การชำระเงินผ่าน Crypto ด้วยเหรียญ Bitcoin มีแนวโน้มที่เริ่มจะลดลง
ข้อมูลจาก BitPay แสดงให้เห็นว่าเหรียญอย่าง Stablecoins, Ether, Doge . ได้มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2564 ปริมาณธุรกรรมผ่าน Crypto ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นมากถึง 31%
ในอดีตสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency อาจถูกมองว่ามีไว้เพียงแค่สำหรับการลงทุน แต่ในต่างประเทศเองสกุลเงินดิจิทัลได้ถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนสินค้าหรือใช้แทนเงินสดมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยบริษัทที่ได้สร้างกระแสมากที่สุดก็คือ Tesla Inc. หลังจากที่ Elon Musk ได้ออกมาประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าโทเคน Doge coin สามารถใช้ซื้อสินค้าของบริษัทได้ และที่สำคัญที่สุดคือ การชำระค่ารถยนต์ TESLA
ขณะที่ในประเทศไทยเองเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเริ่มได้เห็นร้านค้าเริ่มที่จะเปิดรับชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล อย่างเงียบๆ และเมื่อปีที่แล้วเริ่มเห็นกระแสของการที่ร้านค้าหรือแบรนด์ต่างที่เปิดรับชำระเงินด้วย สกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนต์เมเจอร์ บริษัทแสนสิริ หมูกระทะ Number One หรือแม้กระทั่งการจ้างดารานักแสดง และศิลปินที่รับค่าตัวเป็น Cryptocurrency
แต่เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัล และ โทเคนนั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้บริโภคและธุรกิจหลายแห่งเริ่มที่จะหันมาใช้ดิจิทัลโทเคนสกุลอื่นนอกเหนือจาก Bitcoin สำหรับการใช้จ่ายมากขึ้น ตามข้อมูลของ BitPay Inc. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับการชำระเงินด้วยระบบ crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริษัท Start up สัญชาติอเมริกัน ตั้งอยู่ที่เมืองแอตแลนตา ในรัฐจอร์เจีย ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2011 ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นจาก seed round เพียงแค่ $510,000
ปีที่แล้ว การใช้ Bitcoin เพื่อจับจ่ายใช้สอยกับผู้ค้าที่ใช้ BitPay ลดลงเหลือประมาณ 65% ของการชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว ลดลงจาก 92% ในขณะเดียวกันในปี 2020 ทางบริษัทได้ออกมาชี้แจงว่าการซื้อของด้วยเหรียญสกุล Ether มีสัดส่วนอยู่ที่ 15% ของทั้งหมด และเหรียญ stablecoin คิดเป็น 13% ในปี 2021 Bitpay ยังได้เพิ่มเหรียญใหม่อย่างเช่น Dogecoin, Shiba Inu และ Litecoin - ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 3%
เหตุผลของการที่เหรียญ Altcoin มีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นส่วนหนึ่ง มาจากการที่ธุรกิจต่างๆ เริ่มที่จะใช้เหรียญ stablecoin ในการชำระเงินข้ามพรมแดน บวกกับการที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้เหรียญ stablecoin เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมูลค่าของเหรียญนั้นควรจะคงที่ เมื่อราคา crypto ลดลง และเป็นไปตามคาดเหรียญ crypto นั้นได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
แม้กระทั่งเหรียญอย่าง Doge coin เองมูลค่าก็ได้ลดลง แต่เนื่องจากมีเหล่าแฟนๆ หลั่งไหลเข้ามาซื้อเหรียญเพื่อเก็บไว้ใช้งานมากขึ้นในปีที่แล้ว รวมทั้งล่าสุด Elon Musk ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tesla Inc. ได้ออกมาประกาสว่าโทเคน สามารถใช้ซื้อสินค้าของบริษัทได้ทำให้เหรียญ Doge coin ยังมีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง
ด้วยราคาของ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นถึง 60% ในปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีความผันผวนในไตรมาสที่สี่ นักลงทุนจำนวนมากยังคงเลือกที่จะถือสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทนการใช้จ่าย แต่หลายคนคงยังจำกันได้ว่าการทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของ Bitcoin เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2010 ในรัฐฟลอริด้า จากการซื้อพิซซ่าเพียงแค่ 2 ชิ้น โดยโปรแกรมเมอร์ชื่อว่า Laszlo Hanyecz ซึ่ง ณ เวลานั้น Bitcoin มีมูลค่า $40 เทียบกับมูลค่าในปัจจุบันที่ $41,000 เหรียญ
สำหรับผู้ที่เลือกที่จะใช้เงินสกุลดิจิทัล หลายคนได้เลือกที่จะใช้จ่ายไปกับของฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับและนาฬิกา รถยนต์ เรือ และแม้กระทั่งทองคำ ซึ่ง Bitcoin ถูกขนานนามว่าเป็นทองคำของโลกดิจิทัล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมาแทนที่ทองคำในอนาคต ตามที่ BitPay ได้ออกมาประกาศว่าปริมาณการทำธุรกรรมของบริษัทเอกชนรวมถึงร้านค้าต่างๆ ในแอตแลนตาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น 31% จากในปีที่แล้ว 9%
บริษัท BitPay ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 ในขณะที่ตอนนั้นมีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่ยอมรับเหรียญดิจิทัล ปัจจุบันบริษัทได้ประมวลผลธุรกรรมโดยเฉลี่ยประมาณ 66,000 รายการต่อเดือน นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เมื่อเทียบปริมาณของบริษัทวีซ่า: เครือข่ายบัตรเครดิตที่ได้ดำเนินการธุรกรรมมากถึง 206 พันล้านรายการในปี 2564
BitPay และพนักงานเพียง 80 ชีวิต พร้อมด้วยปริมาณธุรกรรม 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ได้ช่วยให้บริษัทต่างๆ ตั้งแต่ Microsoft Corp. ไปจนถึง AT&T Inc. เริ่มหันมามองและยอมรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ข้อมูลการทำธุรกรรมของ BitPay ยังสามารถใช้อ้างอิงเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมได้อีกด้วย อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ การที่เหรียญบางเหรียญได้กลับตัวเป็นขาลง และการตกต่ำครั้งล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักลงทุน crypto เลยแม้แต่น้อยหากเทียบกับในฤดูหนาวของปี 2018
CEO ของ BitPay Stephen Pair มองว่านั่นอาจเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นว่าการตกต่ำในปัจจุบันอาจสั้น หรือคริปโตมีฐานผู้ใช้ที่กว้างขวางกว่ามากขึ้นจากทุกระดับชั้น
ผู้ค้าจำนวนมากขึ้นยอมรับการชำระเงินด้วยสกุลดิจิทัล ปีที่แล้ว BitPay ได้เริ่มทำงานกับ VeriFone ผู้นำเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในสหรัฐอเมริกาเพื่อรับเหรียญดิจิทัลผ่านเครื่องในร้านตามสาขาต่างๆ
ล่าสุด PayPal Holdings Inc. ก็กำลังก้าวเข้าสู่การชำระเงินด้วย Crypto ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดการชำระเงิน ซึ่งการที่ PayPal เข้ามาลงเล่นในตลาดนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับธุรกิจของ BitPay เนื่องจากว่ามันจะเป็นที่ทำให้บริษัทต่างๆ เริ่มถามคำถามกับตัวเองว่าพวกเขาควรยอมรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลหรือไม่
BitPay มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 50% ในปีที่แล้ว และยังได้ระดมทุนมากถึง 72 ล้านดอลลาร์จาก Index Ventures and Founders Fund โดยบริษัทคาดว่ายังคงจะไม่ออกสู่สาธารณะ เพื่อการระดมทุนรอบใหม่ หรือขายบริษัทในระยะเวลาอันใกล้ แต่ได้มีการพูดถึงการเสนอขายหุ้นให้กับบุคคลภายในแทน
ผู้เขียน : กุลเชษฐ์ เสงี่ยมพงษ์ Tech & Innovation Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website : https://www.bnomics.co
Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube : https://www.youtube.com/bnomics
Twitter : https://twitter.com/bnomics_co
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
