22 ม.ค. 2022 เวลา 23:54 • การตลาด
เป็นภาพที่เห็นแล้วบีบหัวใจมากจากคลิปไวรัล ป๊ะป๋า....หนูขอโทษหนูเป็นโควิด
คลิปวีดีโอ “ใจแทบขาด เดี๋ยวหนูก็หายครับ” ใน TikTok ของผู้ใช้ที่ชื่อว่า ท้าว คำสิงห์ หรือ jiw_nattanong ที่มีการแชร์ต่อกันมาจากกว่า 13,300 ครั้ง 24,000 ความเห็น กดหัวใจมากกว่า 555,000 ดวง ความยาวม 1.14 นาที และมีการเข้าชมเกินกว่า 5 ล้านครั้งแล้ว ณ เวลา 11.29 น. ของวันที่ 22 มกราคม 2565 คาดว่าจะถึง 10 ล้านในอีกไม่กี่วันอย่างแน่นอน
เป็นภาพที่เด็กชายคนหนึ่งร้องให้เพราะตนเองติดเชื้อโควิด และก็มีน้องสาวร้องให้ตามแต่ไม่กล้าเข้าไปหาพี่ชาย เด็กชายคนนี้ร้องให้แล้วก็พูดว่า “หนูขอโทษครับหนูไม่อยากเป็นโควิดครับ ปาป๊า หนูขอโทษที่หนูเป็นโควิด” พร้อมกับที่ผู้พ่อเข้าสวมกอดทั้งน้ำตา หนูน้อยคนนี้ก็พูดต่อว่า “หนูขอโทษจริงๆครับ”
ผู้เป็นบอกก็บอกลูกไปทั้งน้ำตาว่า “หนูไม่ได้ผิดครับ หนูไม่ได้ผิดครับลูก หนูไม่ได้ผิดเลยลูก” แล้วได้หันไปถามผู้เป็นแม่ที่เป็นผู้ถ่ายคลิปนี้ไว้ ว่าตรวจแล้วยัง แล้วก็หันไปหาลูกสาวว่าหนูต้องตรวจนะ ในขณะที่เด็กหญิงก็น้ำตานองหน้าเช่นกันพร้อมกับพยักหน้า แล้วก็ปลอบลูกว่าเดี๋ยวก็หาย
ที่มา TikTik jiw_nattanong
อย่าว่าแต่ผู้เป็นพ่อที่บอกว่าใจแทบขาดเลย คนดูก็ใจแทบขาดเช่นกัน
สถานการณ์ที่มีการติดเชื้อโควิด สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ในทุกเมื่อเชื่อวัน แม้จะระวังตัวดีขนาดไหนก็ตามที แต่การระวังตัวป้องกันอย่างดี ก็เป็นการลดความเสี่ยงและลดความรุนแรงได้ เหตุการณ์ที่ทำให้หนูน้อยผู้นี้ติดเชื้อและต่อมาก็พบว่าน้องสาวก็ติดเชื้อด้วย เป็นเหตุการณ์ที่เตือนใจผู้คนได้มากถึงเรื่องเชื้อที่ไม่ได้เลือกว่าจะติดใคร แม้แต่หนูน้อยอายุไม่กี่ขวบก็ยังไม่สามารถเลี่ยงได้
1
แต่เหนือสิ่งอื่นใด อะไรก็ไม่สำคัญหากเราดูแล้วก็เพียงรู้สึกตาม สุดท้ายก็ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเป็นกระแสระยะสั้นๆ เรื่องนี้ก็จะไม่ได้ให้อะไรกับเราเลย
แต่หากมมามองให้ลึกลงไปเราจะเห็นสิ่งดีๆที่สื่อออกมาจากคลิปนี้หลายเรื่องเลย
ประการแรกก็คือ ความรู้สึกรับผิดชอบของหนูน้อย ที่เขารู้สึกผิดเพราะติดเชื้อโควิดที่หนูน้อยคนนี้รู้ว่าการติดเชื้อจะมีโอกาสแพร่ต่อให้ผู้อื่น โดยเฉพาะจะต้องเป็นภาระให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ เป็นสิ่งที่สื่ออกมาโดยอัตโนมัติ จึงเป็นสิ่งที่สื่ออกมาจากจิตใต้สำนึกโดยตรง ซึ่งการกระทำแบบที่เกิดขึ้นทันทีนี้มาจากสิ่งที่หนูน้อยคนนี้ถูกสั่งสมอยู่ภายใต้จิตใจของเขา
ประการที่ 2 คือเด็กหญิงผู้เป็นน้องแม้ว่าจะร้องให้ก็ตาม แต่ก็มีสติที่จะไม่วิ่งไปกอดพี่ชาย เพราะรู้ดีว่าจะเป็นการสัมผัสเชื้อ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่น้องเขาอยากจะทำมากที่สุดในเวลานั้น พร้อมกับพยักหน้ารับปากผู้เป็นแม่ว่าจะไปตรวจหาเชื้อโดยไม่อิดออด
ประการที่ 3 ผู้เป็นพ่อเข้าสวมกอดลูกโดยสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอด พร้อมน้ำตาของความเป็นพ่อที่ไหลออกมา และได้ปลอบลูกชายว่า “หนูไม่ผิดเดี๋ยวหนูก็หายแล้ว” ยิ่งเป็นการที่ทำให้หนูน้อยคนนี้ได้สิ่งที่เป็นที่ล้ำค่าจากผู้เป็นพ่อ นั่นก็คือความเข้าใจความเห็นอกเห็นใจและความอบอุ่นรู้สึกปลอดภัย แม้ว่าจะต้องเผชิญกับเชื้อร้ายก็ตามที
ที่มา TikTik jiw_nattanong
รวมๆแล้วเราจะเห็นทั้งความอบอุ่น ความเข้าอกเข้าใจกัน ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมของครอบครัวนี้ รวมถึงการให้กำลังใจกันและกันในยามที่แต่ละฝ่ายต้องการสิ่งนี้มาก
จากที่เคยเห็นข่าวเด็กรุ่นใหม่ที่มัวแต่ต่อว่าผู้อื่น ความชั่วร้ายเกิดขึ้นเกิดจากคนนั้นคนนี้ แม้จะเป็นเรื่องจริงแต่คนถูกด่าถูกต่อว่านอกจากจะไม่ชอบยังจะทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นด้วย เพราะการด่าต่อว่ากันไม่ได้ทำให้เกิดอะไรดีขึ้นเลยแต่ก็ยังทำกันอยู่
หลายครั้งก็เห็นเรื่องของการไม่เคารพความเห็นของคนที่เห็นต่าง โดยไม่สนใจว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ เพราะไม่ใช่ความเห็นแบบที่ตนเองชอบ ซึ่งดูแล้วก็อดเป็นห่วงอนาคตประเทศไทยมากว่า คงจะล่มสลายแน่หากคนรุ่นใหม่ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป
แต่เมื่อได้เห็นคลิปนี้แล้วต้องบอกว่าดีใจปลื้มใจมากที่ได้รู้ว่า ประเทศไทยเรามีคนดี ๆในสังคมเล็ก ๆอีกหลายแห่ง ที่เขารับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคม แล้วยังได้ปลูกฝั่งต่อให้ลูก ๆของเขา ประเทศไทยเราจะเป็นประเทศที่เจริญไปพร้อมกับรากฐานที่มั่นคงที่มีรากเง่าที่แข็งแรงจากสถาบันครอบครัว อย่างน้อยก็จากครอบครัวนี้ครอบครัวหนึ่ง แลเะชื่อว่ายังมีอีกหลายครอบครัวที่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอบลูก ๆได้แบบนี้ด้วย
ที่มา Sanook
สถาบันที่เล็กที่สุดในสังคมคือสถาบันครอบครัว แต่เป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดในสังคม
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา