21 ม.ค. 2022 เวลา 06:21 • ประวัติศาสตร์
สวัสดีครับ ผม อาดัม ผู้ที่จะทำหน้าที่ เป็นไกด์นำพวกคุณทุกคนไปท่องในโลกแห่งเหล่าวีรชน,เทพ และปีศาจ
นี่คือเรื่องราว ที่ถูกเก็บไว้ในเบื้องลึกของความมืด และนี่คือปฐมบทของไกด์นี้
เรื่องราวที่ผมจะพาพวกคุณไปชมกันนั้นคือเรื่องราวของ
"ดูลาฮาน"
ดูลาฮาน หรือยมทูตแห่งความตายนั้น ตามตำนานของชาวไอริส ได้กล่าวไว้ว่า ดูลาฮานจะอยู่ในชุดสีดำ ไม่มีหัว ใช้มือซ้ายบังคับบังเหียนม้าเทียม โดยมีม้าไม่มีหัว คอยลากรถม้าที่ทำจากกระดูกของคนตาย ส่วนหัวนั้น ถูกมือข้างขวาหิ้วเอาไว้
หรืออีกลักษณะคือ เป็นร่างสีดำไม่มีหัวขี่ม้าสีดำตัวใหญ่
ว่ากันว่า ดูลาฮาน คือยมทูตแห่งความตาย เป็นเหมือนลางบอกเหตุแห่งความตาย มักจะปรากฏไปตามบ้านที่กำลังจะมีคนตายในไม่ช้า หรือว่าตายไปแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่การตายแบบฆาตกรรม แต่เป็นการตายด้วยอายุขัยนั่นเอง
ส่วนการเดินทางไปรับวิญญาณนั้น เค้าก็จะควบม้าไปในความมืด หัวที่อยู่บนมือก็จักส่องแสงสีเขียวเป็นดั่งตะเกียงในยามค่ำคืน ดวงตาคู่นั้นก็จะกรอกไปมาราวกับว่ากำลังมองหาบางอย่างในระแวกนั้น
ต้นกำเนิดของดูลาฮาน ปรากฏในตำนานพื้นเมืองของชาวไอริสหลายเรื่อง
แต่เรื่องที่ฮิตกันมากที่สุด มาจากตำนานของ เคลติก คือเรื่อง Sir Gavain and the Green Knight
เป็นเรื่องราวของอัศวินมรกต ที่ได้ท้าเซอร์กาเวน หนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมให้ต่อสู้กัน โดยจะมีเงื่อนไงอยู่ว่า ใครก็ตามที่ตายในครั้งนี้ จะถือว่าเป็นการตายเอง ไม่มีผู้ใดสังหาร ด้วยกฏ a year and one day ซึ่งถ้าพ่ายแพ้ ก็หมายถึงการเสียเกียรติของนักรบ
ซึ่งเซอร์กาเวนเองนั้นก็รับคำท้า และได้รับขวานมาจากอัศวินมรกต หลังจากนั้นทั้งสองจึงต่อสู้กัน ไม่นานเซอร์กาเวนจึงใช้ขวานตัดศรีษะของอัศวินมรกตลงได้ในฉับเดียว!
ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการรักษากฏที่ว่า ผู้แพ้จะต้องตายด้วยกฏของ a year and one day
อัศวินมรกตจึงก้มลงหิ้วหัวของตัวเอง และควบม้าออกไป เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตนนั้นสิ้นใจด้วยคมขวานของเซอร์กาเวน ทำเอาเซอร์กาเวนทึ่งในสัจจะในตัวของอัศวินมรกตเป็นอย่างมาก
หลังจากกษัตริย์อาเธอร์รู้เรื่องนี้ จึงเล่าเรื่องราวของเซอร์กาเวนต่อๆกันไป เพื่อประกาศยกย่องในความเก่งกาจของเซอร์กาเวน และสัจจะในตัวของอัศวินมรกต
อีกเรื่องเล่าหนึ่งของชาวเคลต์ ที่กล่าวถึงต้นกำเนิดของ ดูลาฮาน เป็นตำนานที่เก่าแก่มากๆเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ ครอบ คับห์
เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ การผสมพันธุ์ เทพผู้สร้าง เทพแห่งความตาย และอีกหลายๆชื่อที่ใช้เรียกขานเทพองค์นี้
โดยจะเป็นเทพที่ผู้คนให้การนับถือมากมายในเขต ไอร์แลนด์ โดยเฉพาะเหล่ากษัตริย์ เช่น คิงไทเคอร์มาส
ในแต่ละปี คิงไทเคอร์มาส จะทำการจัดพิธีบูชายัญเพื่อให้ ครอบ คับห์ พอใจและมอบความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนดินและบ้านเมือง การบูชายัญเหล่านี้ ดำเนินมาตลอดจนถึง คริสศตวรรษที่ 6 ชาวคริสต์เข้ามาที่ไอร์แลนด์ และยกเลิกพิธีบูชายัญเพราะเป็นสิ่งที่ผิดมนุษยธรรม ทุกคนเชื่อ และยกเลิกพิธีบูชายัญเหล่านั้นเป็นต้นมา
หลังจากนั้นเวลาก็ดำเนินไปได้แบบปกติ ทว่า ครอบ คับห์ กลับเริ่มไม่พอใจ ที่มนุษย์เหล่านี้หยุดสักสระตน ซ้ำยังทำท่าทีว่าจะหลงลืม จึงได้เนรมิตตนเองให้กลายเป็นร่างมนุษย์ไร้ศรีษะ เพื่อเตือนให้มนุษย์ตระหนักถึงความตาย และพร้อมจะลงไปเยี่ยมมนุษย์ให้ได้เห็น
ทำให้ ครอบ คับห์ ตัดสินใจ หิ้วหัวของตนพลันควบม้าลงไปหาเหล่ามนุษย์ พร้อมขนานนามของตนใหม่ว่า "ดูลาฮาน"
และมันจะมอบความตายให้กับทุกๆที่ ที่ไปเยื่อน
โดยเมื่อดูลาฮานหยุดพักม้าที่หมู่บ้านใด มันจะเข้าไปในหมู่บ้านนั้น ก่อนจะทำสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถลบได้บนใบหน้าของมนุษย์ที่ตนเลือก
และเมื่อถึงครั้งต่อไปที่ดูลาฮานมาหยุดพักม้าที่หมู่บ้านเดิม วิญญาณของมนุษย์ที่ถูกมันทำสัญลักษณ์ไว้จะต้องถูกสังเวยให้แก่มัน
ดูลาฮาน ในความเชื่อของชาวไอริส คือยมทูตแห่งความตาย หากผู้ใดที่ถูกมันทำสัญลักษณ์หรือได้พบเห็นกับมันไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม คนผู้นั้น จักต้องถึงแก่ความตาย
ดูลาฮาน มักจะกลับมาล่าดวงวิญญาณของมนุษย์ในช่วงเดือน สิงหาคม หรือวันฮาโลวีน
ซึ่งดูลาฮานจะควบม้าไปตามทาง และเมื่อมันหยุดที่บ้านใคร และสาดเลือดสดๆใส่ผู้ใด คนผู้นั้นจะมีอันเป็นไปในที่สุด
หรือบางครั้ง ดูลาฮานจะเดินเข้าไปในบ้าน และทำสัญลักษณ์บนใบหน้าของคนที่ตนเลือก ด้วยเลือดสดๆ เป็นเครื่องหมายสำหรับการมาเยือนครั้งต่อไป จะได้มาเอาชีวิตไม่ผิดคน
โดยวิธีป้องกันนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มี สิ่งที่ดูลาฮานแพ้เป็นอย่างยิ่งเลยนั้น คือทองคำบริสุทธิ์ ชาวบ้านในยุคนั้นจึงมักจะพกไว้ติดตัวเสมอ
สุดท้ายนี้ หวังว่าเราจะได้เจอกันใหม่ ในโลกใดโลกหนึ่ง
เมื่อถึงตอนนั้น ผมจะขออาสาทำหน้าที่เป็นไกด์ พาทุกท่านไปท่องในโลกเหล่านั้นอีกครั้ง
และในโลกนี้ หน้าที่ของกระผมได้สิ้นสุดลงแล้ว
ไว้เจอกันใหม่
โฆษณา