12 ม.ค. 2022 เวลา 05:48 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หนังเรื่องนี้คือตำนาน
The Magnificent Butcher หรือ ไอ้หนุ่มหมูหิน (1979)
แม้จะเป็นพี่ใหญ่จากโรงงิ้วของอาจารย์หยูจิมหยวน แต่ศิษย์พี่ใหญ่อย่างหงจินเป่าถือว่าดังช้ากว่าเฉินหลงผู้เป็นศิษย์น้องในฐานะนักแสดง (แต่หงจินเป่าได้รับการยอมรับในด้านการออกแบบคิวบู๊มาก่อน) ซึ่งหลังจากความสำเร็จของไอ้หนุ่มหมัดเมา “Drunken Master” (1978) โกลเด้น ฮาร์เวสท์ และหยวนหวูปิงมีความคิดจะสร้างหนังที่คล้ายกัน โดยมีตัวละครยาจกซูที่เล่นโดยหยวนเสี่ยวเทียน แต่ปรากฏว่าหยวนเสี่ยวเทียนเสียชีวิตกระทันหันด้วยอาการหัวใจล้มเหลว จึงนำเอาฟานเม่ยเช็งดาราร่างสมบูรณ์มารับบทแทน มีหยวนหวูปิงมารับหน้าที่กำกับเช่นเดียวกับไอ้หนุ่มหมัดเมา แล้วดันหงจินเป่ามารับบทนำ
โกลเด้นฮาร์เวสท์ หวังว่า The Magnificent Butcher หรือ ไอ้หนุ่มหมูหิน จะดังเกินกว่าที่ไอ้หนุ่มหมัดเมาทำได้ แล้วให้อิสระกับทีมงานเต็มที่
 
หนังเรื่องนี้อิงจากเรื่องราวของคนขายหมูหลินไซหยง(หงจินเป่า)ศิษย์เอกของอาจารย์หวงเฟยหง ซึ่งหวงเฟยหงโผล่ออกมาเปิดหัว ปิดท้ายนิดหน่อย โดยรับบทโดยกวานต๊ะหิงขาประจำหวงเฟยหงมากกว่า 80 ครั้ง มีหยวนเปียวมารับเหลียงฟุนลูกศิษย์ของอาจารย์หวง ซึ่งหยวนเปียวจะมาซ้ำบทนี้ในอีกหลายปีต่อมาใน Once Upon a Time in China
ถ้าเทียบกับไอ้หนุ่มหมัดเมาแล้ว ไอ้หนุ่มหมูหินมีโครงสร้างการเล่าเรื่องที่แข็งแรงและสมบูรณ์กว่า หลากไปด้วยอารมณ์ และจริงจังกว่าไอ้หนุ่มหมัดเมามาก ที่ยอดเยี่ยมมากๆก็คือฉากการต่อสู้ที่หงจินเป่านำเอาศิษย์น้องหลายๆ คน ทั้งหยวนเปียว หลินเจิ้งอิง มา "ปล่อยของ" กันอย่างเต็มที่ มันจึงทำให้ฉากแอ็คชั่นกังฟูในไอ้หนุ่มหมูหินยังมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากแม้จะผ่านเวลามากว่า 40 ปี อีกทั้งยังหลากหลายรูปแบบการต่อสู้ มีฉากเด่นๆที่น่าจดจำอยู่หลายฉาก อาทิ การจับคู่สู้กันของหยวนเปียวและหลินเจิ้งอิงซึ่งในเรื่องแกใช้พัดเป็นอาวุธ ขณะที่หยวนเปียวพิสูจน์แล้วว่าถ้าเป็นมวยที่ต้องตีลังกามากๆ ใช้เพลงเตะสวยๆ ผมว่าหยวนเปียวคืออันดับหนึ่งในยุทธจักรกังฟูเลยทีเดียว
แต่ฉากที่สนุกที่สุดคือฉากหลินไซหยง(หงจินเป่า)สู้กับจอมยุทธ์จอมสอดแนมที่มีมวยแมวเป็นหมัดเด็ด ระหว่างดูๆไปก็นึกว่าโลกนี้มีสัตว์ตั้งเยอะแยะ ทำไมมาเลือกฝึกมวยแมวว่ะ ฉากนี้คือฉากโชว์ทักษะและเอนเตอร์เทนคนดูชั้นดีเลยทีเดียว แล้วผมก็นึกในใจว่าถ้าไอ้นี่มันไปฝึกมวยสล็อธคงจะสนุกน่าดู (แค่คิดว่ามันจะสู้กันยังไงก็มันแล้ว)
พูดถึงหยวนเปียวแล้วในปีที่ไอ้หนุ่มหมูหินออกฉาย หงจินเป่าพยายามดันศิษย์น้องคนนี้เต็มที่ เขากำกับหยวนเปียวในหนัง ไอ้หนุ่มหมัดกำมะลอ(Knockabout) เนื้อเรื่องก็ยังวนเวียนกับศิษย์เป่าจือหลิน แต่ที่พิเศษคือฉากต่อสู้สุดท้ายที่ยาวถึง 15 นาที เป็นฉากโชว์การต่อสู้ของหยวนเปียว ที่มีหงจินเป่ามาช่วยเสริม
เรียกว่าหยวนเปียวถนัดอะไร ทำอะไรได้บ้างงัดเอาออกมาใช้ทั้งหมด เป็นฉากต่อสู้ท้ายเรื่องที่ยาวที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และในอีกสองปีถัดมาหยวนเปียวมีหนังไอ้หมัดสิงโตไร้เทียมทาน ( Dreadnaught หยวนหวูปิงกำกับ) รับบทเป็นไอ้หนุ่มจอมกระล่อมเพื่อนสนิทของลูกศิษย์อาจารย์หวง(ไบรอัน เหลียงหรือ หลิวเจียหยง รับบทเพื่อนเกลอ คู่นี้เล่นหนังเป็นคู่หูกันหลายเรื่อง เสียดายหลิวเจียหลงที่ชอว์ไม่ได้ใช้งานเข้าให้ถูกจุด พอมาเล่นหนังกับโกลเด้น ฮาร์เวสท์กลายเป็นโดดเด่นขึ้นมาเลย) กลายเป็นหนังหยวนเปียวโชว์ที่สนุกมากๆ
กลับมาที่ไอ้หนุ่มหมูหิน ก็เหมือนหนังกังฟูยุคนั้นมีโครงเรื่องย่อยๆ ที่เชื่อมโยงกันอย่างหลวมๆ แต่หนังเรื่องนี้มีครบทุกอย่าง ทั้ง อารมณ์ขัน ดราม่า และแอ็คชั่น ผู้ชมสามารถตื่นตาตื่นใจกับความเร็วและความคล่องตัวของหงจินเป่า หลังจากเอากลับมาดูอีกครั้งก็ยังดี เป็นงานระดับมาสเตอร์พีซที่แฟนหนังกังฟูต้องไม่พลาด
ส่วนรายได้ที่เรมอนด์ เชาหวังว่าจะทำได้ดีกว่าไอ้หนุ่มหนัดเมาที่ทำไปได้ 6.8 ล้านเหรียญฮ่องกง ส่วนไอ้หนุ่มหมูหินทำไป 3.95 ล้านเหรียญฮ่องกง ว่ากันว่าส่วนหนึ่งเพราะขาดหยวนเสี่ยวเทียนไป
โฆษณา