คำถามนี้ตอบยากค่ะ เราคงไม่สามารถเลือกการจัดสรรงบประมาณได้ โดยใช้เพียงความรู้สึกสงสารเห็นอกเห็นใจ ไปกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง หรือเพียงรู้สึกว่าด้านนี้ๆ ประเทศกำลังมีปัญหาอย่างนี้ๆ เราจึงควรเทงบลงไปที่กระทรวงนี้ๆ ยิ่งงบประมาณภาครัฐด้วยแล้ว ยิ่งต้องเข้าใจว่าการจัดสรรงบประมาณจะต้องสอดคล้องกับรายจ่ายประจำ และความต่อเนื่องของแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่อย่างนั้น สตง. หรือสำนักงบฯ จะใช้อะไรเป็นเครื่องมืออ้างอิงในการตรวจสอบการใช้งบประมาณเงินแผ่นดินของแต่ละกระทรวง
ในทำนองเดียวกัน หากเป็นภาคเอกชน การวางแผนงบประมาณจะต้องล้อไปกับรายจ่ายประจำและแผนงานประจำปี ทั้งที่เป็นแผนงาน/โครงการต่อเนื่อง และแผนงานใหม่ (Initiative) แล้วก็จะมีฝ่ายกำกับและตรวจสอบคอยติดตามการทำตามแผนงานและการใช้เม็ดเงินให้สอดคล้องกับแผนงบประมาณที่วางไว้
สมมติความเห็นส่วนตัวเราบอกว่า ไทยควรลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาให้มาก แต่ทราบหรือไม่ว่าการใช้เงินไปกับการลงทุนพัฒนานั้น ไม่สามารถเห็นผลได้ในชั่วพริบตาภายใน 1 ปี หรือ 3 ปี การค้นคว้าวิจัยนั้นใช้ทั้งเวลาและเม็ดเงินลงทุนสูงมาก ลองคิดดูว่าหากมีการผลัดเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่า รัฐบาลใหม่หาเสียงไว้อย่างไร ในวาระที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาก็ย่อมจะต้องเร่งผลักดันเอาเฉพาะเรื่องที่ตนหาเสียงไว้ โดยแทบไม่สนใจแผนพัฒนาประเทศเลยด้วยซ้ำค่ะ แล้วความต่อเนื่องในการพัฒนาจะเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
และด้วยเหตุเช่นว่า จึงเป็นที่มาว่า เหตุใดบรรดานักลงทุนจึงให้ความสำคัญและสนใจตัวแปร "ความมั่นคงหรือเสถียรภาพทางการเมืองในแต่ละประเทศ" เป็นอย่างมาก สมัยเราเรียน Economics เราเคยสร้างแบบจำลองตัวแปรเพื่อหาผลกระทบการลงทุนในตลาดหุ้น และก็ได้ประจักษ์แจ้งว่า "เสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมืองในประเทศ" เป็นตัวแปรที่มี Impact และ ค่า Sensitivity สูงมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำถามนะคะ และอาจต้องขออภัยที่หลายครั้ง ตอบไม่ค่อยตรงคำถาม เรามีจุดยืน คือตอบเพื่อให้ผู้คนได้คิดต่อค่ะ :)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
