10 ม.ค. 2022 เวลา 15:24 • หนังสือ
ดินถนัน : ยาอายุวัฒนะของสุนทรภู่
ดินถนัน คือ ดินชนิดหนึ่งซึ่งเชื่อว่าเป็นยารักษาโรคและเป็นยาอายุวัฒนะ
ในเรื่องพระอภัยมณีนั้น
ที่นางละเวงวัณฬามีรูปร่างหน้าตางดงามอยู่เสมอเพราะกินดินถนันนี้แหละ
จากความที่เจ๊แกได้ฟังเพลงปี่ของพระอภัยก็ลืมองค์แปรเปลี่ยนไปรักพระอภัยซะงั้น แต่เจ๊แกก็หักใจไว้ได้ เจ๊ละเวงเลยรีบควบม้าหนีกลับไปยังเมืองลังกาทันที
ระหว่างทางนั้นเกิดเหตุอาเพศพสุธาเกิดความสนั่นหวั่นไหว
สักพักก็มีอะไรบางอย่างโผล่มา
เจ้าดินถนันนี้เอง
สุนทรภู่เขียนไว้ในเรื่องพระอภัยมณีว่า ดินถนันมีลักษณะเหมือนน้ำเต้าสีทองเหลืองอร่าม ผ่าออกมาข้างในเป็นสีแดง มีรสโอชายิ่งกว่าสิ่งใด
พอได้ยินดินลั่นเสียงครั่นครื้น………….สะเทื้อนพื้นภูผาป่าระหง
ประเดี๋ยวหนึ่งตึงสะดุ้งดังผลุงลง………กลิ้งอยู่ตรงหน้าเท่าน้ำเต้าทอง
เหลืองอร่ามงามงอมหอมระรื่น………....ดูสดชื่นชูสีไม่มีสอง
สงสัยนักชักมีดออกกรีดลอง……………..ขาดเป็นสองซีกไส้ข้างในแดง
นางละเวงวัณฬา
ต่อมาเจ๊ละเวงได้พบกับเทวดาอารักษ์องค์หนึ่ง ร่างกายครึ่งตัวมาขอกินบ้าง
อารักษ์ยังได้มาบอกอีกว่า ดินถนันนี้เกิดขึ้นเองจากดิน
เมื่อเกิดขึ้นจะมีเสียงดัง มีสรรพคุณอยู่มากมายดังนี้
ฝ่ายอารักษ์ศักดิ์สิทธิ์สถิตสถาน……….จึงแจ้งการกับวัณฬามารศรี
ลูกนั้นหรือชื่อว่านมพระธรณี……………..ถึงพันปีผุดขึ้นเหมือนปืนดัง
ฝูงสัตว์ไพรได้ยินทั้งกลิ่นหอม…………...มาพรั่งพร้อมเพราะจะกินถวิลหวัง
ด้วยหวานเย็นเห็นประเสริฐเกิดกำลัง…..กำจัดทั้งโรคาไม่ราคี
อายุยืนชื่นชุ่มเป็นหนุ่มสาว………………...ผิวนั้นราวกับทองละอองศรี
ถึงแก่เฒ่าเข้าเรือนสามร้อยปี……………...ก็ไม่มีมัวหมองละอองนวล
ทั้งเนื้อหอมกล่อมกลิ่นระรินรื่น…………....เป็นที่ชื่นเชยบุรุษสุดสงวน
เราได้กลิ่นดินถนันให้รัญจวน………………ด้วยธุระพระอิศวรเธอสาปไว้
ให้อยู่เฝ้าเขาอังกาศขาดครึ่งซีก…………..สุดจะหลีกเลี่ยงกรรมจะทำไฉน
ต่อได้กินดินถนันเมื่อวันไร…………………....จึงจะได้เต็มกายสบายบาน ฯ
นอกจากจะเรียกว่าดินถนันแล้ว
สุนทรภู่ยังเรียกว่า ถันสุธา และ นมพระธรณี
เรื่องดินถนันนี้ท่านคงนำมาจากดินโป่งนั้นเอง ต้องขออธิบายก่อนว่าดินโป่งเป็นดินที่มีแร่ธาตุต่างๆอยู่มากมาย ฝูงสัตว์ป่าต่างๆต่างก็มากินดินโป่งกันนี้แหละ
กระทิงลงกินดินโป่งในอินเดีย
หรือบางทีท่านอาจจะนำแนวคิดนี้มาจากเรื่องเลียดก๊กก็เป็นได้
ในเรื่องเลียดก๊กนั้นได้กล่าวถึงผลไม้ชนิดหนึ่งคล้ายดินถนันมาก
มีความตอนหนึ่งว่า
...กษัตริย์เมืองฌ้อองค์หนึ่งนามว่า ฌ้อเจียวอ๋องได้แล่นสำเภาไปในทะเลพร้อมกับขุนนาง ได้พบของสิ่งหนึ่งลอยน้ำมา สีแดงกลมใหญ่ จึงให้คนลงไปเก็บยกขึ้นมาบนสำเภา
และพระเจ้าฌ้อเจียวอ๋องถามใครดูก็ไม่มีใครทราบว่าคืออะไร จึงเอากระบี่ผ่าออกเป็น 2 ซีก เนื้อในแดงดั่งผลแตงโมจึงเชือดออกชิมดู มีรสหวานหาที่สุดไม่ แล้วตัดแจกบรรดาขุนนางกินกันทุกคน
ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงบ้านเมืองแล้ว พระเจ้าฌ้อเจียวอ๋องให้คนไปถามขงจู๊ดูว่าผลไม้คืออะไร ขงจู๊ตอบว่า ผลนี้เรียกว่า “ผลภูสิทธิ์” เกิดแต่ในน้ำไม่มีต้นไม่มีรากเหมือนต้นไม้ทั้งปวง ต่อเมื่ออายุถึงพันปีจะมีขนาดโตเท่านี้ ใครได้พบได้เห็นและได้กินนับว่าเป็นผู้มีบุญเพราะเป็นของวิเศษ พระเจ้าฌ้อเจียวอ๋องพอใจมากที่ได้ยินคำตอบเช่นนี้...
ขงจู๊ / ขงจื๊อ
หรือบางทีดินถนันนั้นอาจเป็นยาอายุวัฒนะที่เกิดจากจินตนาการของสุนทรภู่เองก็ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ท่านประสงค์อยากจะได้มาก ดังที่ปรากฏอยู่ในนิราศท่านหลายเรื่อง
โฆษณา