบสองคมที่ต้องใช้มันให้เป็น
.
แล้วคุณล่ะ? มีแผนการเข้าสู่โลกคริปโตอย่างไรกันบ้าง? ลองมาแชร์กันค่ะ
.
.
เรียบเรียงโดย 100WEALTH
ผู้เขียน ท่านเด็ก
.
.
#Investment
#Cryptocurrency
#Financial
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน
#SERVgroup
#ท่านเด็ก
.
อ้างอิง
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
