Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Skillon by ARIT
•
ติดตาม
13 ม.ค. 2022 เวลา 08:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
แก้ปัญหาข้อความแปลกๆ ในเซลล์ที่พบบ่อย (Basic-Error)
กลับเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการ Work From Home กันอีกแล้ว หรือบางบริษัทอาจจะ WFH กันยาว ๆ มาตั้งแต่ระรอกแรก ซึ่งในแง่ของการทำงานนอกออฟฟิศ เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะสามารถรับมือและปรับตัวได้ดีขึ้น วันนี้ ARIT จึงนำเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการทำงานมาแชร์กันอีกสักครั้ง เพื่อที่เวลาเจอปัญหา error ยอดฮิตในโปรแกรม Excel เราจะได้แก้ไขได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต่างคนต่างทำงานกันอยู่คนละที่ ซึ่งอาจจะกวักมือเรียกเพื่อนร่วมงานคนอื่นมาช่วยไม่ได้
เมื่อเจอเครื่องหมาย หรือข้อความแปลก ๆ ในเซลล์ เช่น ######, #NULL!, … อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนั่นเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ Excel พยายามจะบอกว่ากำลัง “งง” กับข้อมูลบางอย่างในเซลล์ของเราอยู่นั่นเอง
วิธีการที่จะทำให้มันหายไปก็คือกลับไปตรวจสอบข้อมูลของเราว่ามีตรงไหนที่ใส่ข้อมูลผิด ใส่สูตรผิด หรือลืมใส่ข้อมูลไปหรือเปล่า เมื่อทำการปรับแก้แล้ว เครื่องหมายหน้าตาแปลก ๆ เหล่านี้ก็จะหายไปเอง
แล้วจะแก้ไขยังไงดี ?
ลองทำตามคำแนะนำของเราได้เลย
Error ที่ 1) “ ##### ”
สาเหตุ :
●
ข้อมูลที่อยู่ในเซลล์ มีความยาวเกินความกว้างของคอลัมน์
●
วันที่หรือเวลาเป็นค่าติดลบ
วิธีแก้ไข :
●
ปรับขนาดความกว้างของคอลัมน์ให้กว้างขึ้น
●
ตรวจสอบลำดับการคำนวณค่าเวลา
Error ที่ 2) “ #DIV/0! ”
สาเหตุ :
●
ใช้เลขศูนย์เป็นตัวหาร เช่น 24/0 หรือใช้เซลล์ว่างเป็นตัวหาร
วิธีแก้ไข :
●
ตรวจสอบไม่ให้เลข 0 เป็นตัวหาร
●
ตรวจสอบไม่ให้เซลล์ว่าง เป็นตัวหาร
Error ที่ 3) “ #VALUE! ”
สาเหตุ :
●
ใช้ตัวดำเนินการ อาร์กิวเมนต์ผิดประเภท เช่น ใช้ฟังก์ชัน =DATE(B3) ข้อมูลในเซลล์ B3 จะต้องเป็นรูปแบบวันที่เท่านั้น
วิธีแก้ไข :
●
ตรวจสอบอ้างอิงค่าตัวแปร หรือพารามิเตอร์ให้ถูกต้อง
Error ที่ 4) “ #NAME? ”
สาเหตุ :
●
ชื่อเซลล์และชื่อฟังก์ชันที่อ้างอิงนั้น ไม่มี ไม่ถูกต้อง หรือสะกดผิด
●
ลืมใส่เครื่องหมาย “ ” ในส่วนที่เป็นข้อความ
●
ลืมใส่เครื่องหมาย : ในฟังก์ชันที่อ้างอิงช่วงเซลล์
วิธีแก้ไข :
●
ตรวจสอบชื่อเซลล์และชื่อฟังก์ชันที่อ้างอิง
●
ใส่เครื่องหมาย “ ” ในส่วนที่เป็นข้อความ เช่น =IF(A1>50,“Pass”,“Fail”)
●
ใส่เครื่องหมาย : ในฟังก์ชันที่อ้างอิงช่วงเซลล์ เช่น =SUM(B2:F5)
Error ที่ 5) “ #N/A ”
สาเหตุ :
●
ใช้ตัวแปรไม่ตรงกับฟังก์ชัน เช่น ใส่หมายเลขคอลัมน์อ้างอิงช่วงเซลล์ที่ฟังก์ชันไม่สามารถตรวจพบได้
วิธีแก้ไข :
●
ตรวจสอบตัวแปร และแก้ไขให้ถูกต้อง
Error ที่ 6) “ #REF! ”
สาเหตุ :
●
มีการอ้างอิงเซลล์ที่ไม่ถูกต้อง
●
ไม่พบเซลล์ที่ต้องการอ้างถึง
วิธีแก้ไข :
●
ตรวจสอบเซลล์ที่อ้างอิงถึงให้ถูกต้อง
Error ที่ 7) “ #NUM! ”
สาเหตุ :
●
ใช้พารามิเตอร์ที่เป็นรูปแบบข้อความ ทั้งที่ควรจะเป็นรูปแบบตัวเลข
วิธีแก้ไข :
●
ตรวจสอบใช้พารามิเตอร์ที่ใช้ ต้องเป็นรูปแบบตัวเลข
Error ที่ 8) “ #NULL! ”
สาเหตุ :
●
ลืมใส่เครื่องหมาย , แต่กลับไปใช้การเว้นวรรคในฟังก์ชันที่มีการอ้างอิงเซลล์ต่อเนื่องหลายช่วง เช่น =SUM(D2:D5 E2:E5)
วิธีแก้ไข :
●
ตรวจสอบการใส่เครื่องหมาย , ในฟังก์ชันที่มีการอ้างอิงเซลล์ต่อเนื่องหลายช่วงให้ถูกต้อง เช่น =SUM(D2:D5,E2:E5)
ทีนี้ก็พอจะรู้แล้วใช่ไหมคะว่าหน้าตาแปลก ๆ แต่ละแบบบน Excel หมายความว่าอะไร และควรจัดการกับมันอย่างไร ครั้งหน้าถ้าเจอ error แบบนี้อีกก็ไม่ต้องกังวลใจไปอีกแล้ว เพราะเราสามารถแก้ไขมันได้
หรือถ้าใครอ่านแล้วยังแก้ไขไม่ได้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หลักสูตร “ไม่ต้องตกใจ Basic ERROR บน EXCEL แก้ได้” บนแพลตฟอร์ม Skillon ของเราได้นะคะ 👉
https://bit.ly/3A2jAm0
ดูหลักสูตรที่น่าสนใจอื่น ๆ :
https://skillon.arit.co.th/
excel
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย