20 ม.ค. 2022 เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📌รู้จัก DW 1 เครื่องมือลงทุนในตลาดหุ้น!
นักลงทุนมือใหม่อาจเกิดความสงสัยว่า DW นี่มันคือเครื่องมือการลงทุนประเภทไหน มีความน่าสนใจอะไรบ้าง
ดังนั้น วันนี้จึงขอพาทุกคนไปทบทวน และทำความรู้จักกับ DW กันครับ
📌ปูพื้นง่ายๆ DW คืออะไร?
DW ย่อจาก Derivative Warrants เป็นเครื่องมือทางการเงินประเภทหนึ่ง ที่มีความยืดหยุ่นสูง และซื้อขายเสมือนหุ้นตัวหนึ่ง ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แบบนั้นเลยนะ
โดยส่วนใหญ่ การเข้าลงทุนใน DW มีเป้าหมายใช้ป้องกันความเสี่ยง รวมทั้งใช้เก็งกำไรระยะสั้นได้ ทั้งในช่วงตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น และขาลงนั้นเอง
ซึ่งคอนเซ็ปของ DW จะคล้ายกับ Warrant ที่จะมีราคาเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับราคาหลักทรัพย์ที่ใช้อ้างอิง หรือ ที่หลายคนเรียกว่า "หุ้นแม่" นั่นเอง
📌ประเภทของ DW สำหรับ DW มีด้วยกัน 2 ประเภทดังนี้เลย
1.Call DW ราคาจะเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกันกับหุ้นแม่ ดังนั้น Call DW จะปรับตัวสูงขึ้น ในกรณีที่ราคาหุ้นแม่ปรับตัวขึ้นนั่นเอง
2.Put DW ราคาจะเคลื่อนไหวสวนทางหุ้นแม่ ดังนั้น Put DW จะปรับตัวสูงขึ้น ต่อเมื่อราคาหุ้นแม่ปรับตัวลงนั่นเอง
ทีนี้ เมื่อเห็นประเภทของ DW กับกติกาของการเคลื่อนไหวราคาของ DW แต่ละประเภทแล้ว ทำให้หลายคนกระจ่างมากขึ้นใช่ไหม ว่าทำไม DW ถึงมักถูกเหล่านักลงทุน นิยมใช้ในการเก็งกำไร.
📌ข้อดี และข้อเสีย ของ DW
ขอเปรียบเทียบให้ทุกคนเห็นกันชัดๆมากขึ้น เพื่อช่วยให้ทุกคนวิเคราะห์ได้ว่าการลงทุนแบบนี้ เหมาะกับตัวเองไหม?
📌สำหรับข้อดีของ DW มีดังนี้
1.มีอัตราทด DW ทำให้มีอัตราทดในการลงทุน ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้น หากเราคาดการณ์ทิศทางราคาหุ้นแม่ได้อย่างถูกต้อง จะได้ผลตอบแทนสูง เช่น Call มีอัตราทด 10 เท่า ซึ่งเมื่อหุ้นแม่ขึ้น 1% Call DW จะปรับตัวขึ้นประมาณ 10% เลยทีเดียว
2.ใช้เงินลงทุนไม่มาก อัตราทดของ DW ทำให้ใช้เงินลงทุนน้อยลงได้ ซึ่งการลงทุนขั้นต่ำในกระดานอยู่ที่ 100 หน่วย ดังนั้นหาก DW ราคา 1 บาท ก็ทำให้เราใช้เงินแค่ 100 บาท ก็สามารถลงทุนได้แล้ว
3.เก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้น-ลง ด้วยการลงทุนผ่านทั้ง Call และ Put ก็จะช่วยให้เราทำกำไรได้ทั้งในช่วงราคาหุ้นขาขึ้น และขาลงนั่นเอง
4.ไม่ต้องเปิดบัญชีเพิ่ม เพราะการซื้อขาย DW เหมือนการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงไม่ต้องเปิดพอร์ตลงทุนใหม่ สามารถลงทุนจากพอร์ตหุ้นแกติของเราได้เลยนะ
📌เมื่อเห็นข้อดีแล้ว มาดูข้อเสียกันบ้าง
เผื่อจะทำให้ใครที่กำลังโดนแอดกล่อมไปด้วยข้อมูลด้านดีๆ เมื่อกี๊ ดึงสติกลับมาอยู่ในโลกความจริงบ้าง
1.ผันผวนสูง หากเราคาดการณ์ทิศทางผิด อาจทำให้การขาดทุน มีความสูญเสียระดับ 10 กะโหลกได้เลยนะ
2.มีค่าเสื่อมเวลาจากการถือครอง โดยการถือ DW ข้ามวัน จะมีค่าเสื่อมถือครอง ดังนั้น เราต้องวางแผนการลงทุนให้ชัดเจนทุกครั้ง ว่าเราจะทนถือ DW ได้นานแค่ไหน และ ทิศทางราคานั้นจะเป็นไป อย่างที่เราคาดหวังไว้หรือไม่
3.DW มีหมดอายุ โดยปกติมีอายุ 4-6 เดือนโดยหาก DW ที่มีอายุคงเหลือสั้นๆ ส่วนใหญ่จะมีระดับความเสี่ยง และผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วย แต่เราควรขาย DW คืนก่อนวันซื้อขายสุดท้าย ไม่งั้นเท่ากับว่า DW ที่เราถือครองจะไม่มีมูลค่าเลย
4.มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ดังนั้นเวลาเลือกลงทุน ทำให้เราต้องหมั่นเช็คให้ดีว่า ผู้ออก DW ที่เราเข้าไปลงทุนมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?
📌การอ่านรหัสของ DW
เมื่อทำความรู้จักกับ DW ไปมากพอแล้ว สุดท้ายที่จะขาดไม่ได้ คือ การอ่านรหัสของDW ให้เป็น เพื่อจะได้รู้ว่า DW ตัวนี้อ้างอิงอะไร ใครเป็นผู้ออก และ จะหมดอายุเมื่อไร
โดยตัวอย่าง ก็เอาแบบง่ายๆ "CPF01C2201A"
เริ่มต้นจาก CPF คือชื่อย่อหลักทรัพย์อ้างอิง
ต่อด้วย 01 คือรหัสผู้ออก DW คือ บล.บัวหลวง
ส่วน C ก็คือ DW ประเภท Call DW
ต่อด้วย 22 คือ ค.ศ. 2 หลักสุดท้าย บอกวันซื้อขายสุดท้าย
01 คือเดือนซื้อขายสุดท้าย และ A คือ รุ่นของ DW เรียงจาก A-Z นะ
สรุปคือ "CPF01C2201A" หมายถึง Call DW อ้างอิงหุ้น CPF บล.บัวหลวงออก ซื้อขายวันสุดท้ายเดือน ม.ค. ปี 65 รุ่น A นั่นเอง
📌สำหรับ เรื่อง DW ก็มีประมาณนี้ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจหลักการทำงานของ DW มากขึ้น
<<═════════════════════════════════════>>
อีไฟแนนซ์ไทย สำนักข่าวหุ้น-การเงิน-การลงทุน อันดับหนึ่งของไทย
ที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์กว่า 1 ล้านคน/เดือน
อ่านข่าวสารการลงทุนเพื่อหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆได้ตลอดวัน
อีไฟแนนซ์ไทย “มีข่าวมีโอกาส”
<<═════════════════════════════════════>>
โฆษณา