18 ม.ค. 2022 เวลา 12:00 • กีฬา
8 ครั้งที่ รางวัลบัลลงดอร์ กับ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ FIFA เป็นนักเตะคนละคนกัน
หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา Robert Lewandowski คว้ารางวัล The Best FIFA Men’s Player 2021 เอาชนะ Lionel Messi เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2021 กับ Mohamed Salah ดาวยิงที่นำห่างดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกตอนนี้ หลังจากที่ Lewandowski ได้พลาดบัลลงดอร์ 2021 ให้ Messi ไป ทำให้ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 8 ที่รางวัลบัลลงดอร์ กับ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ FIFA เป็นนักเตะคนละคนกัน
Robert Lewandowski คว้ารางวัล The Best FIFA Men’s Player 2021
ก่อนที่จะไปย้อนชม 7 ครั้งที่ผ่านมาที่รางวัลทั้งสองอันนี้ ขออธิบายถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีที่แฟนบอลหลายๆคนต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี รางวัลแรกคือ บัลลงดอร์ จะจัดโดย France Football โดยรางวัลนี้เริ่มมอบครั้งแรกในปี 1956 จนถึงปัจจุบัน (ปี 2020 เป็นครั้งเดียวที่ไม่มีการมอบเพราะเกิดการระบาดของไวรัส COVID-19) ส่วนอีกรางวัล คือ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี FIFA ซึ่งจะจัดโดย FIFA โดยมีการมอบรางวัลนี้ในช่วงปี 1991 – 2009 รางวัลนี้ใช้ชื่อว่า FIFA World Player Of The Year แต่หลังจากนั้นในปี 2009-2015 มีการรวมรางวัลของ 2 แหล่งไว้ด้วยกันและใช้ชื่อว่า FIFA Ballon Dor ก่อนที่จะแยกกันอีกครั้งในปี 2016 และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีที่จัดโดย FIFA เปลี่ยนชื่อรางวัลมาเป็น The Best FIFA Men’s Player
ข้อแตกต่างของ 2 รางวัลนี้ คือ บัลลงดอร์จะถูกโหวตโดยตัวแทนนักข่าวของแต่ละประเทศ ส่วนนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี FIFA จะถูกโหวตโดยนักข่าว กัปตันทีมชาติและโค้ชทีมชาติเป็นหลัก
นักเตะส่วนใหญ่ที่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ก็จะได้มีรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ FIFA ติดมือไปด้วย ถ้านับรวมของปี 2021 และไม่นับรวมช่วงที่มอบเป็นรางวัล FIFA Ballon Dor เท่ากับว่ามีการให้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ FIFA ไปแล้วทั้งหมด 25 ครั้ง มีถึง 16 จาก 25 ครั้ง ที่นักเตะที่ได้ทั้งบัลลงดอร์ และ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งของปี FIFA เป็นคนเดียวกันในปีที่มอบ ( มี 1 ครั้งคือปี 2020 ที่มีการมอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี FIFA แต่ไม่มีการมอบบัลลงดอร์) แต่มีอยู่ทั้งหมด 8 ครั้ง ที่รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ FIFA กับบัลลงดอร์ เป็นนักเตะคนละคนกัน เราจะมาย้อนดู 7 ครั้งก่อนหน้า ที่ตัวแทนนักข่าวจากสื่อชั้นนำของแต่ละประเทศ กับ กัปตันทีมชาติและโค้ชทีมชาติ มีความคิดเห็นขัดแย้งกัน
1. ปี 1991
บัลลงดอร์ : Jean Pierre Papin (อันดับ 2 FIFA World Player Of The Year)
FIFA World Player Of The Year : Lothar Matthaus (อันดับ 2 บัลลงดอร์)
นักเตะทั้ง 2 คนต่างโชว์ฟอร์มได้สมรางวัลทั้งคู่ ซูเปอร์แมน Lothar Matthaus พึ่งได้บัลลงดอร์ ปี 1990 ที่ผ่านมา ก็มาได้ FIFA World Player Of The Year ในปี 1991
ผลงานส่วนตัวของกัปตันทีมอินทรีเหล็กอย่าง Lothar Matthaus คือการเป็นตัวหลักและดาวซัลโวประจำทีมของ อินเตอร์ มิลาน ทั้งๆที่ตัวเขาเองเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ Matthaus สามารถพาทัพเนรัซซูรีได้รองแชมป์ Serie A และเป็นแชมป์ UEFA Cup ในฤดูกาล 1990/91
1
ทางด้าน Papin ก็ทำผลงานได้โดดเด่นไม่แพ้กันกับการพาทีม โอลิมปิก มาร์กเซย ได้รองแชมป์และเป็นดาวซัลโวของลีกเอิงในฤดูกาล 1990/91 รวมถึงการพามาร์กเซยได้เข้าถึงรอบชิง European Cup แต่ทว่าพลาดท่าแพ้ให้กับทีมจากยูโกสลาเวียอย่าง เร้ด สตาร์ เบลเกรด และเจ้าตัวยังคว้ารางวัลดาวซัลโวในรายการนี้อีกด้วย
ผลโหวตรางวัลบัลลงดอร์ปี 1991
2. ปี 1994
บัลลงดอร์ : Hristo Stoichkov (อันดับ 2 FIFA World Player Of The Year )
FIFA World Player Of The Year : Romario (ไม่ได้มีสัญชาติในอยู่ทวีปยุโรป)
ครั้งนี้จะใช้ว่าความคิดเห็นของ 2 ฝั่งจะไม่ตรงกันก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะในตอนนั้นบัลลงดอร์ยังไม่สามารถมอบให้นักเตะสัญชาตินอกยุโรป โดยบัลลงดอร์มอบรางวัลให้นักเตะนอกยุโรปครั้งแรกในปี 1995 ทำให้ไม่สามารถโหวตให้ Romario ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ Hristo Stoichkov คว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปีนั้นไป โดย Stoichkov เป็นนักเตะบัลแกเรียคนแรกและคนเดียวที่ได้บัลลงดอร์
ผลงานในสโมสร ทั้ง 2 คน เล่นคู่กันในตำแหน่งกองหน้าให้กับบาร์เซโลน่า ฟอร์มกองหน้าคู่นี้เรียกได้ว่าเข้าขากันเป็นอย่างดี ทั้ง 2 คนพาบาร์เซโลน่าได้แชมป์ La Liga ฤดูกาล 1993/94 โดยที่ Romario ได้ครองตำแหน่งดาวซัลโวของลาลีกาในฤดูกาลนั้น และทั้ง 2 คนยังพาทีมเจ้าบุญทุ่มเข้าถึงรอบชิง UEFA Champions League ในปี 1993/94 แต่ดันไปพลาดท่าพ่ายให้กับปีศาจแดงดำแห่งอิตาลีอย่าง AC Milan แบบหมดรูปด้วยสกอร์ 4-0
แต่ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ทั้งคู่ ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี FIFA กับ รางวัลบัลลงดอร์ คือ ฟุตบอลโลก 1994
Stoichkov พาบัลแกเรียจบที่ 4 ฟุตบอลโลก (ผลงานที่ดีสุดตลอดกาลของทีมชาติบัลแกเรีย) ทำไปถึง 6 ประตู และครองตำแหน่งดาวซัลโวประจำฟุตบอลโลกในปีนั้น
ส่วนกองหน้าชาวบราซิเลี่ยนอย่าง Romario พาบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ทำให้ทัพแซมบ้าเป็นชาติแรกในโลกที่คว้าถ้วย เวิล์ด คัพ ไปครองได้ถึง 4 สมัย โดยผลงานของส่วนตัว Romario เขาทำไปถึง 5 ประตู และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟุตบอลโลกปี 1994
การรับรางวัล FIFA World Player Of The Year ปี 1994 Romario (คนกลาง) Stoichkov (คนขวาสุด)
3. ปี 1996
บัลลงดอร์ : Matthias Sammer (อันดับ 4 FIFA World Player Of The Year )
FIFA World Player Of The Year : Ronaldo R9 (อันดับ 2 บัลลงดอร์)
เป็นครั้งที่บัลลงดอร์คะแนนอันดับ 1 และ 2 สูสีกันมากที่สุด Sammer ชนะ Ronaldo R9 เพียง 1 คะแนน ก่อนที่ในปีถัดมา R9 จะสามารถคว้าบัลลงดอร์ได้ ฟอร์มทั้งคู่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมกับรางวัล
Ronaldo R9 ได้แชมป์บอลถ้วย KNVB Cup ในฤดูกาล 1995/96 กับ ทีมดังจากลีกดัชต์อย่าง พีเอสวี ไฮด์โอเฟน และพาทีมชาติบราซิลคว้าเหรียญทองแดงในศึกโอลิมปิกที่สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาเจ้าบุญทุ่มบาร์เซโลน่าด้วยค่าตัวสถิติโลก และโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น เขากลายเป็นเครื่องจักรที่ผลิตประตูได้อย่างถล่มทลายให้กับบาร์เซโลน่าจนถึงขั้นที่ท้ายฤดูกาลนั้นเจ้าตัวสามารถคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรปไปครองได้สำเร็จ
ในส่วนของผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลางจากระบบหลัง 3 ตัว (Libero) อย่าง Sammer พาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์เข้าป้ายคว้าแชมป์ Bundesligaในฤดูกาล 1995/96 และคว้ารางวัลนักเตะเยอรมันยอดเยี่ยมแห่งปี 1996
แต่ปัจจัยสำคัญในการคว้าวัลบัลลงดอร์ของ Sammer คือ การพาทีมชาติเยอรมันนีได้แชมป์ฟุตบอลยูโร 1996 และ Sammer นั้นยังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลยูโรในปีนั้นไปครองด้วย
ผลโหวตรางวัลบัลลงดอร์ปี 1996
4. ปี 2000
บัลลงดอร์ : Luis Figo (อันดับ 2 FIFA World Player Of The Year )
FIFA World Player Of The Year : Zinedine Zidane (อันดับ 2 บัลลงดอร์)
คะแนนทั้ง 2 คน ถือว่าไม่ห่างกันในทั้ง 2 รางวัล คะแนนบัลลงดอร์ (Figo 197 Zidane 181) คะแน FIFA World POTY (Figo 329 Zidane 370) หลังจาก Zidane ได้ทั้ง 2 รางวัลในปี 1998 ก็มาได้รางวัล FIFA World POTY อีกครั้ง
ผลงานส่วนตัวในสโมสรฤดูกาล 1999/2000 อาจจะเป็น Luis Figo ที่ดีกว่าอยู่เล็กน้อย Zidane ได้รองแชมป์ Seria A กับยูเวนตุส และยังทำ Top Assist ในลีกอิตาลีในฤดูกาลนั้น ส่วน Luis Figo ได้รองแชมป์ La Liga กับบาร์เซโลน่า และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ La Liga ประจำฤดูกาล 1999/2000 และยังทำ Top Assist ในลีกของฤดูกาลนั้นอีกด้วย นอกจากนั้นยังพาทีมยักษ์ใหญ่แห่งแค้วนกาตาลันเข้ารอบรอง UEFA Champions League ก่อนจะย้ายทีมด้วยค่าตัวสถิติโลกไปเรอัล มาดริด
แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่ ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี FIFA กับรางวัลบัลลงดอร์ คือ ศึกฟุตบอลยูโรปี 2000
จอมทัพของทีมชาติโปรตุเกสอย่าง Luis Figo พาทัพฝอยทองเข้าถึงรอบรองฟุตบอลยูโร 2000 และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์
ทางด้าน Zidane ก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เขาพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ยูโรปี 2000 ซึ่งเป็นสมัยที่ 2 ของทัพตราไก่ สานต่อความยิ่งใหญ่จากการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก สมัยแรก 1998 และอดีตผู้จัดการทีมเรอัล มาดริดผู้นี้ยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของศึกฟุตบอลยูโรปีนั้นอีกด้วย
การรับรางวัล FIFA World Player Of The Year ปี 2000 Figo (คนซ้าย) Zidane (คนกลาง)
5. ปี 2001
บัลลงดอร์ : Michael Owen (อันดับ 8 FIFA World Player Of The Year )
FIFA World Player Of The Year : Luis Figo (อันดับ 6 บัลลงดอร์)
เป็นปีที่นักเตะระดับ World Class หลายๆคนโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นไม่แพ้กัน ทำให้คะแนนเสียงเลยค่อนข้างแตก
Figo ที่ได้บัลลงดอร์ปีที่แล้วก็มาคว้ารางวัล FIFA World POTY ของปีนี้ไปครอง ผลงานของ Figo กับ เรอัล มาดริด เขาพาทีมได้แชมป์ La Liga และเป็นส่วนสำคัญในการพาราชันย์ชุดขาวเข้าสู่รอบรอง UEFA Champions League ในฤดูกาล 2000/01 และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมและทำ Top Assist ใน La Liga ฤดูนั้นอีกด้วย
ในส่วนผลงานของ Owen กับลิเวอร์พูล คือ เป็นดาวซัลโวประจำทีมหงส์แดงพาทีมได้ Treble Champ บอลถ้วย UEFA Cup, FA Cup และ League Cup ในฤดูกาล 2000/01 และมีแมตช์ที่กองหน้าชาวอังกฤษผู้นี้สามารถเรียกคะแนนนิยมในการโหวตบัลลงดอร์ คือ แมตช์ที่อังกฤษบุกชนะเยอรมนี 5-1 ได้ถึงมิวนิคในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่ง Owen โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นซึ่งเจ้าตัวสามารถทำ Hattrick ได้ในแมตซ์นี้
ผลโหวตรางวัลบัลลงดอร์ปี 2001
6. ปี 2003
บัลลงดอร์ : Pavel Nedved (อันดับ 4 FIFA World Player Of The Year )
FIFA World Player Of The Year : Zinedine Zidane (อันดับ 6 บัลลงดอร์)
ซิซู Zinedine Zidane สามารถคว้า FIFA World POTY ได้เป็นสมัยที่ 3 ผลงาน Zidane กับ เรอัล มาดริด เขาพาทีมได้แชมป์ La Liga และเข้ารอบรอง UEFA Champions League ในฤดูกาล 2002/03 และ ติดทีมยอดเยี่ยม La Liga ฤดูกาล 2002/03 และติดทีมยอดเยี่ยมประจำปีของ UEFA ในปี 2003 อีกด้วย
ในส่วนของปีกชาวเช็กอย่าง Nedved มีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับการพายูเวนตุสได้แชมป์ Seria A และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และทำ Top Assist Serie A ในฤดูกาล 2002/03 และยังพาทีมเข้าชิง UEFA Champions League ในปีนั้นอีกด้วย แต่กลับพ่ายแพ้จุดโทษให้กับปีศาจแดงอย่าง เอซี มิลาน (นัดชิง Nedved โดนแบน) ผลงานของปีกจอมแอสซิสต์ผู้นี้ได้รางวัลส่วนตัวเป็นการตอบแทน โดยได้รางวัล กองกลางยอดเยี่ยม UEFA ปี 2003 และติดทีมยอดเยี่ยมของ UEFA ในปี 2003 นอกจากนี้ Nedved ยังเป็นนักเตะทีมชาติสาธารณรัฐเช็กคนแรกและคนเดียวที่ได้บัลลงดอร์ (เคยมีนักเตะสัญชาติเช็ก 1 คน แต่ได้ในนามทีมชาติเชโกสโลวาเกีย)
3
ผลโหวตรางวัลบัลลงดอร์ปี 2003
7. ปี 2004
บัลลงดอร์ : Andriy Shevchenko (อันดับ 3 FIFA World Player Of The Year)
FIFA World Player Of The Year : Ronaldinho (อันดับ 3 บัลลงดอร์)
หลังจากที่ Shevchenko เคยติด Top 3 บัลลงดอร์ มาถึง 3 ปี ในที่สุดกองหน้าชาวยูเครนก็ได้บัลลงดอร์กับเขาสักที ผลงานของ เชว่า กับ เอซี มิลาน เขาพาทีมได้แชมป์ Seria A และคว้าดาวซัลโวของ Serie A ในฤดูกาล 2003/04 และติดทีมยอดเยี่ยมประจำปี 2004 ของ UEFA ซึ่งทำให้ Shevchenko เป็นนักเตะทีมชาติยูเครนคนแรกและคนเดียวที่ได้บัลลงดอร์ (เคยมีนักเตะสัญชาติยูเครน 2 คนได้ในนามทีมชาติสหภาพโซเวียต)
2
ในการเล่น La Liga ฤดูกาลแรกของ Ronaldinho กับเจ้าบุญทุ่มบาร์เซโลน่า เจ้าเหยินน้อยก็ได้รางวัล FIFA World POTY ดาวเตะแซมบ้าผู้นี้โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นครองตำแหน่งดาวซัลโวประจำทีมของบาร์เซโลน่า พาทีมจบรองแชมป์ La Liga ฤดูกาล 2003/04 และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม La Liga ในฤดูกาลนั้น นอกจากนี้เจ้าตัวยังติดทีมยอดเยี่ยมประจำปี 2004 ของ UEFA อีกด้วย
การรับรางวัล FIFA World Player Of The Year ปี 2004 Ronaldinho (คนกลาง) Shevchenko (คนขวา)
8. ปี 2021
บัลลงดอร์ : Lionel Messi (อันดับ 2 The Best FIFA Men’s Player 2021)
The Best FIFA Men’s Player : Robert Lewandowski (อันดับ 2 บัลลงดอร์ + Striker Of The Year)
Messi สามารถคว้าบัลลงดอร์เป็นสมัยที่ 7 ให้กับตนเอง ส่วน Lewandowski ก็คว้ารางวัล The Best FIFA Men’s Player ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ผลงานของทั้งคู่ถือว่าเหมาะสม ทั้ง 2 คนผลัดกันขึ้นเป็นเต็ง 1 ของรางวัลทั้ง 2 รายการ
ผลงานงานในสโมสรดูเหมือนว่า Lewandowski จะทำได้ดีกว่าอดีตกัปตันทีมของบาร์ซ่า
Lewandowski พาบาเยิร์น ได้แชมป์ Bundesliga และเป็นดาวซัลโว Bundesliga ฤดูกาล 2020/21 และ ทำลายสถิติยิงประตูมากที่สุดใน Bundesliga 1 ฤดูกาล ของ Gerd Muller โดยที่เลวี่ทำไปถึง 41 ประตูแซงหน้าดาวยิงผู้ล่วงลับที่ทำไว้ 40 ประตู รวมถึงคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรป และยังติดทีมยอดเยี่ยมของ UEFA Champions League ในฤดูกาล 2020/21 เป็นดาวซัลโวโลกฟุตบอลในปีปฏิทิน 2021
ในทางกลับกันเจ้าของรางวัลบังลังดอร์ 7 สมัย ทำผลงานในทีมชาติได้อย่างโดดเด่นเป็นอย่างมาก
ทางด้านกัปตันทีมชาติอาเจนติน่า Messi พาบาร์เซโลน่า ได้แชมป์ Copa Del Rey ฤดูกาล 2020/21 และเป็นดาวซัลโว La Liga ในฤดูกาลที่ผ่านมา ติดทีมยอดเยี่ยมของ UEFA Champions League ในฤดูกาล 2020/21
ในปี 2021 ที่มีทั้งศึกฟุตบอลยูโร และโคปา อเมริกา
แม้ว่า Lewandowski จะทำได้ถึง 3 จาก 4 ประตูที่ทีมชาติโปแลนด์ทำได้ในฟุตบอลยูโร แต่โปแลนด์ไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้
แต่ในศึก โคปา อเมริกา Messi สมหวังกับทีมชาติอาร์เจนติน่าเสียที หลังจากเจ้าตัวสวมปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพฟ้าขาวคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี หลังจากเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่างบราซิลไปด้วยสกอร์ 1-0
ในศึกโคปา อเมริกา ปี 2021 Messi ผู้เป็นกัปตันทีมชาติอาเจนติน่า คว้าทั้งรางวัลดาวซัลโว ,Top Assist และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของประจำทัวร์นาเม้นไปครอง และในปีนี้ Messi ได้ทำลายสถิติเป็นนักเตะทวีปอเมริกาใต้ที่ยิงประตูในเกมทีมชาติได้มากที่อยู่ที่ 80 ประตู แซงหน้าราชาลูกหนังอย่าง Pele ที่ทำไว้ได้ 77 ประตู (นับเฉพาะเกมที่เป็นทางการ)
ผลโหวตรางวัลบัลลงดอร์ปี 2021
อ้างอิง
สถิติส่วนตัวนักเตะจาก https://www.transfermarkt.com/
เครดิตรูปภาพ Photo Credit
Facebook Official Page FIFA Football Awards
Facebook Official Page France Football https://www.facebook.com/Francefootball.fr
Instragram Official Page France Football
โฆษณา