9 ม.ค. 2022 เวลา 12:09 • ความคิดเห็น
สิ่งนี้เป็นหนึ่งในคำแนะนำที่ดีมากสำหรับผู้ใหญ่ที่จะสอนเด็กเลยครับ
แต่! ต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ ไม่ใช่แค่พูดว่า "โตเป็นผู้ใหญ่ทำงานก่อนค่อยหาแฟน" แล้วก็จบเดินหันหลังไปไม่บอกเหตุและผลของคำแนะนำนั้นเลย เพราะคนส่วนใหญ่น้อยคนที่จะเชื่อฟัง คำแนะนำที่ไร้การอธิบายให้กระจ่างครับ
*** เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมเข้าใจหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ ครับ ***
แต่เท่าที่ผมคบกับแฟนผมตั้งแต่มัธยมปลายจนปัจจุบันก็ร่วม 14 ปี แล้วครับ
ซึ่งผมจะพูดถึงเรื่องนี้ก่อนค่อยเชื่อมโยงไปถึงคำแนะนำนี้ของผู้ใหญ่ครับ
แต่ช้าก่อน ถ้าคุณเป็นคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก สามารถแยกแยะสิ่งต่างๆได้ทำให้การมีแฟนกับการพัฒนาตนเองในวัยเรียนไม่มีปัญหาได้ ให้ข้ามเรื่องที่ผมจะพูดไปเลยนะครับ
1
การที่คนสองคนจะคบหาเป็นแฟนกัน พื้นฐานก็มีหลายปัจจัย เช่น ความรัก, ความเข้าใจ, เวลา, ความเอาใจใส่ และสุดท้ายคือ เงิน และอื่นๆ เป็นต้น
ทีนี้เนื่องจากต้องมีปัจจัยทั้งหมดข้างต้น คุณคิดว่าเด็กวัยเรียนที่วุฒิภาวะ, ประสบการณ์, กำลังทรัพย์ ยังน้อย จะสามารถมีสิ่งเหล่านี้ให้กันและกันโดยที่ไม่กระทบกับการเรียนหรือการทำตามความฝันได้หรือไม่
ถ้าทำได้ผมก็ดีใจด้วย การมีแฟนมีโอกาสจะส่งเสริมให้คนสองคน ชีวิตจะไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็อยากให้ใช้สติทบทวนอีกนิดครับ
การเรียน การทำตามความฝัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ต้องทุ่มเทและให้เวลากับมันอย่างมาก ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ เพราะไม่ใช่แค่คุณที่มีความฝันเท่านั้น คนอื่นๆก็กำลังพยายามทำตามความฝันเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงต้องทุ่มเทให้มากกว่า คุณถึงจะติดอยู่บนหัวแถวได้
มันไม่ใช่ความผิดของแฟนคุณที่เขาจะเรียกร้องความสนใจ ความรัก และมีเวลาให้กับเขา เพราะการคบกันมันต้องมีปัจจัยเหล่านี้อยู่แล้ว อาจจะอยากได้มากไปหรือน้อยบ้าง ก็แล้วแต่นิสัยของแต่ละคนไป
ถึงคุณจะบอกว่า คนเราก็ต้องแบ่งเวลาให้เป็น แต่การเรียน การไปให้ถึงความฝัน คำว่า เวลา มันไม่เคยรอใคร และไม่สามารถย้อนเวลาได้ครับ
สมมุติคุณอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล ถ้าอายุคุณเข้าใกล้เลข 3 นั้นเท่ากับ ช่วงเวลาของความฝันนั้นใกล้หมดลงทุกทีครับ
นั้นแหละครับคำแนะนำของพ่อแม่นั้นสื่อถึงข้อแรกคือ ชีวิตคนเราในวัยเด็ก การทำตามความฝัน การเรียน นั้นสำคัญกับช่วงวัยนี้มากครับ ***เพราะเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรามีแฟนแล้ว มีการงานหาเลี้ยงครอบครัวแล้ว เราต้องแบ่งเวลาชีวิตส่วนหนึ่งให้กับสิ่งเหล่านี้ด้วยครับ***
1
ข้อที่สอง การที่บางครั้งเรายังเด็ก เรายังอ่อนประสบการณ์ แต่ที่น่าห่วงกว่าเรื่องประสบการณ์คือ การรับมือกับความผิดหวัง การอกหักครับ เมื่อคุณทนทุกข์ทรมานกับเรื่องความรัก มันอาจจะพาคุณไปพบกับหายนะได้ เพราะวัยรุ่นนั้นยังเป็นวัยที่ยังไม่ใจเย็น ไม่ปล่อยวางกับชีวิตมากพอ ที่จะมีสติแก้ไขกับสิ่งเหล่านี้ได้ครับ แต่ถ้าคุณทำได้ ก็ข้ามข้อนี้ไปเช่นกันครับ
ข้อที่สาม คือ เงิน ครับ ชีวิตทุกวันนี้การจะทำอะไรในหลายๆอย่างต้องใช้เงิน การจะไปเที่ยวกับแฟน ซื้อของให้กัน มีบ้าน มีรถ สร้างครอบครัว ต้องใช้เงินครับ ถ้าคุณเป็นคนหาเงินเก่งตั้งแต่เด็กก็ให้ข้ามข้อนี้ไปครับ
ถ้าคุณยังไม่เห็นภาพ ผมอยากให้คุณนึกถึงการทำงานสร้างตัวโดยที่ไม่พึ่งพาเงินพ่อแม่ เริ่มเก็บเงินตั้งแต่ 0 บาท เพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น มีบ้านให้พักอาศัย มีรถไว้เดินทาง มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีความสุขกับแฟน มีเงินสำหรับเลี้ยงลูก และมีเงินสำหรับเกษียนอายุตอนวัยชราครับ คุณจะรู้ว่าเงินทอง ไม่ได้หามาง่ายๆในโลกทุนนิยมแบบนี้ครับ
แต่ผมขอสรุปว่า การที่คุณจะมีแฟนในวัยเรียนหรือตอนโตเป็นผู้ใหญ่นั้น ไม่ผิดทั้งคู่ครับ
อยู่ที่ว่าคุณจะรับมือกับปัญหาและดำเนินชีวิตยังไงเท่านั้นครับ
โฆษณา