13 ม.ค. 2022 เวลา 00:00 • ดนตรี เพลง
อาลัย “ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” ตำนานนักร้อง นักแหล่ ผู้เป็น ‘สมบัติของชาติ’
หากจะกล่าวชื่อนักร้องเพลงแหล่ ผู้เป็นตำนานของวงการเพลงลูกทุ่ง และเปรียบเสมือน “ราชาเพลงแหล่” ของวงการเพลงลูกทุ่ง ต้องยกให้กับชายคนนี้ “ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยลูกทุ่ง) พ.ศ. 2540
คุณอาไวพจน์ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ตอนเด็กๆ ชอบแนวเพลงพื้นบ้าน ถึงขนาดที่ว่าเริ่มหัดร้องเพลงอีแซวมาตั้งแต่ 2 ขวบ และเริ่มถนัดร้องแหล่ตอนอายุ 14 ปี นอกจากนั้นเขาเป็นที่ชื่นชอบเพลงลูกทุ่งแท้ๆ อีกด้วย จนกระทั่งคุณอาได้เข้าสู่วงการเพลง โดยการขอตัวเป็นศิษย์ของครูสำเนียง ม่วงทอง นักแต่งเพลงซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน เขาได้แต่งเพลง “ให้พี่บวชเสียก่อน” ให้ไวพจน์ขับร้อง จนประสบความสำเร็จ แจ้งเกิดเป็นนักร้องลูกทุ่ง โดยไม่ทันตั้งตัวเลย จากนั้นก็มีผลงานเพลงลูกทุ่งอื่นๆ ตามมา ซึ่งส่วนใหญ่นั้น แนวเพลงลูกทุ่งที่คุณอาร้อง จะมีการผสมผสานกับแนวเพลงพื้นบ้านของไทย เช่น เพลงอีแซว เพลงฉ่อย เพลงเรือ เพลงกล่อม แต่เพลงที่คุณอาถนัดมากที่สุดทั้งการร้องและการประพันธ์เพลง และกลายเป็นแนวเพลงสร้างชื่อและนิยมที่สุดก็คือ “เพลงแหล่”
ตัวอย่างเพลงเพลงที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุด ได้แก่ เพลง “ไวพจน์ลาบวช” ซึ่งเพลงนี้เคยนำไปทำเป็นมีมในโลกอินเตอร์เน็ตมาแล้ว เมื่อไรก็ตาม ในทุกวันที่ 21 มิถุนายน ของทุกปี นอกจากจะเป็นวันดนตรีโลกแล้ว วันนั้นแหละเป็นวันลาบวชตามชื่อเพลงและเนื้อหาของเพลงนั้น
เพลง “หนุ่มนารอนาง” เพลงนี้เป็นเพลงลูกทุ่งแท้ๆ จังหวะสนุกๆ ที่คุณอาขับร้องไว้ ก็เป็นที่นิยมมาก และนับเป็นเพลงสุดคาสสิคเพลงหนึ่งของวงการเพลงลูกทุ่ง
เพลง “แตงเถาตาย” เพลงแหล่ระดับตำนานอีกเพลง ที่ใช้ภาษาและเนื้อที่ไม่ซับซ้อนมาก หยิบเอาสำนวนไทยใกล้ตัว มาขยายความให้ดูน่าฟังขึ้น
เพลง “สาละวันรำวง” เป็นบทเพลงที่คนฟังบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า เพลงลูกทุ่งหมอลำแนวนี้ คุณอาก็เคยร้องมาแล้ว แถมเพลงนี้ยิ่งทำเป็นแนวรำวง ก็ยิ่งชวนเซิ้งไปอีก ถือว่าเป็นบทเพลงที่สร้างความแปลกใหม่สำหรับผู้ชายคนนี้
เพลง “นาคสั่งสีกา” เพลงแหล่ที่คุณ “ทศพล หิมพานต์” ได้ร้องเอาไว้ แต่คุณอาขอแจมกับเขาด้วยในอัลบั้ม “คู่บุญ คู่บวช” จนกลายเป็นวลีสุดครีเอทของคุณอา “วันละกั๊ก วันละแบน กิ้งก่า กิ้งกือ” ฟังไปหัวเราะไป นานๆไป ก็ติดหูติดปากไปทั้งประเทศแล้ว
นอกจากนั้น เพลงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวมา ล้วนเป็นมรดกเพลงลูกทุ่ง ที่คุณอาได้รังสรรค์ไว้ ทั้งเพลงของตนเอง และเพลงที่แต่งให้นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ทั้งระดับดาวเด่นและโด่งดัง อาทิ “ขวัญจิต ศรีประจันต์” , “เพชร โพธาราม” , “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เป็นต้น แถมความสามารถนอกเหนือจากนั้น คุณอาก็ยังเป็นหมอทำขวัญอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่เมื่อเวลาจะจัดงานบวชนาคเมื่อไร ต้องมีพิธีทำขวัญนาคด้วย และแน่นอน คนที่จ้างหมอทำขวัญนาค ถ้าไม่ใช้ทศพล ก็ต้องไวพจน์ อยู่แล้ว ไม่ก็ควบสองคนไปเลยจ้า ให้สมกับคู่บุญ คู่บวช ตัวจริง!
แม้จะอยู่ในวงการมาหลายปี เมื่อคราวถึงช่วงสูงวัย คุณอาก็ยังรับงานจ้าง งานร้อง และงานทำขวัญนาค อยู่เสมอ แถมคุณอามีนิสัยเป็นกันเอง หยอดมุกตลก ร้องเพลงแหล่ แซวแขก แซวคนฟัง ลามไปถึงแซวชื่อตัวเองที่คณะตลกเอาไปเล่นให้ฮากันกันทั่วบ้านทั่วเมืองก็มีนะ แถมเรื่องการร้องนั้น คุณอาก็ยังรักษาเสียงร้องคุณภาพเอาไว้อย่างดี ขนาดคนฟังเพลงยังชมว่า แม้จะกลายเป็นผู้สูงวัยแล้ว แต่ร่างกายเขายังแข็งแรง น้ำเสียงคงที่ ไม่เคยเปลี่ยนเลย (ถึงแม้ว่าโรคทางชราจะถามหาเขาแล้วก็ตาม) คุณอาได้ใช้ชีวิตในวงการเพลงลูกทุ่งมาหลายสิบปี จนกระทั่งวันที่ 12 มกราคม 2565 คุณอาไวพจน์ เพชรสุพรรณ วัย 79 ปี ก็ถึงเวลาละสังขารอย่างสงบ ปิดตำนานราชาเพลงแหล่ ผู้สร้างสีสันให้กับวงการลูกทุ่งไทยไปตลอดกาล
ด้วยความรัก และความชื่นชอบเพลงของคุณอาไวพจน์แล้ว แต่ละเพลงถือว่า เป็นบทเพลงที่ทรงคุณค่า สมกับการเป็นนักร้องเพลงแหล่ระดับมืออาชีพของวงการ ที่ควรจะยึดเป็นตัวอย่างและต้นแบบของประชาชน ผู้มีใจรักเสียงเพลงรุ่นต่อๆ ไป ทาง #ยามเฝ้าเพลง ขอแสดงความอาลัย และขอขอบคุณอาไวพจน์เป็นอย่างสูง ที่ทำให้เราได้รู้จักและซึมซับกับเพลงแหล่ระดับคาสสิคเช่นนี้ ขอยกความดีและผลงานเพลงของเขาทั้งหมดนี้เป็น “สมบัติเพลงของชาติ” ที่เราและคนรุ่นต่อไปจะสืบสาน ต่อยอด และอนุรักษ์ไว้ตราบนานเท่านาน
ขอบคุณข้อมูลจาก th.wikipedia.org
ติดตาม #ยามเฝ้าเพลง ได้ที่เฟซบุ๊ก
และทุกช่องทางการติดตาม
โฆษณา