Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
New World Finance
•
ติดตาม
11 ม.ค. 2022 เวลา 04:23 • คริปโทเคอร์เรนซี
มาถึง Project Metaverse ตัวสุดท้ายกันซักที ก็จากที่ผมได้วิเคราะห์ The Sandbox กับ Gala ไปเนี่ย ก็ขอบอกเลยว่า...หนีไปจากเหรียญ Mana ซะ!!
อ่ะก่อนที่จะฟังเหตุผลที่ผมคิดแบบนั้น เรา Recap กันก่อนดีกว่าว่า Decentraland (จะขอเรียกสั้นๆว่า DLC) มันคืออะไร?
#Decentraland ขอสั้นๆ
- คล้ายโปรเจ็ค The Sandbox นั่นแหละ เป็น Platform โลกเสมือนที่เปิดให้คนเข้ามาเป็นเจ้าของพื้นที่ แล้วก็สร้าง Content อะไรก็ตามบนที่ดินของตัวเอง ส่วน User อย่างเราๆก็เข้าไปเสพคอนเทนต์ ซึ่งตัว TSB ผมมองว่ามันเป็นเกม คล้าย Roblox หรือ Minecraft แต่ Decentraland จะเป็นแนว VRchat ที่เราเข้าไปเจอคน ไปสังคมกับคนอื่น
- ตอนนี้ Decentraland ก็ย้ายไป Polygon เรียบร้อย ทำให้เราซื้อ-ขาย NFTs ของ Decentraland ผ่าน Polygon network ได้เลย
#Team
- ปัจจุบัน เข้าไปดูใน Linkedin เราก็จะพบว่ามีพนักงานอยู่ประมาณ 76 คน และยังไม่มีแพลนจะรับคนเพิ่ม ซึ่งก็นำมาสู่ Concern อันแรกของผมกับโปรเจ็คนี้
- ตัวทีมผู้ก่อตั้งผันตัวมาเป็นแค่ที่ปรึกษาของ DCL เช่น ตัวของ Ari Meilich ก็กระโดดไปทำโปรเจ็ค NFT Game ของตัวเองอย่าง Bigtime แล้วก็ถ้าเราเข้าไปดูโปรไฟล์ของ Esteban Ordano ก็จะเห็นว่าตอนนี้เขาเป็นแค่ Advisor เท่านั้น
Linkedin: Ari Meilich
- ปัจจุบันแนวทางการพัฒนาของ Decentraland มาจากการโหวตของคนใน Community ที่ถือเหรียญ Mana อยู่ ซึ่งถ้าเข้าไปดูจำนวนคนที่ร่วมโหวต Proposal (ข้อเสนอ) ก็ถือว่าน้อยมากๆ ทำให้มันไม่มี Roadmap ที่ชัดเจนว่าสรุปแล้ว Decentraland จะเดินไปทางไหน
- ที่แย่ไปกว่านั้น (อ้างอิงจาก Coin Bureau) Ari Meilich หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ได้ดึงตัวผู้พัฒนาเก่งๆจาก DCL ไปทำงานกับเขาที่ Bigtime ด้วย
- ผมพยายามหาบทสัมภาษณ์ของทีมผู้พัฒนาแต่สัมภาษณ์ล่าสุดคือต้องย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว ต่างกับ The Sandbox ที่ทีมออกมาอัพเดทข้อมูลของโปรเจ็คอยู่เรื่อยๆ
#Creator บน Decentraland
มาดูทางฟากของ Content Creator บน DCL กันบ้างดีกว่า ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะแย่ไปซะหมด DCL ก็มีบริษัทเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อผลิตคอนเทนต์เหมือนกัน เช่น
- Metaverse Group ที่ซื้อที่ดินบน DCL ไปด้วยจำนวนเงิน 2.43 ล้านดอลลาร์ ที่จะไปพาร์ทเนอร์กับแบรนด์แฟชั่นหลายๆแบรนด์ เพื่อจัด Fashion Show บน DCL
- Boston Protocol ที่ซื้อที่ดินไป 7 แสนดอลลาร์เพื่อสร้าง Virtual mall ที่จะลิงค์กับโลกจริง
- หรือจะเป็นเคสของ Samsung ที่มาเปิด Virutal store ที่ชื่อ “Samsung 837X” ที่พึ่งออกข่าวไป
837X Samsung Virtual Store
แต่ถ้ามาดูสถานะปัจจุบันว่าถ้าเข้าไปใน DCL แล้วมันมีอะไรให้เล่นบ้างเนี่ย ก็ต้องบอกว่า “ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ” ครับ เกมที่ฮิตๆที่ผมเห็นก็จะมีเกม Ice Poker, Golf Craft หรือ Wonder zone ซึ่งไม่สามารถดึงดูดผู้เล่นไว้บนแพลตฟอร์มแน่ๆ
- ดูได้จากตัวเลข Active User ณ ช่วงเวลานึง ที่ผมเข้าไปดูล่าสุด (วันที่ 10/01/22) เนี่ยจะอยู่ที่ 1,744 คนเท่านั้น
DCL Active User
ถ้าเทียบ DCL เป็นเกมใน Steam ก็จะอยู่อันดับที่ 243 เลยล่ะครับ
Steam games Ranking
หรืออย่างที่ผมบอกไป DCL มันคล้ายๆกับ VRChat ซึ่งมี Active User ช่วงเวลาปกติประมาณ 15,731 คน และช่วงพีคถึง 42,564 คน ซึ่งอันนี้ยังไม่รวม VRChat ใน Oculus Rift กับ Quest นะ (หาตัวเลขไม่เจอจริงๆ 😥)
VRChat Active players
ซึ่งเจ้าตัว VRChat ก็พึ่งจะระดมทุนใน Serie D ไป 100 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมีมูลค่าประมาณ 1,250 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ Market cap ของเหรียญ Mana ที่ 5,300 ล้านดอลลาร์ ก็ไปคิดกันเองครับว่า MANA มันมีมูลค่าเกินจริงมั้ย
#อนาคตของ Decentraland
จากที่หาข้อมูลมาจากหลายๆแหล่ง สิ่งที่ผมจับมาได้ว่าจะเป็นแนวทางในการพัฒนา DCL ในอนาคตก็คือ:
- การออกเวอร์ชั่น Stand-Alone Client ก็คือเป็นโปรแกรมที่ไม่ได้เล่นบนเว็ป User ต้องติดตั้ง DCL ก่อนเล่น ซึ่งจะทำให้ความเสถียรในการเล่นเกมมากขึ้นและ Dev สามารถออก Features ใหม่ๆบน DCL ได้ง่ายขึ้น
- การออก Mobile Version เพิ่มช่องทางให้คนเข้ามาเล่น
- และการออก Version VR!! ก็ต้องรอดูว่าเขาจะทำได้จริงมั้ยและทำได้เมื่อไหร่ แต่ล่าสุดก็มี Early test Version VR มาให้รับชมกันแล้วด้วย ซึ่งก็ดูดีมากๆ
Decentraland VR early test
#Community
- อย่างที่บอกไปว่าแนวทางการพัฒนาของ DCL เป็นการตัดสินใจจาก Community แต่ปัญหาก็คือคนที่มาร่วม Vote Proposal น้อยมาก จำนวนคนโหวตต่อ 1 Proposal มากที่สุดที่ผมหามาได้คือ 237 โหวต ซึ่งบาง Proposal มีไม่ถึง 20 โหวตด้วยซ้ำ คิดเป็นแค่ 0.1% ของจำนวนคนที่ถือเหรียญ Mana เท่านั้น
DCL Proposal Voting
ส่วนอีกฟากนึงก็คือ Community ของ Creator ซึ่งผมใช้มาตรวัดง่ายๆคือใน Discord ของ DCL ในช่องแชท “#Builder and 3D” มีจำนวนข้อความที่คุยกันต้องแต่ต้นปี 2022 กี่ข้อความ ปรากฎว่ามีแค่ 139 ข้อความเท่านั้น
Discord ของ DCL ในช่องแชท “#Builder and 3D”
- เทียบกับ TSB ในช่องแชท “Game-maker-chat” ตั้งแต่ต้นปี มีจำนวนข้อความอยู่ที่ 1,509 ข้อความ มากกว่า DCL อยู่ 10 เท่า
TSB ในช่องแชท “Game-maker-chat”
- แล้วก็ช่องทาง YouTube ของ DCL ที่ควรจะมีวิดิโอของ Feature หรือ Partnership ใหม่ๆ มาอัพเดท รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ของ User และ Creator กลับเงียบมาก...
YouTube: Decentraland
เอาหล่ะ มาถึงอีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ
#Tokenomics
เหรียญ MANA จะใช้ในการซื้อ NFTs เช่น ที่ดินหรือของตกแต่ง Avatar ของเรา รวมไปถึงการใช้ร่วมกิจกรรมภายใน DCL เช่น ใช้ซื้อตั๋วเข้าร่วม Event หรือเข้าเล่นมินิเกม แต่ปัจจุบัน DCL ยังไม่มีระบบในการ Stake เหรียญ
เหรียญ MANA มีการแจกจ่ายตามนี้:
- Crowdsale (ICO) 40% — เปิดขาย MANA เพื่อระดมทุนช่วง ICO ปี 2017 ไปในราคา $0.0240 (กำไร 125 เด้ง ณ ราคา $3)
- Foundation 20% — ถือโดย DCL Foundation
- Team 20% — ไปอ่านเจอข้อมูลบนเว็ปไซต์ [coinpocalypse](
http://coinpocalypse.com/
) ว่า Founder ทั้ง 2 คน (Ari Meilich กับ Esteban Ordano) ได้ Cash-out หรือทำการขายเหรียญ MANA ออกไปหมดแล้ว ซึ่งมุมนึงก็คืออย่างน้อยวาฬ 2 ตัวก็ได้เทขายไปหมดแล้ว แต่อีกมุมนึงก็คือคนที่เป็น Founder ได้ทิ้งโปรเจ็คนี้ไปแล้วนั่นเอง
- Community & Partner 20% — ไว้เป็น Incentive ให้กับ Creator หรือ Developer
MANA Token Allocation
เหรียญ MANA ถูกเผาออกไปจากระบบจำนวน 611 ล้านเหรียญจากการเปิดขายที่ดินในช่วงแรก ทำให้ Max supply อยู่ที่ประมาณ 2,200 ล้านเหรียญ
MANA Supply
- DCL มีการเก็บค่าธรรมเนียม 2.5% จากมูลค่าการซื้อขาย NFT บน Marketplace แล้วก็เอาไปเก็บไว้ใน Treasury เอาไว้เป็นทุนสำรอง
- ซึ่ง Volume ซื้อขายของในปีที่ผ่านมาจากเว็ปไซต์ [
Nonfungible.com
](
http://Nonfungible.com
) ของ DCL marketplace จะอยู่ที่ราวๆ 15 ล้านดอลลาร์ เท่ากับ DCL มีรายได้ประมาณ 375,000 ดอลลาร์ในปีที่แล้วเท่านั้น ต้องบอกว่าน้อยมากๆเมื่อเทียบกับเกมอย่าง Axie Infinity หรือ The Sandbox
DCL NFT Trading Volume
ส่วนสุดท้ายที่อยากจะเอ่ยถึงคือ Concern หรือข้อกังขาที่ผมมีต่อ DCL
#Concern
1. โปรเจ็คนี้ไม่มีหัวเรือคอยนำทาง ผู้ก่อตั้งไปทำโปรเจ็คอื่นแล้วและยังดึงคนเก่งๆไปอีกด้วย บวกกับการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของคนใน Community ยังถือว่าน้อย
2. ตัวเลข Active User น้อยมากๆ ถ้าไม่มี Feature ที่เจ๋งจริงๆออกมาก็ยากที่จะเกิด Network effect เพราะ Creator ก็ไม่มีแรงจูงใจในการสร้างอะไรบน DCL
3. Concern นี้จะเหมือนกับหลายๆ Metaverse โปรเจ็ค คือถ้าที่ดินมันแพงขนาดนี้ มันเป็นการปิดกั้น Creativity จากคนไม่มีทุนที่จะมาสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มรึเปล่า เพราะอย่าง Roblox ก็เปิดให้ “ทุก User” สามารถสร้างเกมได้ฟรีๆ ผมเชื่ออย่างนึงว่าคนที่ซื้อที่ดินไปส่วนมาก หวังว่าจะขายได้ในราคาที่แพงกว่าในอนาคต ไม่ได้มีความตั้งใจจริงๆที่จะสร้างอะไรบนที่ดินเหล่านั้น
4. อย่างที่บอกไป Market cap ของเหรียญ MANA (เทียบกับ VRChat) มันเกินมูลค่าที่แท้จริงไป เมื่อเทียบกับสิ่งที่มันทำได้ปัจจุบันกับโอกาสเติบโตในอนาคต
#สรุป
นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่กลั่นออกมาจากข้อมูลที่ผมมีนะครับ ถ้ามีข้อมูลไหนที่ตกหล่นไปต้องขออภัยไว้ด้วยฮะ แล้วก็ถ้ามีมุมไหนที่ไม่เห็นด้วย สามารถถกเถียงกันอย่าง “สุขุม” ได้ครับ 😅 สรุปว่า...ผมขอผ่านสำหรับเหรียญ MANA ละกันนะครับ
#Not financial advice
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย