13 ม.ค. 2022 เวลา 03:08 • การเมือง
ภัยคุกคามไฮบริด - ซอฟต์ พาวเวอร์กองทัพไทย “บิ๊กไก่”แง้มความมั่นคงชาติ !!
“บิ๊กไก่” พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ฉายา“แม่ทัพตึกแดง” เล่าให้ฟังถึงมิติความมั่นคงตามยุทธศาสตร์ชาติที่เข้าไปเกี่ยวข้องในหลายด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการรักษาดุลยภาพสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ - รักษาพื้นที่มั่นคงพื้นที่ชายแดน – การเมืองระหว่างประเทศเปลี่ยนไปสู่หลายขั้วอำนาจ – การขยายอิทธิพลและบทบาทของประเทศมหาอำนาจสู่อาเซียน
- ทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจอยู่ในแบบการสกัดกั้น / พัวพัน / ปิดล้อม และปฏิสัมพันธ์ ที่ไทยต้องสร้างความสมดุลกับมหาอำนาจ – ความเปลี่ยนแปลงของบริบทความมั่นคงภายในประเทศ และวัฒนธรรมการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจในนโยบายรัฐมากขึ้น ฯลฯ
รอบปีที่ผ่านมาผลการประเมินความมั่นคงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาพรวมอยู่ในระดับเหมาะสม แม้ไม่ถึงกับสุดยอด..ก็ถือว่าสำเร็จ !! ได้ข้อมูลส่วนหนึ่งไปปรับปรุงแผนความมั่นคงตามยุทธศาสตร์ชาติในอีก 5 ปีข้างหน้า
“ร่างนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2566 – 2570” เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของสถาบันหลักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนยิ่งชีพ
แผนความมั่นคง ดักภัยคุกคามไฮบริด !?
ต้องบอกว่าร่างแผนความมั่นคง 5 ปี เป็นการผสมผสานความมั่นคงรูปแบบเก่ากับความมั่นคงรูปแบบใหม่ ในลักษณะ “ภัยคุกคามยุคไฮบริด”
ที่ประเทศเผชิญกับเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลง หลากหลาย รวดเร็ว ขอบเขตกว้างขวาง สถานการณ์เต็มไปด้วยความผันผวน (Volatility) ไม่แน่นอน (Uncertainty) ซับซ้อน (Complexity) คลุมเครือไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ (Ambiguity) เรียกว่า “VUCA World”
โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ - ภูมิรัฐศาสตร์ - ความมั่นคง – พ่วงวิกฤตโควิด – 19 ทำให้บรรทัดฐานต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป
ยังมีลักษณะของช่วงวัย – เรื่องของความคิด วัฒนธรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และกระแสสังคมใหม่ ๆ
รวมทั้งกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น โรคอุบัติใหม่ การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การเมืองประเทศเพื่อนบ้าน การแข่งขันขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคอาเซียน ทะเลจีนใต้ อนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง สงครามไซเบอร์ แรงงานผิดกฎหมาย ค้ามนุษย์ ยาเสพติด ฯลฯ
เป็นภัยคุกคามความมั่นคงในภาพรวมที่เชื่อมโยงกันหมด !!
ดังนั้นการจัดทำร่างแผนความมั่นคง 5 ปี จำเป็นต้องวิเคราะห์ปัจจัยและประเมินสถานการณ์รอบด้าน โดยดูนโยบายหลัก 12 ด้าน - นโยบายเร่งด่วน 12 เรื่องของรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง 4 เรื่องใหญ่ คือ
(1) การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นหน้าที่ของคนไทยตามรัฐธรรมนูญ
1
(2) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ
(3) มิติความมั่นคงด้านต่างประเทศและภายในประเทศ
(4) การแก้ไขปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบในวงราชการ แก้ไขปัญหายาเสพติด และสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
จุดยืนไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศ !?
สำหรับมิติความมั่นคงด้านความสัมพันธ์กับชาติมหาอำนาจที่แผ่อิทธิพลมายังอาเซียน “บิ๊กไก่” เสียงดังฟังชัด..ครับผม !!
สมช. ยึดตามนโยบายกระทรวงการต่างประเทศ เราพูดคุยกันเกือบทุกเดือน มีกลไกอัพเดตตลอด และมีการกำหนดทิศทางชัดเจนรับมือกับประเทศมหาอำนาจ หรือท่าทีของแต่ละประเทศ
ย้ำ !! จุดยืนของไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศ
ไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมสร้างความร่วมมือ สนับสนุนกับมิตรประเทศ กับประเทศมหาอำนาจที่มีความสัมพันธ์กับเรา แต่ต้องไม่กระทบต่ออีกประเทศหนึ่ง
เหนือสิ่งอื่นใด..ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย ไม่กระทบคนไทย
ในภาพใหญ่การสร้างสมดุลของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี อะไรที่จะกระทบต่อนโยบาย - ประชาชน – เศรษฐกิจไทย
เราใช้วิธีพูดกับเขาตรง ๆ ว่า “มันกระทบนะ – อธิบายเหตุอย่างเป็นตรรกะ”
เรายืนอยู่ตรงจุดนี้ !! ทางเขาช่วยเหลืออะไรมา เมื่อมีโอกาสเราก็ยินดีพร้อมตอบแทนในความเป็นเพื่อน
ภายใต้ “นโยบายเป็นมิตร – ยุติธรรม – ไม่ก้าวก่าย” เป็นเครื่องมือสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และแก้ปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน
ซอฟต์ พาวเวอร์ บนสรรพของกองทัพ พลังแก้ปัญหา !?
ปัญหาคาใจของหลาย ๆ คนที่สงสัยว่า ทำไมกองทัพต้องพัฒนาขีดความสามารถด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร ??
“บิ๊กไก่” บอกว่า แม้บางทีสังคมฟังแล้วไม่สบายใจในหลาย ๆ เรื่องว่าทำไมต้องซื้ออาวุธ ซื้อรถถัง ซื้อเครื่องบิน....
แต่ในมิติความมั่นคงนั้น มันมีความจำเป็นที่ต้องทำในสภาวะปัจจุบัน เพราะอนาคตของไทยอย่างไรก็ต้องอยู่ให้ได้ในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีศักดิ์ศรี
มีศักยภาพพูดคุยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคอย่างมีพลัง มีศักยภาพที่จะไปสร้างความเจริญด้านเศรษฐกิจ มีพลังเจรจาต่อรองด้านเศรษฐกิจโยงไปถึงประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ
หลายครั้งมีความขัดแย้งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น บางประเด็นไม่น่าเกิดการสู้รบได้..ก็ยังเกิด แม้เกิดเฉพาะบางพื้นที่ก็ตาม
เราวิเคราะห์ว่าสงครามยืดเยื้อไม่มีแน่นอน แต่จะเป็นสงครามเฉพาะบริเวณ เฉพาะหน้าช่วงเวลาสั้น ๆ ...มีโอกาสเกิดขึ้นได้หมด !! หากเกิดขึ้นแล้วไทยเสียเปรียบเขาทุกอย่าง เครื่องบินก็สู้เขาไม่ได้
แล้วในการเจรจา เราจะอยู่ฝ่ายไหนระหว่างเสียเปรียบเป็นรอง..กับ..ได้เปรียบเป็นต่อในการเจรจายุติปัญหา ??
1
ทุกวันนี้ปัญหาชายแดนหลายจุดอาจเกิดเหตุได้ตลอด เวลาการแสดงบทบาทในประเทศที่ได้เปรียบ มันต้องแสดงบทบาททันที ! ทันควัน !มีกลไกที่เป็นพลังของเรา..จะรอมิตรประเทศไม่ได้ เพราะกว่าจะได้รับการช่วยเหลือ..ไทยก็ตกเป็นเบี้ยล่างในการแก้ไขปัญหา
 
ประเด็นนี้เป็นธรรมชาติของความมั่นคงระหว่างประเทศ การเจรจาต่อรองกับใคร..ก็ต้องมีสง่าราศี มีความพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ..สำคัญที่สุด
1
นายกฯ ใช้คำว่า ซอฟต์ พาวเวอร์ บนความพร้อมสรรพของกองทัพ เป็นพลังแก้ไขปัญหาฉุกเฉินที่เกิดขึ้น โดยไม่คาดคิดนั่นเอง --//--
.
เรื่องและภาพ : WhoChillDay
13 มกราคม 2565
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านทุกเรื่องราว
และทักทาย WhoChillDay นะคะ
#WhoChillDay #พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม
#VUCA World #ความมั่นคงชาติ
#ซอฟต์ พาวเวอร์กองทัพ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา