รู้จัก “KCE” ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ อันดับ 8 ของโลก
ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปีที่ค่อนข้างสดใสสำหรับธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ตโฟน, คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า
บริษัท KCE ก็เป็นหนึ่งในนั้น สะท้อนให้เห็นจากมูลค่าบริษัท
ที่ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในปีเดียว ปัจจุบันมีมูลค่าราว 1 แสนล้านบาท
แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า KCE ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อะไรบ้าง
และนำไปใช้ในอุตสาหกรรมไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
KCE หรือ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)
เดิมชื่อ บริษัท ควงเจริญ อีเลคโทรนิคส์ จำกัด ก่อตั้งในปี 2525
เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2531
ปัจจุบันมี คุณบัญชา องค์โฆษิต เป็นประธานกรรมการ และ คุณพิธาน องค์โฆษิต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO
KCE เป็นบริษัทผู้ผลิต จำหน่าย และส่งออกสินค้าที่เรียกว่า Printed Circuit Board หรือ “PCB”
แล้ว PCB คืออะไร ?
PCB ก็คือ แผ่นสี่เหลี่ยมสีเขียวมีแผงวงจรสีทอง
ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ อยู่ภายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด
โดยส่วนฐาน ทำมาจากอีพ็อกซีไฟเบอร์กลาสส์
ในขณะที่ลายเส้นและจุดต่าง ๆ ทำมาจากทองแดง
ดังนั้น PCB จึงถือเป็นกระดูกสันหลัง ที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทจำเป็นต้องมี
PCB แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามความต้องการของผู้ออกแบบ เช่น
- ชนิดหน้าเดียว
- ชนิดสองหน้า และเคลือบรูเพื่อให้วงจรด้านหน้าและด้านหลังเชื่อมกันได้
- ชนิดหลายชั้น ซึ่งมีความซับซ้อน และต้องใช้เทคโนโลยีสูงในการผลิต
สำหรับผลิตภัณฑ์ของ KCE จะเป็น 2 ประเภทหลัง
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท ซึ่งแบ่งออกได้เป็น
- PCB ชนิดหลายชั้น 81%
- PCB ชนิดสองหน้าเคลือบรู 13%
- ธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจพรีเพรกและลามิเนต และธุรกิจเคมีอีก 6%
ส่วนยอดขายตามภูมิภาคเป็นดังนี้
ยุโรป 52%
สหรัฐอเมริกา 20%
เอเชีย 20%
ภายในประเทศ 8%
สำหรับผลประกอบการของ KCE ที่ผ่านมา
ปี 2561 รายได้ 14,326 ล้านบาท กำไร 2,015 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 12,289 ล้านบาท กำไร 934 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 11,742 ล้านบาท กำไร 1,127 ล้านบาท
9 เดือน ปี 2564 รายได้ 11,005 ล้านบาท กำไร 1,725 ล้านบาท
ในปี 2562 และปี 2563 KCE มีรายได้ลดลง เป็นไปตามมูลค่าตลาดรถยนต์ของโลก ที่ลดลงเช่นเดียวกัน
เนื่องจากลูกค้าหลักของ KCE อยู่ในกลุ่มยานยนต์ถึง 80%
ในขณะที่ลูกค้าที่เหลือของ KCE ก็จะเป็นโรงงานประกอบเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคม, เครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องมือการแพทย์ และสินค้าอุปโภค
แล้วธุรกิจประเภทนี้ มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไร อะไรบ้าง ?
1. ราคาทองแดง เพราะเป็นต้นทุนโดยตรงในการผลิตสินค้า
2. แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า
จากโครงสร้างรายได้ของ KCE จะเห็นได้ว่าบริษัทจะเติบโตตามขนาดของอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหลัก
นอกจากนั้น ฟังก์ชันที่มากขึ้น เช่น ระบบความปลอดภัยและเซนเซอร์ต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้การเติบโตของ PCB สูงขึ้นด้วย เช่นกัน
รู้หรือไม่ว่าปัจจุบัน หากเทียบรถยนต์ราคา 1,000,000 บาท
มูลค่าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถจะมีค่า 300,000 บาท
โดยมีการคาดการณ์ว่าสัดส่วนนี้จะเพิ่มขึ้น จนสูงถึง 500,000 บาท ในปี 2573
3. ค่าเงินบาท เนื่องจาก KCE เป็นบริษัทที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก
หากค่าเงินบาทอ่อนก็จะเป็นผลดีมากกว่า เพราะสินค้าจะราคาถูกลงในสายตาต่างประเทศ ซึ่งก็มีแนวโน้มที่ความต้องการสินค้า KCE จะสูงขึ้น ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นด้วย นั่นเอง
ถึงตรงนี้ เราก็น่าจะรู้จักกับ KCE มากขึ้นกว่าเดิม ว่าบริษัททำชิ้นส่วนอะไร ขายใคร ส่งออกไปไหนบ้าง
ซึ่งในปัจจุบัน KCE มีมูลค่าบริษัทราว 1 แสนล้านบาท และถูกจัดให้เป็นผู้ผลิต PCB สำหรับยานยนต์ อันดับ 8 ของโลก เลยทีเดียว
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้น การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
References
- 79
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
