23 ม.ค. 2022 เวลา 08:09 • ความคิดเห็น
สมัยผมเรียนอยู่ที่อังกฤษ มีเรื่องหนึ่งของการจราจรที่ทำให้ผมแปลกใจอยู่พอสมควร นั่นคือเมืองที่ผมอยู่ “สะพานลอยน้อยมาก”
ผมไปเรียนที่เมือง Newcastle ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเมืองศูนย์กลางของแถบนั้น ถ้าเทียบบ้านเราก็อาจจะเทียบได้กับขอนแก่นอะไรทำนองนั้น
แต่เชื่อหรือไม่ว่า เมืองใหญ่ขนาดนี้แต่กลับมีสะพานลอยน้อยมาก และส่วนใหญ่ตามแยกต่าง ๆ จะเป็น “ทางม้าลาย” แทบทั้งสิ้น
และเหตุผลที่เขาทำสะพานลอยเอาไว้ ก็เพียงเพราะว่า ทางเดินเท้าของ 2 ฝั่งถนนมันอยู่ห่างไกลกันมาก เรียกเป็นภาษาชาวบ้านง่าย ๆ ก็คือ ถ้าจะเดินข้าม มันต้องข้ามถนนหลายเลน (มากกว่า 4 เลน) เขาจึงทำสะพานลอยเอาไว้ให้ แต่ถ้าต้องเดินข้ามถนน 4 เลนตามปกติ ไม่มีสะพานลอยครับ ทางม้าลายอย่างเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งว่า ที่นั่นไม่ค่อยมีสะพานลอย
และทางม้าลายที่นั่นก็โคตรจะปลอดภัย ทุกที่ที่มีทางม้าลาย ไม่ว่าตรงนั้นจะเป็นทางแยกของถนน หรือ ไม่ใช่ทางแยกก็ตาม (ย้ำว่าทุกที่) นอกจากจะมีเสาไฟสัญญาณจราจรตามปกติแล้ว ยังมีเสาไฟให้สัญญาณสำหรับคนเดินข้ามทางม้าลายอีกต่างหาก หากสัญญาณข้ามถนนยังเป็นสีแดง คนจะไม่ข้ามเด็ดขาด เขามีวินัยกันมาก ๆ เพราะฉะนั้นตอนผมเรียนอยู่ที่นั่น ข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนนนี่น้อยมาก น้อยจริง ๆ อันนี้คือแค่เรื่องความปลอดภัยพื้นฐานที่รัฐจัดหามาให้นะ และถ้ายิ่งพิจารณาวินัยจราจรของคนใช้รถที่นั่นแล้ว มันก็ยิ่งทำให้การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องยากมากขึ้นไปอีก
ตัดกลับมาที่ประเทศไทย ตอนนี้มีข่าวครึกโครมเรื่องตำรวจขับบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” จักษุแพทย์โรงพยาบาลรามาฯ เสียชีวิตที่แถว ๆ โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ (แถว ๆ อนุสาวรีย์ชัยฯ)
ผมได้ดูคลิปแล้ว คุณหมอกระต่ายข้ามถนนพญาไทตรงทางม้าลายเลย แต่แน่นอนว่าทางม้าลายในกรุงเทพฯ บางที่มีสัญญาณข้าม บางที่ไม่มี ตรงไหนที่ไม่มี ทุกคนที่ข้ามจะรู้ดีว่า คุณก็ต้อง “ระวังตัวเอาเอง”
ในเมื่อไม่มีสัญญาณคอยบอกให้ข้ามถนน คุณก็ต้องดูรถที่จะวิ่งมาเอง ต้องตัดสินใจเองว่าจะหยุดให้รถไปก่อนหรือจะเดินข้ามไปเลย เรียกว่าต้อง “วัดใจ” กับคนขับรถนั่นแหละ ความปลอดภัยคือสิ่งที่ต้องไขว่คว้าหาเอาเองครับ
แน่นอนว่าคุณหมอเธอทำถูกต้องตามกฎจราจรทุกอย่าง ก็เดินข้ามทางม้าลายตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือผู้ใช้รถต่างหาก ถ้าเป็นที่อังกฤษ เจอคนข้ามแบบนี้ เขาต้องชะลอรถแล้วครับ ไม่ใช่ยิ่งเร่งเครื่องเพื่อให้ตัวเองขับผ่านคนข้ามถนนไปก่อนเพราะไม่อยากเสียเวลาจอดให้คนข้าม ตามปกติของคนขับรถเมื่อเจอคนกำลังข้ามทางม้าลายเขาต้องชะลอรถเพื่อให้คนข้ามไปก่อน กฎทั่วโลกเขาเป็นแบบนี้ เพียงแต่คนใช้ถนนบางคน “เห็นแก่ตัวเกินไป” และที่ประเทศไทยคนแบบนี้มีเยอะซะด้วย เราจึงได้เห็นข่าวอุบัติเหตุทางถนนกันบ่อย ๆ
เรื่องนี้ต้องฝากแยกเป็น 2 ส่วน อย่างแรก ฝาก กทม. ก่อนเลย ช่วยทำเสาสัญญาณคนข้ามถนนให้มันมีมากกว่านี้หน่อย ทุกวันนี้ทางม้าลายแบบวัดใจมีมากมายในกรุงเทพฯ จะผู้ว่าฯ ปัจจุบัน หรือ อนาคตผู้ว่าฯ จะคนไหน พรรคไหน จะแข็งแกร่ง จะไอน์สไตน์ ถ้ามีโอกาสมาดำรงตำแหน่งแล้ว ก็ช่วยใส่ใจปัญหาตรงนี้นิดนึง รู้แหละว่าท่าน ๆ ไม่ค่อยได้มาข้ามถนนวัดใจอะไรแบบนี้เหมือนประชาชนทั่วไปหรอก แต่นี่มันคือความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของประชาชนครับ ยิ่งถ้าคนโดนชนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาตินะ ผมมั่นใจว่าข่าวนี้จะดังไปทั่วโลก และเราก็จะอายไปทั่วโลกด้วย อยากให้คนมาเที่ยวประเทศเรากันเยอะ ๆ เราก็ต้องรับประกันความปลอดภัยให้เขาด้วยครับ มีอย่างที่ไหน ข้ามทางม้าลายแท้ ๆ แต่ยังโดนรถชนตายเนี่ย รู้ถึงไหน อายถึงนั่น ฝากล่ะครับ สร้างเสาสัญญาณเพิ่มให้หน่อย
ที่จะฝากอีกอย่างคือคนขับรถครับ ลดความเห็นแก่ตัวลงหน่อย รู้ว่ามันไม่มีสัญญาณไฟ แต่จอดรอให้คนเดินข้ามถนนเนี่ย มันไม่ถึงนาทีหรอก รอนิดเดียว ซึ่งจริง ๆ ผมไม่จำเป็นต้องเขียนฝากข้อนี้เลยนะ เพราะทั่วโลกเขารู้กันอยู่แล้วว่าถ้าเจอคนข้ามถนน เขาต้องชะลอเป็นปกติ แต่นี่เมืองไทย คนไร้จิตสำนึกมันเยอะ ก็เลยต้องเขียนฝากข้อนี้ ช่วยมีจิตสำนึกกันหน่อย ช่วยลดความเห็นแก่ตัวลงหน่อย ถ้าไม่อยากมีตราบาปไปทั้งชีวิตเหมือนนายตำรวจคนนี้ เสี้ยววินาทีที่คุณเห็นแก่ตัว ชีวิตคุณเปลี่ยนได้เลยนะ และนอกจากตัวคุณเอง ยังมีอีกหลายชีวิตที่เจอจุดเปลี่ยนเพราะเสี้ยววินาทีนั้นอีกต่างหาก
ก็ฝากไว้ละกันนะครับ ผมรู้เคสนี้ไม่ใช่เคสสุดท้ายหรอก เดี๋ยวก็จะมีมาอีก มาเรื่อย ๆ แหละ ถ้าเรายังไม่ทำอะไรสักอย่าง ก็อยู่กันแบบเสี่ยง ๆ แบบนี้ จะโดนรถชน จะโดนอุปกรณ์ก่อสร้างหล่นใส่ จะโดนอิฐ หิน ปูน หล่นใส่หัว จะเดินแล้วตกท่อ สะดุดสายไฟบนสะพานลอย ถ้าไม่ทำอะไร มันก็จะมีข่าวอุบัติเหตุแบบนี้มาให้เราเห็นเรื่อย ๆ วันนึงอาจจะเป็นผม อาจเป็นคนอ่าน อาจเป็นคนที่เรารัก คนที่เรารู้จัก
ดูแลตัวเอง และคนที่คุณรักกันดี ๆ นะครับ เพราะสิ่งที่ผมฝากไป อีกเมื่อไหร่จะเป็นจริงก็ไม่รู้
ป.ล. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของหมอกระต่ายด้วยนะครับ
ทั้งหมดทั้งมวลคือ “ความเห็นของผม” นะครับ
ภาพจากไทยรัฐ
โฆษณา