16 ม.ค. 2022 เวลา 06:20 • ธุรกิจ
ในทางจิตวิทยาจะมีวิธีการโน้มน้าวใจคนหลายรูปแบบ และหนึ่งในรูปแบบที่ใช้ได้ผลมากก็คือ
.
“Foot in the doorstep” หรือก็คือ
“เอาตีนแหย่เข้าไปข้างหนึ่งก่อน”
.
ลองคิดภาพตามดูนะครับ ว่าเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ในชีวิตประจำวันมั้ย เวลาที่เราเข้าไปในร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ เมื่อเราเลือกเดินซื้อของเรียบร้อยแล้ว
.
เดินมาชำระเงิน หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ แล้วเมื่อพนักงานบอกกับเราว่า
.
“พี่คะซื้อสินค้า xxx อีกมั้ยเพิ่มอีกแค่ xxx เอง
จากเดิมราคามันจะอยู่ที่ xxx เลยนะ”
.
เราจมีโอกาสที่จะควักเงินจ่ายเพิ่มต่อ
.
หรือ ลองคิดภาพตามว่าถ้ามีคนมาชวนเราทำบุญ
100 บาท เราอาจะปฏิเสธเขาไปเลย แต่ถ้ามีคนมาชวนเราทำบุญ 50 บาท โอกาสที่เราจะทำมีมากกว่าที่แรก
.
แต่เมื่อเราใส่เงินทำบุญไปแล้ว หากคนชวนบอกต่อว่า
ทำเพิ่มอีก 50 บาทมั้ย แล้วจะได้ของแถมเป็นสมุด ปากกา ดินสอ หรือเป็นอะไรก็ว่าไป
.
เชื่อมั้ยครับว่าคนเรามีโอกาสที่จะทำบุญต่ออีก 50 บาท เพื่อแลกเอาปากกา ดินสอ ที่เอาเข้าจริงเจ้าตัวเองก็อาจจะไม่ได้ใช้มันเลยด้วยซ้ำ
สิ่งนี้มันคือจิตวิทยาในการโน้มน้าวใจคน
ที่เรียกว่า “Foot in the doorstep”เนี้ยแหละครับ
.
เวลาที่คนเราให้อะไรไปอย่างหนึ่งแล้ว ครั้งต่อไปเขาก็มีสิทธิ์ที่จะให้ต่ออีก อย่างเช่นเรื่องกาาบริจาคเงินไปทำบุญที่ยกตัวอย่างไป
.
หากเราบอกเขาว่าช่วยทำบุญหน่อย 100 บาท
เขาอาจจะไม่ทำเลยก็ได้
.
แต่ถ้าเราบอกไป 50 บาท ก่อนในตอนแรก
เขาจะมีสิทธิ์จะทำมากกว่า เพราะเขาจะรู้สึกว่า
.
“ก็แค่ 50 บาทเอง”
.
และเมื่อเขาทำไปแล้ว เราบอกต่ออีกว่า
“ทำอีก 50 บาทจะได้ของแถมเป็นอะไรก็ว่าไป”
เขาก็มีสิทธิ์จะทำต่อเพราะเขาจะรู้สึกว่า
.
“ก็แค่อีก 50 บาทเอง”
.
แต่ผลลัพธ์ก็คือเขาทำไป 100 บาท ตามที่เราต้องการในตอนแรก แต่โอกาสที่เขาจะควักเงินทาทำบุญ 100 บาทนั้นหากเราบอกไปตรงๆ เขามีสิทธิ์จะไม่ทำเพราะ เขาอาจเห็นว่ามันเยอะ
.
แต่เมื่อเราใช้ “Foot in the doorstep” เขามีโอกาสจะทำมากกว่าเพราะเขารู้สึกว่ามันน้อย แต่ในท้ายสุดเขาก็ทำ 100 บาทเท่ากัน
.
หรือ เวลาที่เราเดินเข้าไปจีบใครสักคนไม่ว่าจะ
เดินเข้าไปจีบหนุ่ม หรือจีบสาว หากเราสามารถพูดคุยกับเขาไปประมาณหนึ่งได้แล้ว และเราบอกเขาว่า
.
“ขอ Facebook , IG , Line และ เบอร์โทรหน่อยสิ”
คุณคิดว่าเขาจะรู้สึกยังไง? แต่ถ้าเราบอกเขาว่า
.
“ขอ Contact ติดต่อหน่อยสิ เป็น Line ก็ได้”
เมื่อเขาพิมพ์ให้แล้วก็บอกต่อว่า
.
“ขอFacebook ด้วยก็ได้” เมื่อเขาพิมพ์ให้เราแล้ว
เราบอกต่อว่า “เอาเบอร์มาด้วยก็ได้นะ”
.
เห็นอะไรมั้ยเราจะได้มาหมดโดยที่เจ้าตัวเอง
ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเยอะอะไรเลย แต่เอาเข้าจริง
ได้แค่เบอร์กับไลน์มาก็โอเคแล้วนะ 😆
ดังนั้นหากคุณกำลังขายสินค้าอยู่ หรือกำลังดีลงานที่สำคัญมากๆ ลองนำวิธีการนี้ไป “ปรับ” ใช้ดู
.
ลองเสนออะไรบางอย่างไปให้เขาไปก่อนสักหนึ่งอย่าง
และเมื่อเขาตอบตกลงแล้ว เราค่อยเสนอเขาต่ออีก
.
จำไว้ว่าทุกๆครั้งที่เราสามารถทำให้คน “SayYes”
ได้หนึ่งครั้ง โอกาสที่เขาจะ “SayYes” ต่อในครั้งถัดไป ย่อมมีแน่นอน
.
เพราะฉะนั้นเคล็ดลับของการใช้จิตวิทยาตัวนี้ก็คือ
ขอน้อยๆก่อน และค่อยๆขอต่อไปเรื่อยๆ
ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับ อ่านแล้วเรียนรู้
แค่หลักการ การทำงานของจิตวิทยาตัวนี้ไป
.
ส่วนตัวอย่างที่ยกมา เมื่ออ่านตัวอย่างไปแล้วคุณอาจไม่สามารถนำสิ่งที่อยู่ในตัวอย่าง มาทำได้เลยในชีวิตจริง
.
เพราะบริบทมันต่างกัน ดังนั้นนำไปปรับประยุกต์
ให้เข้ากับของตนเองนะครับผม เรียนรู้หลักการ
และนำไปปรับใช้ต่อ 😊
#FolkThanasit
โฆษณา