16 มิ.ย. 2022 เวลา 13:59 • ความคิดเห็น

If one day,...

ถ้าวันหนึ่ง...
วลีที่มาพร้อมเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้น
วลีที่ฟังแล้วฉุกให้ตัวเรานึกและคิดบางสิ่งที่จะส่งผลต่อตัวเรา
เหตุการณ์ที่ว่าอาจเป็นเรื่องร้าย ๆ เช่น
ถ้าวันหนึ่ง.คุณพบว่าตัวเองเป็นโรคร้ายที่ไม่สามารถรักษาได้
ถ้าวันหนึ่ง.คุณโดนคนร้ายจับเป็นตัวประกัน
ถ้าวันหนึ่ง.คุณประสบอุบัติเหตุทางกายและจิตใจ
หรือ
เหตุการณ์ที่ว่าอาจเป็นเรื่องดี ๆ เช่น
ถ้าวันหนึ่ง.คุณถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่
ถ้าวันหนึ่ง.คุณได้พบคนรักที่สามารถมีความสุขความทุกข์ร่วมกันอย่างงดงาม
ถ้าวันหนึ่ง.คุณมีเวลาใช้ชีวิต ตามที่คุณปรารถนา
ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะดีหรือร้าย
เมื่อจบประโยคนั้นส่วนใหญ่จะตามมาด้วยคำว่า
"คุณจะทำอย่างไร"
"คุณจะทำอย่างไร"
มันอาจจะดูเป็นประโยคคำถามสั้นๆ
แต่ทำให้เราต้องคิดวิเคราะห์
หาเส้นทาง หาวิธีแก้ไข หาคำตอบ และก็หาๆๆๆ
เคยสังเกตมั้ยว่า
คำถามบางประเภท มีแง่คิดซ่อนในนั้น
คำถามบางประเภท กระตุกต่อมความอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่ได้เกิดประโยชน์ใด
คำถามบางประเภท อาจสร้างความลำบากใจให้ผู้ตอบ
ทั้งนี้ในตอนจะตอบสมองเราก็จะเริ่มคิด พิจารณาว่า
ทำไงดี... จัดการแบบนี้... ทำแบบนั้น...
มันจะได้จริงหรอ... มันมีข้อดียังไง...
แล้วข้อเสียล่ะ... จะรับได้มั้ย..
ภายในระยะเวลาอันสั้น
คุณได้เลือกคำตอบที่คิดว่า
เหมาะสุด
สามารถทำได้
มั่นใจ
พิจารณาข้อดีข้อเสีย
แล้วตอบมันออกมา
คำตอบที่เราตอบออกมา เป็นไปตามแนวคิด ทัศนคติของตัวเราที่ได้สั่งสมมาจากการเรียนรู้ ประสบการณ์ชีวิต และอีกหลายๆอย่าง
คำตอบที่เราตอบออกมา มันดูเหมาะสมสำหรับตัวเราในช่วงชีวิตปัจจุบันของเรา
คำตอบของเรา อาจฟังไม่เข้าหูคนอื่น อาจดูแปลกแตกต่างจากคนอื่น
ก็จริงมันแปลกจากคนอื่น
ก็เพราะมันเป็นของเราไง มันเป็นของเราเอง
อย่าได้สนใจคำพูดเชิงลบต่อคำตอบของเรา
เราสามารถเลือกคำพูดที่เป็นประโยชน์ต่อเรา
จงเรียนรู้ที่จะสร้างและเก็บความสุขด้วยตัวเองที่มีอยู่ในวันหนึ่ง
อย่าให้ใครมานิยามความสุขของตัวเราเอง
และอย่าให้มันกลายเป็นคำถามว่า
ถ้าวันหนึ่ง.คุณไม่มีความสุขแล้ว คุณจะทำอย่างไร
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของตัวเอง
คือ ความสุขเล็กๆที่สร้างได้ในทุกๆวัน
ติดตามเรื่องราวสั้นๆ ได้ใน
Timmer☁
ขอบคุณสำหรับรอยยิ้มของทุกคนนะครับ
โฆษณา