15 ม.ค. 2022 เวลา 14:17 • การศึกษา

ความหวังและทางสว่างแห่งชีวิต

คำพยานของคุณวรรณา อุลปาทร คุณบุญถม จังพฤติธรรม
มีคนเคยกล่าวว่า...ชีวิตของคนเราเปรียบเสมือนเรือน้อยที่ลอยอยู่ในทะเลซึ่งเต็มไปด้วยคลื่นพายุที่กำลังพัดโถมอย่างหนัก ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะในชีวิตของมนุษย์ต่างก็ต้องเจอกับคลื่นแห่งปัญหามรสุมชีวิต รวมทั้งคลื่นแห่งอำนาจบาปที่ครอบงำ
และที่น่าหวาดกลัวที่สุดก็คือคลื่นแห่งความตายที่ไม่รู้ว่ามันจะมาถึงตัวเราเมื่อไหร่มีใครไหมที่จะช่วยเราในการเผชิญกับมรสุมและปัญหาต่าง ๆ ที่โถมทับเข้ามา?...มีใครไหมที่จะสามารถให้กำลังแก่เราในการต่อสู้กับอำนาจแห่งความบาป?...และมีใครไหมที่สามารถจะช่วยเราให้พ้นจากความกลัวในชีวิตหลังความตายนี้ได้?
มีสุภาพสตรีอยู่สองท่าน ที่ต้องเผชิญกับคลื่นต่าง ๆ ในชีวิตเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ซึ่งทำให้ทั้งสองต้องตกอยู่ในอำนาจมืดและต้องสิ้นหวังกับชีวิต...แต่บัดนี้ท่านทั้งสองได้พบแล้วกับผู้ที่สามารถช่วยท่านให้พบกับทางสว่างและความหวังแห่งชีวิต
คำพยานของคุณวรรณา อุลปาทร
สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ วรรณา อุลปาทร ดิฉันเกิดในครอบครัวของคนจีน ก่อนที่ดิฉันจะรู้จักพระเจ้านั้น ดิฉันชอบเล่นการพนันมาก ซึ่งเป็นการกระทำที่ดิฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าดิฉันจะทำ ตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้ว ดิฉันเชื่อแน่ว่า เราทุกคนต่างก็ได้รับคำสอนที่ดี ๆ จากคุณพ่อ คุณแม่ และคุณครู ให้เราทำในสิ่งที่ดีทั้งยังให้ตั้งเป้าหมายที่ดีในชีวิต... ถ้าเราลองไปถามเด็ก ๆ ว่า
“โตขึ้นหนูจะดื่มเหล้าสูบบุหรี่ไหม?”...
“ไม่ครับ”...
“โตขึ้นหนูจะเป็นคนชอบโกหกหลอกลวงไหม?”...
“ไม่ครับ”...
“โตขึ้นหนูอยากเล่นหวยเล่นการพนันไหม?”...
“ไม่ครับ”...
เมื่อเรายังเป็นเด็ก เราทุกคนล้วนแต่ตั้งใจที่จะเป็นคนดีของสังคม และตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ดี ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องทั้งสิ้น แต่เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราจะเห็นว่า มีการกระทำที่ไม่ดีหลายอย่างที่เราเคยตั้งใจไว้ว่าเราจะไม่ทำอย่างเด็ดขาด แต่ต่อมาเราก็ตกเป็นทาสของมันโดยไม่รู้ตัว
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้น เพราะมีการกระทำหลายอย่างที่ดิฉันรู้ว่าไม่ดี แต่ดฉิ ันก็ทำมันโดยเฉพาะเรื่องการพนัน ดิฉันติดมันมาก จนถึงขั้นเสียเงินไม่ว่า ขอให้ได้เล่นก็พอใจแล้ว...
ในช่วงนั้นเอง... มีคนหนึ่งได้มาบอกเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ให้ดิฉันฟังว่า ชีวิตของมนุษย์ทุกคนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเอง
แต่มีพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่เที่ยงแท้แต่องค์เดียวเป็นผู้สร้าง และการที่มนุษย์ต้องตกอยู่ในสภาพที่ถูกความผิดบาปผูกมัดอยู่นั้น ก็เพราะมนุษย์เราใช้ชีวิตที่ปฏิเสธทางของพระเจ้าและไม่ดำเนินชีวิตตามกฏเกณฑ์ที่พระองค์ทรงกำหนดให้
และหลังจากที่จากโลกนี้ไป เราจะต้องรับผิดชอบต่อความบาปที่เราทำทุกอย่างต่อพระเจ้า
แต่ด้วยความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อมนุษย์เราพระองค์จึงทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์คือพระเยซูคริสต์มารับสภาพเป็นมนุษย์ในโลกเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว
พระเยซูทรงยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อรับโทษความผิดบาปแทนมนุษย์...ไม่ว่าใครก็ตามที่ศึกษาเรื่องของพระเยซูคริสต์ ก็จะเห็นว่าพระองค์ไม่ใช่คนธรรมดา และการที่พระองค์โดนตรึงบนไม้กางเขนนั้นก็ไม่ใช่เพราะว่าพระองค์ทำผิดแต่เพราะพระองค์ทรงถูกใส่ร้าย จนถึงขั้นตรึงบนไม้กางเขน...
ดังนั้นหากผู้ใดที่ถ่อมใจยอมรับว่าตนเองเป็นคนบาป และทูลขอการอภัยโทษจากพระองค์ พระองค์ก็จะทรงยกโทษบาปให้แก่เขาทั้งยังจะทรงรับโทษบาปแทนเขาทั้งหมดอีกด้วย ดังนั้นเมื่อ เขาจากโลกนี้ไป เขาจึงไม่ต้องรับโทษบาปที่เขาทำอีกต่อไปแต่จะได้อยู่ในสวรรค์กับพระเจ้าผู้สร้างชีวิตเขา
ดังนั้นผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์จะไม่กลัวกับชีวิตหลังความตาย เพราะเขาทราบดีว่า เขาไม่ต้องรับโทษในนรกอีกต่อไป... แต่ในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ พระเยซูคริสต์จะทรงประทานกำลังให้แก่เขาในการต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ และเขาจะมีชีวิตที่มีชัยชนะต่ออำนาจแห่งความผิดบาปได้อย่างแท้จริง..
เมื่อดิฉันได้ยินเรื่องของพระองค์ในวันนั้น และใคร่ครวญดูชีวิตของดิฉันแล้ว ดิฉันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอำนาจแห่งความบาปได้ครอบงำชีวิตของดิฉันจริง ๆ ถึงแม้ดิฉันจะเคยพยายามหาวิธีต่าง ๆในการเอาชนะมัน แต่ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะมันได้เลย และบางครั้งดิฉันก็พยายามเก็บซ่อนความผิดบาป ซึ่งเป็นการทำให้ภายนอกดูดีขึ้น
แต่ดิฉันก็รู้ดีว่าภายในก็ยังคงเต็มไปด้วยความผิดบาปเหมือนเดิมเมื่อเป็นเช่นนี้ ดิฉันก็เลยทราบว่าดิฉันไม่มีทางที่จะหนีพ้นจากการพิพากษาโทษบาปจากพระเจ้าและดิฉันจะต้องรับการลงโทษบาปอย่างแน่นอน
วันนั้น ดิฉันจึงได้ทูลขอโทษต่อพระเจ้าและเปิดใจเชิญพระเยซูให้พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดพ้นจากโทษบาปหลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตของดิฉันอย่างมาก เพราะอำนาจแห่งการพนันที่เคยผูกมัดชีวิตอยู่บัดนี้มันไม่มีอำนาจเหนือดิฉันอีกต่อไปแล้ว ดิฉันมีกำลังในการต่อสู้กับมัน และไม่เพียงแต่ดิฉันสามารถเลิกเล่นการพนันเท่านั้น
แม้นิสัยหรือการกระทำที่ไม่ดีหลาย ๆ อย่างในชีวิต ดิฉันก็สามารถเอาชนะมันได ้ เดี๋ยวนี้ดิฉันมีกำลังที่จะทำในสิ่งที่ดิฉันสมควรทำแล้ว และดิฉันก็มีกำลังในการที่จะปฏิเสธการกระทำที่ไม่ดีหรือสิ่งที่ไม่สมควรทำเช่นกัน... แน่นอน...
ในวันนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ดิฉันยังบกพร่องอยู่ แต่พระองค์ก็ทรงปรับปรุง แก้ไขและสร้างชีวิตของดิฉันให้ดียิ่งขึ้น ...
บัดนี้ .. ชีวิตของดิฉันไม่ได้มืดมนอีกต่อไป เพราะดิฉันได้พบกับหนทางแห่งความสว่างที่แท้จริงแล้ว
คำพยานของ คุณบุญถม จังพฤติธรรม
ดิฉันเป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์ ชีวิตก่อนที่จะรู้จักกับพระเจ้านั้น ดิฉันพยายามที่จะหาความสุขทางใจ เพราะจิตใจเวลานั้นว่างเปล่า สุดท้ายดิฉันก็ใช้การเล่นไพ่ เล่นหวย การเที่ยวในบาร์มาตอบสนองความต้องการของตนเอง
ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำให้ฉันมีความสุขตอนที่ได้เสพมันเท่านั้น แต่พอผ่านไปดิฉันก็รู้สึกว่างเปล่าอีก และมีความต้องการที่อยากจะเสพมันเรื่อย ๆ เหมือนกับคนที่ติดยาเสพติด และก็ต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะหาเงินมาเพื่อที่จะได้เสพมัน บางครั้งเมื่อไม่มีเงินก็จะต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อที่จะได้เสพมัน
สุดท้ายทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายก็เริ่มทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ดิฉันจึงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลออกมาก็คือดิฉันเป็นโรคหัวใจ ซึ่งดิฉันพยายามที่จะหาวิธีต่าง ๆ ในการที่จะช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากความทุกข์และความเจ็บป่วยนี้ แต่ก็สิ้นหวัง ในเวลานั้นความคิดของฉันเต็มไปด้วยความท้อใจ และความหมดหวัง...
มีวันหนึ่งพี่สาวของสามีได้ชวนดิฉันไปในคริสตจักรและที่นั่นดิฉันได้ฟังเรื่องราวของพระเจ้าจึงได้ทราบว่า แท้จริงแล้วพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างมนุษย์ทุกคน และการที่มนุษย์เราอยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยความทุกข์นั้น ก็เพราะมนุษย์ไม่เชื่อฟังพระองค์
ดังนั้นความผิดบาป ความทุกข์ ความตายจึงได้เกิดขึ้น แต่พระเจ้าทรงเมตตามนุษย์เราจึงทรงประทานพระเยซูคริสต์มาตายบนไม้กางเขนเพื่อ รับโทษความบาปแทนทุกคนที่ถ่อมใจและหันกลับมาพึ่งพระองค์ ทุกคนที่เชื่อพระองค์อย่างแท้จริงก็จะหลุดพ้นจากความบาป และได้รับชีวิตใหม่จากองค์พระเยซูคริสต์
หลังจากที่ดิฉันได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้แล้ว ดิฉันจึงได้อธิษฐานต่อพระเจ้า ทูลขอพระองค์ทรงยกโทษความผิดบาปและการรักษาอาการป่วยของดิฉันด้วย
ในที่สุดสิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นนั่นก็คืออาการป่วยของดิฉันเริ่มทุเลาลงจนกระทั่งหายเป็นปกติ จนหมอที่รักษาดิฉันอดแปลกใจไม่ได้ แล้วก็ถามว่าดิฉันไปได้ยาดีอะไรมา?...
ดิฉันก็บอกว่าไม่ได้ใช้ยาอะไร แต่เป็นพระเยซูคริสต์ที่ได้รักษาโรคบาปทางใจและยังได้รักษาโรคทางกายให้ดิฉันด้วย
ผู้อ่านที่รัก การที่ดิฉันหายจากโรคนั่นถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตของฉัน แต่สิ่งที่มหัศจรรย์มากกว่านั้นอีกหลายเท่าก็คือ พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงจากชีวิตที่สิ้นหวังมาเป็นชีวิตที่มีหวัง พระองค์ได้ทรงยกโทษความผิดบาปที่ดิฉันได้กระทำมา...
ทรงเปลี่ยนแปลงนิสัยและการกระทำที่ไม่ดีของดิฉันแต่ก่อนถึงแม้ดิฉันจะชื่อบุญถม แต่ชีวิตกลับใช้ความบาปมาถมและบุญที่ดิฉันพยายามทำนั้น ก็ไม่สามารถที่จะช่วยให้ความผิดบาปที่ดิฉันทำมานั้นหมดไปได้เลย แต่เดี๋ยวนี้พระเยซูคริสต์ได้ทรงยกโทษความผิดบาปทั้งหมดให้กับดิฉันแล้ว ดิฉันจึงมั่นใจว่า เมื่อดิฉันจากโลกนี้ไปวันใด ดิฉันจะได้อยู่เมืองสวรรค์กับพระเจ้าอย่างแน่นอน
บัดนี้ดิฉันได้พบแล้ว กับผู้ที่สามารถทำให้ดิฉันอิ่มใจได้ และพระองค์ทรงสัญญาว่าจะอยู่กับคนเหล่านั้นที่เชื่อพระองค์ทุกคน ไม่ว่าในโลกนี้หรือหลังจากที่จากโลกนี้ไปแล้ว
หลายคนคิดว่าคนที่มาเชื่อพระเยซูคริสต์นั้นเป็นคนที่หมดหนทางในชีวิต ไม่มีทางไป มีปัญหาหรือไม่ก็คงพบกับความสิ้นหวังจึงได้มาเชื่อ
ซึ่งคำพูดนี้ก็เป็นความจริงแต่ดิฉันอยากจะบอกผู้อ่านทุกท่านให้ทราบว่า เราทุกคนไม่ต่างกัน มนุษย์เราทุกคนนั้นเปรียบเสมือนเหรียญบาทเล็ก ๆ ที่หลุดร่วงจากมือของเจ้าของ แล้วก็กลิ้งห่างออกไปจากเจ้าของเรื่อย ๆ ซึ่งเหรียญแห่งชีวิตของดิฉันก็ได้กลิ้งและได้ไปชนก้อนหินล้มลง
ทำให้ดิฉันเห็นถึงสภาพที่สิ้นหวังและความอ่อนกำลังของตนเอง ดิฉันจึงหันกลับมาหาเจ้าของชีวิตของฉัน แต่บางเหรียญยังกลิ้งต่อไป ยังไม่ได้ชนหินหรือสิ่งกีดขวางใด ๆ จึงกลิ้งไปเรื่อยๆ อย่างมีกำลัง
แต่เหรียญนั้นลืมไปอย่างหนึ่งว่า ไม่ช้าหรือเร็ว แม้มันจะไม่ได้ชนก้อนหินหรือสิ่งกีดขวางใด ๆ ก็ตาม แต่ปลายทางของเหรียญนั้นจะมีวันหนึ่งที่จะอ่อนกำลังและล้มลงอย่างแน่นอน
และเมื่อวันนั้นมาถึง เหรียญนั้นก็จะพบว่าตนเองนั้นเป็นคนที่สิ้นหวังและอ่อนกำลังเหมือนกับเหรียญที่ชนหินล้มลงก่อนหน้าเขาเช่นกัน
ผู้อ่านที่รัก... ชีวิตของท่านในวันนี้อาจจะมีความสุขอาจจะมีเงินทอง อาจจะรู้สึกว่ายังมีกำลังและไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเชื่อพระเยซูคริสต์ แต่ขอให้ท่านคิดดูเรื่องหนึ่งก็คือ
วันพรุ่งนี้ท่านอาจจะไม่มีความสุขเหมือนกับวันนี้ก็ได้ ไม่ช้าหรือเร็วท่านก็ต้องเป็นเหมือนกับดิฉันเมื่อก่อน ที่สำนึกว่าตนเองนั้นอ่อนกำลัง สิ้นหวัง และไม่มั่นใจในชีวิตหลังความตาย
ผู้อ่านที่รัก...พระเยซูคริสต์ทรงห่วงใยชีวิตของท่านกำลังเผชิญกับความทุกข์หรือ? พระเยซูคริสต์ทรงช่วยท่านได้
ท่านหมดหวังในชีวิตหรือ? พระเยซูคริสต์ทรงให้ความหวังแก่ท่านได้...
ท่านอยากจะหลุดพ้นจากความผิดบาปหรือ? พระเยซูคริสต์ทรงยกโทษความผิดบาปให้แก่ท่านได้
ขอเชิญท่านมาหาพระเยซูคริสต์ แล้วท่านจะได้พบกับทางสว่างและความหวังแห่งชีวิต
ถ้าท่านปรารถนาอยากกลับมาหาพระผู้สร้างของท่าน และอยากให้พระเยซูคริสต์ยกโทษความผิดบาป
หรือประสงค์ที่จะต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดเหมือนกับชีวิตของสุภาพสตรีสองท่านนี้ ท่านสามารถอธิษฐานต่อพระองค์ดังนี้...
“ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ข้าพระองค์ได้ทราบแล้วว่าพระองค์เป็นผู้สร้างชีวิตของข้าพระองค์ และข้าพระองค์ได้ทำความผิดบาปมากมาย เวลานี้ข้าพระองค์ขอเปิดใจต้อนรับพระเยซูคริสต์ขอพระองค์เข้ามาในใจของข้าพระองค์และอภัยโทษความผิดบาปของข้าพระองค์ด้วยเถิด ข้าพระองค์ขออธิษฐานในนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน”...
ถ้าท่านได้อธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยความจริงใจแล้วขอให้ท่านมั่นใจเถิดว่า พระองค์ทรงอภัยโทษให้ท่านแล้วอย่างสิ้นเชิง
ผู้เขียน : อาจารย์นิกร สิทธิจริยาภรณ์
สารบัญ Blockdit christianthai
ซีรีส์ หนังสือเสียงคริสเตียน
 
ซีรีส์ แบ่งปันข้อพระคัมภีร์โดย ChatGPT
ซีรีส์ ใบปลิวคริสเตียน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา