Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รูปรูป คำคำ
•
ติดตาม
13 ม.ค. 2022 เวลา 05:40 • นิยาย เรื่องสั้น
ดมเดลลี 8 ปีกผีเสื้อ
ในหลายวัฒนธรรม หรือในงานศิลปะ และบทกวี จากหลายมุมทั่วทั้งโลกนั้น “ผีเสื้อ” ถูกใช้เป็นตัวแทนของความสุข ความฝัน จินตนาการ รวมไปถึงความงาม ผมมั่นใจว่าเราคงจะคุ้นเคยผ่านตากันบ้าง ไม่มากก็น้อยล่ะครับ
แรกทีเดียว ที่ผมได้ยินชื่อของ The Butterfly Project นั้น แม้จะยังไม่ได้รับรู้ถึงรายละเอียดในเรื่องที่โครงการนี้ได้ลงมือทำ ก็รู้สึกได้ถึงพลังงานด้านบวก ที่มี ผีเสื้อ เป็นตัวแทนได้
อย่างที่เคยเล่าไปในตอนก่อน ๆ แล้วล่ะครับ ว่าประเด็นหลัก ๆ ที่ทำให้ผมต้องเดินทางมารอนแรมทำงานอยู่ในอินเดีย โดยเฉพาะที่ เดลลี นี้ ก็ด้วยเรื่องของการศึกษานอกระบบ ช่องว่างของความแตกต่างในสังคม ที่ทำให้โอกาสที่จะเข้าถึงระบบการศึกษาของที่นี่นั้น ลักลั่นกันอย่างชัดเจน มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
Butterfly Project นั้นเป็นโครงการที่อยู่ในความดูแลของ The Butterfly Foundation ที่ทำงานเพื่อจุดประสงค์ที่จะดูแลส่วนประกอบที่ขาดโอกาสในสังคมของอินเดีย และการถูกยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้หญิง และความหลากหลายทางเพศ
เช้าตรู่ ผมนั่งอยู่ในรถตู้ขนาดเล็ก ขนาด 800 cc. เพื่อเดินทางไปพบกับหนึ่งในโครงการของ Butterfly Project ที่มีเป้าหมายคือเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสในเดลลี จุดหมายแรกในวันนั้นก็คือ สลัม ของเดลลี ที่อยู่ไม่ห่างจากท่าอากาศยาน อินทิรา คานธี สนามบินแห่งชาติของอินเดีย ชานเมืองหลวงอย่าง เดลลี นี่เอง
ผมขอไม่เรียก สลัม ของที่เดลลีนี้ว่าชุมชนแออัดนะครับ เพราะภาพที่เห็นด้วยตานั้น ไม่ได้แออัดแต่อย่างใด เพราะภาพที่สัมผัสด้วยตาครั้งแรก เมื่อทีมงานชี้ให้ผมมองดูสิ่งที่เรียกว่า สลัม ของที่เดลลีนี้ ห่างไกลจากคำว่าแออัดไปมากทีเดียว
พูดให้เห็นภาพชัดเจนว่า มันคือกองขยะครับ ไม่ได้พูดในเชิงเปรียบเทียบนะครับ เพราะมันคือกองขยะจริง ๆ แต่มีผู้คนที่พักอาศัยใช้ชีวิต กินอยู่ หลับ นอน อยู่ในกองขยะนั้น ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ๆ
ผู้ใหญ่ถ้าไม่ออกไปทำงาน ไปขอทาน ก็หากินอยู่กับกองขยะนั่นล่ะครับ เช่นคุ้ยหาถุงพลาสติกมาล้างแล้วตาก รวบรวมไปขาย หรือหาเศษสิ่งของที่พอจะแปรเป็นเงินเล็กน้อย ส่วนเด็ก ๆ นั้น ก็ใช้ชีวิตอยู่กับกองขยะที่เป็นบ้านนั่นล่ะครับ วิ่งเล่นกันไปตามประสา ไอ้เรื่องที่จะไปเรียนหนังสือในระบบการศึกษานั้น ลืมไปได้เลย เพราะเอาแค่ปัจจัย 4 ที่ใช้เพื่อดำรงชีพนั้นยังยากเย็นเหลือเกินแล้ว
ทั้งที่เตรียมตัวเตรียมหัวใจ เพื่อไปพบกับ สลัม ของเดลลีมาล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยอมรับตรง ๆ เลยว่า สลัม ของเดลลีนั้น ทำเอา สลัม บ้านเรา กลายเป็นอพาร์ตเม้นท์ไปเลยล่ะครับ มันเกินกว่าที่วาดภาพเอาไว้มากมาย จนเข้าใจหัวอกของ Butterfly Project ที่นิ่งดูดายไม่ไหว ต้องลงมือลงแรง เพื่อทำอะไรให้กับพี่น้องร่วมชาติของเขาบ้าง
ที่มุมใต้ต้นไม้ ใกล้กับกองขยะที่เรียกว่า บ้าน ของคนแถวนั้น มีรถมินิบัสสีเหลืองคันย่อมจอดอยู่ มองเห็นได้แต่ไกลเลยครับ เพราะมันประดับประดา ด้วยรูปภาพและตัวอักษร ที่มีสีสันเหมือนโรงเรียนอนุบาล หรือมุมของเด็ก ๆ ในห้างร้านที่คุ้นตา
มันเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ ที่ทำหน้าที่คล้ายโรงเรียน ที่เคลื่อนที่ไปหา เด็กด้อยโอกาส เด็กในสลัม ที่พ่อแม่ออกไปทำงาน ไปขอทาน และทิ้งเด็ก ๆ เหล่านี้ไว้กับกองขยะในตอนกลางวัน เล่นกันไปตามยถา ... บนรถมีครูอาสาประจำรถอยู่สองคน ทำหน้าที่ขับรถด้วย นำเล่นเกมส์ สอนหนังสือ และชี้ชวนเด็ก ๆ ทำกิจกรรมสนุก ๆ
เด็กก็คือเด็กครับ ไม่ว่าจะอยู่ในกองขยะ หรืออยู่ในคฤหาสน์ สายตาเป็นประกายเมื่อได้เห็นของเล่น ได้เห็นหนังสือนิทาน ได้เล่นเกมส์ ได้วาดรูป ผมมั่นใจว่าได้มองเห็นรอยยิ้ม และได้ยินเสียงหัวเราะ ที่บริสุทธิ์สดใสที่สุด ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยล่ะครับ ผมว่าใครได้ไปเห็นด้วยตา ก็คงคิดเหมือนกับผม
น่าเสียดายนะครับ ที่เกือบทั้งหมดของเด็ก ๆ ที่มารุมล้อมรถสีเหลืองคันนี้ แทบไม่รู้หนังสือเลย อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ผมมองดูครูอาสาที่พยายามชี้ชวน และสอนเท่าที่โอกาสจะอำนวย ก็ชื่นชมความพยายามนะครับ
ครูอาสา แจกสมุดไว้ขีดเขียนให้กับเด็ก ๆ ผมมองเห็นเด็ก ๆ ถือไว้อย่างหวงแหน สำหรับหลายคนอาจเป็นแค่สมุดแจกฟรีสักเล่ม แต่กับเด็ก ๆ ที่ไม่มีโอกาสเหล่านั้น นี่อาจเป็นแรงบัลดาลใจให้เขาอยากเขียนได้ อยากอ่านออก จนเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตดีขึ้นก็เป็นได้
ผมเดินทางต่อไปอีกที่ ระหว่างทางนั้นก็ได้รับการชี้ชวนให้สังเกตดูว่า ตามมุมถนน เกาะกลางถนน ใต้สะพานยกระดับ นั้นมักจะมีเด็กเร่ร่อนเกาะกลุ่มกันอยู่ บ้างก็เป็นครอบครัวคนไร้บ้านที่ทิ้งเด็ก ๆ ให้เล่นกันอยู่ตามมุมถนน ... มันเป็นภาพที่ชินตาในเมืองใหญ่อย่าง เดลลี จริง ๆ ครับ
เด็ก ๆ อีกจำนวนมาก ก็อาศัยพื้นที่สี่แยกเพื่อทำมาหากิน ส่วนใหญ่ก็เป็นการเดินขอเงินจากรถที่จอดติดสัญญาณไฟอยู่ โตขึ้นมาหน่อย พอขายยองได้ ก็จะรับจ้างขายของตามสี่แยก ขายทุกอย่างที่เราสามารถจินตนาการได้ ว่าสิ่งนั้นจะมีขายตามสี่แยก ทั้งหนังสือพิมพ์ หนังสือพ๊อคเก็ตบุ๊ค ขายของเล่น เครื่องประดับ ขายขนม ขายผ้า ขายโปสการ์ด ขายเครื่องดื่มร้อนเช่นชาไชยร้อน ๆ และอะไรต่ออะไรอีกหลากหลาย
รถสีเหลืองอีกคัน จอดอยู่ใกล้กับสี่แยกใหญ่ มีร่มไม้ให้ร่มเงาอยู่ข้าง ๆ แต่คันนี้ไม่ได้เป็นห้องสมุดเคลื่อนที่เหมือนคันก่อนหน้าที่ สลัม นั่นนะครับ รถสีเหลืองของ Butterfly Project คันนี้ มีจอดทีวีขนาดใหญ่อยู่ข้างรถครับ เอาไว้เปิดสื่อการสอนต่าง ๆ ทั้งความรู้และวัฒนธรรม โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเด็ก ๆ ที่อยู่รายล้อมสี่แยกนั้น ที่ส่วนใหญ่ทำงานรับจ้างขายของอยู่ตรงแยกนั้นเอง
เด็ก ๆ ที่พอรถติดก็พากันออกไปเดินขายของตามรถที่จอดอยู่ที่แยกนั้น พอสัญาณไฟเขียวก็พากันกรูกลับมาพักหลบแดดใต้ต้นไม้ข้างถนน ซึ่งรถสีเหลืองคันนั้นจอดอยู่ และใช้เวลาช่วงสั้น ๆ ที่เด็ก ๆ พากันมาพักหลบแดดขณะไฟเขียว เพื่อมาดูมาเรียนรู้จากสื่อบนจอ เท่าที่เวลาและโอกาสจะอำนวย
มีบางคนที่มานั่งกองอยู่ข้างรถทีละนาน ๆ ไม่รู้ว่าเพราะเหน็ดเหนื่อยจากแดด หรือสนใจสื่อบนจอจนอยากดูให้เป็นเรื่องเป็นราวสักพัก ก่อนจะลุกออกไปทำงานกันต่อไป
วูบวาบ เป็นช่วงสั้น ๆ สลับกันไปตลอดชั่วโมงทำงานอันยาวนานของเด็ก ๆ เหล่านั้น จนผมไม่แน่ใจว่าอันไหนใช้ความพยายามมากกว่ากัน ระหว่างเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาส กับบรรดาครูอาสาของ Butterfly Project ที่แม้จะเป็นช่วงเวลาและโอกาสที่สั้น ๆ แต่ก็ไม่ละความพยายามจะทำอะไรสักอย่าง ให้เกิดประโยชน์
แต่ไม่ว่ามันจะลำบากยากเย็นแค่ไหน ผมเชื่อของผมว่า มันจะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก ๆ ด้อยโอกาสเหล่านั้นครับ โดยเฉพาะรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่ไร้มารยาอะไร จากเด็ก ๆ เหล่านั้น ก็เป็นรางวัลที่ครูอาสาเหล่านั้นต้องการแล้ว ผมมั่นใจ
หนึ่งวันในสลัม และเด็กไร้บ้านตามสี่แยก ในเดลลีนั้น สะท้อนความคิดอะไรหลายอย่างในหัวผมพอสมควรทีเดียวครับ เราโชคดีแค่ไหน ที่ได้เกิดและเติบโตในที่ที่ไม่มีความแตกต่างแบบสุดขั้วขนาดนั้น แน่ล่ะที่เราอาจไม่สมบูรณ์พร้อม แต่เมื่อมองเห็นโอกาสที่ยากลำบากของเด็ก ๆ ในเดลลีแล้ว ... เราโชคดีจริง ๆ ครับ แวบนึงนั้นผมนึกถึงลูกสาว ผมอยากแชร์เรื่องนี้ให้เขาฟังจริง ๆ
เย็นวันนั้น ขณะนั่งรถกลับที่พัก รถติดอยู่บนถนนได้สักพัก มีเด็ก ๆ สองสามคน เดินเท้าเปล่าบนถนน มาขอเงินข้างรถ ผมควักเศษเหรียญจำนวนหนึ่งให้ไป ในใจนึกถึงภาพที่ได้เห็นมาทั้งวัน บอกไม่ถูกว่ากำลังคิดอะไร
รถเคลื่อนตัวไปไม่กี่เมตร ขณะที่ผมทอดสายตาคิดอะไรไปเพลิน ๆ ที่ริมถนนบนทางเท้า ผมก็มองเห็นเด็กผู้หญิงสองคน ใส่ชุดนักเรียน สะอาดสะอ้าน เดินคุยกันใบหน้ายิ้มแย้ม ผมยกมือถือขึ้นบันทึกภาพเอาไว้ รู้สึกบางอย่างในใจ
บางอย่างที่เกิดขึ้น ในนาทีเดียวกัน ใกล้ ๆ กัน แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กลางเมืองใหญ่แห่งนี้ ...
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย