23 ม.ค. 2022 เวลา 15:19 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาตอนพิเศษ,
#สี่ดรุณีตอนที่3
#บารมีองคต,
สวัสดีครับ เพื่อนๆ,
คืนนี้ขออนุญาตส่งจันทร์เจ้าขาตอนพิเศษ แยกกับบทเพลง อันเนื่องจากจำนวนตัวอักษรอีกครั้งนะครับ
สุขสันต์วันหยุดนะครับทุกคน😇❤️🎹
บทที่ 1 สี่ดรุณี
ตอนที่ 3/1 บารมีองคต
ความเดิมตอนที่แล้ว:
ภายหลังที่สี่ดรุณี ก้าวข้ามประตูศรีสุดาวงศ์ เข้าสู่บริเวณถนนเขื่อนขัณฑ์นิเวศน์ ..ก็พบกับนายพุ่มที่กำลังดักรอพบคุณหนูเกษร..
นายพุ่ม คนสนิทของพระยาศรีไชยบาล (เจ้าสัวหง) ได้นำจดหมายและห่อของฝากจากท่านเจ้าสัวมอบให้กับคุณหนูเกษร..
จากนั้น ก็นำของขวัญและจดหมายแทนใจของตนยื่นมอบให้แก่คุณหนูเกษร..
ครั้นเมื่อคุณหนูเกษรได้รับสิ่งเหล่านั้นไว้แล้ว ..ก็ได้บอกให้นายพุ่มกลับไป..
แต่นายพุ่มกลับร้อนใจ ดื้อดึงไม่ยอมกลับ และยังพยายามจะฉวยข้อมือของคุณหนูเกษรไว้ หมายจะฟังความให้เข้าใจชัดเจนในครานี้..
ทันใดนั้น เจ้าคุณสันติก็ปรากฏตัวขึ้นขัดขวางการ
กระทำของนายพุ่ม..
#บริเวณถนนเขื่อนขัณฑ์นิเวศน์ระหว่างประตูศรีสุดาวงศ์มุขเขตพระราชฐานชั้นในด้านตะวันตกกับประตูช่องกุด,
“ไม่ต้องกังวลแล้วนะขอรับ
ชายหนุ่มผู้นั้นได้วิ่งหายลับตาจากไปแล้วขอรับ..
ขอเชิญคุณหนูทั้งหลายเดินชมบรรดาของขายรายทางกันต่อ เถิดนะขอรับ”
เสียงของเจ้าคุณสันติ ..
ทำให้ช้อยได้สติหลุดจากภวังค์”พาริส” ..
แล้วหันไปมองเจ้าคุณสันติ ที่กำลังค้อมศีรษะลงเล็กน้อยให้กับสี่ดรุณี..ก่อนที่จะหันหลัง และก้าวเท้าเดินจากไป..
“ท่านเจ้าคุณเจ้าคะ ท่านเจ้าคุณสันติเจ้าคะ..อย่าเพิ่งไปเจ้าค่ะ”
ช้อยรีบชักเท้าเดินตามเจ้าคุณสันติ..พลางร้องเรียกอย่างร้อนใจ..
และเมื่อเจ้าคุณสันติได้ยินเสียงเรียกของช้อย จึงหยุดเดิน และหันกลับมาเอ่ยถาม..ว่า
“ขอรับ คุณหนูช้อยมีเรื่องอันใด หรือขอรับ..”
ช้อยชะงักครู่ กับเสียงเอ่ยถามอันนุ่มนวลของเจ้าคุณสันติที่รู้จักชื่อของตน..แล้วช้อยจึงเอ่ยถามต่อ..ว่า
“ท่านเจ้าคุณ รู้จักชื่อของช้อย ด้วยหรือเจ้าคะ..”
ช้อยยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย รอฟังคำตอบจากท่านเจ้าคุณสันติ..
ในขณะที่คุณหนูแย้มจิกผ้าห่มของคุณหนูเอมน้อย และสะกิดคุณหนูพิศ ให้รอฟังคำตอบของท่านเจ้าคุณสันติ ที่จะตอบพี่ช้อยของตน
ชั่วอึดใจหนึ่ง..ในระหว่างที่รอคำตอบนั้น ความรู้สึกของช้อยช่างยาวนาน ราวกับหนึ่ง
วัสสานฤดู..
ที่ละอองฝนแห่งความรัก พัดสาดเข้ามาให้ชุ่มฉ่ำหัวใจของช้อย ในเวลานี้..
เจ้าคุณสันติ ยิ้มตอบอย่างสุภาพให้ช้อย ก่อนที่หันไปมองคุณหนูพิศชั่วแวบหนึ่ง แล้วตอบว่า..
1
“กระผม ทราบชื่อคุณหนูทุกคน และเรื่องราวจากเจ้าพนักงานโขลนเมื่อสักครู่น่ะขอรับ..
จึงรีบเดินติดตามเพื่อมาสังเกตการณ์ ความเรียบร้อยของ สี่ดรุณี และคุณหนูช้อยน่ะขอรับ..”
คำตอบของเจ้าคุณสันติ สงบ ราบเรียบ ราวกับลมหนาวแรกแห่งเหมันตฤดู..
ทำให้ช้อยถึงกับ ยืนนิ่ง คิดคำพูดในบทสนทนาต่อไปอีกครู่หนึ่ง..
ส่วนคุณหนูแย้ม เมื่อได้ฟังคำตอบนั้นแล้วจึงยิ้มอ่อนมองขึ้นบน ก่อนที่จะกระซิบคุณหนูเอมน้อยว่า..
“แหมๆๆๆ เดินติดตามเพื่อมาสังเกตการณ์ ..
แหมๆๆๆ หนูเอมน้อย เชื่อเช่นนั้น หรือไม่นะคะ?”
หนูเอมน้อยเงยหน้าขึ้นยิ้มกว้าง ตาสุกสว่างใส พลางตอบว่า..
“เชื่อสิเจ้าคะ ..
แต่คุณพี่หนูแย้มเจ้าขา..
อย่าจิกผ้าห่มหนูเอมน้อยแรงกว่านี้นะเจ้าคะ..
คือ เดี๋ยวมันใกล้จะหลุดอีก
น่ะเจ้าค่ะ ฮะฮะฮะ”
คุณหนูแย้มได้ยินคำตอบคุณหนูเอมน้อย จึงหันไปมองคุณหนูพิศ..
คุณหนูพิศยิ้ม แล้วพยักหน้าเอ่ยตอบ แกล้งคุณหนูแย้มว่า ..
“พิศก็เชื่อเจ้าค่ะ คิกคิก คิก”
คุณหนูแย้มพยักหน้าทำท่าตาลอยมองบนพร้อมกับ เบ้ปากยิ้มอ่อนให้ทั้งสองดรุณี ต้องกลั้นขำ กันอีกครั้ง..
ช้อยสูดหายใจเข้าลึก ก่อนที่จะ เอามือข้างขวาหยิกต้นขาของตนเองครั้งหนึ่ง แล้วจึงพูดโพล่ง ดังขึ้น ว่า..
“ขอท่านเจ้าคุณ ช่วยเดินติดตามให้พวกเรา ได้อุ่นใจ ต่ออีกสักหน่อย ..
จนพวกเรากลับเข้าประตูศรีสุดาวงศ์ จะได้หรือไม่เจ้าคะ..”
จากนั้นช้อย ค่อยๆก้มลง หลบสายตาท่านเจ้าคุณสันติ.. แล้วพูดเบาๆ กับตนเอง ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ..ว่า
“ช่วยเดิน..ด้วยกัน..เถิดนะ.. เจ้าคะ..”
คุณหนูเอมน้อยได้ฟังประโยคนั้นจาก ช้อย.. ก็ทำตาโต แล้วขยับปากโดยไม่มีเสียง หันหน้าไปหา คุณหนูแย้ม กระซิบว่า..
“((ขอให้ท่านเจ้าคุณ เดินเป็นเพื่อนกัน จนเย็นเลยหรือเจ้าคะ คุณพี่หนูแย้ม..))”
คุณหนูแย้ม ยังคงตกตะลึงกับคำชวนของช้อย แต่ก็พยักหน้าตอบคุณหนูเอมน้อย แล้วจึงหันไปพูดกับคุณหนูเกษร ว่า..
“พส ช ทจค ด ปพก จค”
3
ในขณะที่คุณหนูพิศ แปลความหมายคำต่อคำให้คุณหนูเกษรได้ ความว่า..
“เพื่อนสาว ชวน ท่านเจ้าคุณ เดิน เป็นเพื่อนกัน เจ้าค่ะ”
คุณหนูเกษรพยักหน้าอมยิ้ม
แล้วรอฟัง คำตอบของเจ้าคุณสันติ ที่มีต่อช้อยเช่นกัน..
..
เจ้าคุณสันติหันมองคุณหนูพิศอยู่ชั่วแว่บหนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับมาตอบช้อย ว่า..
“หากเป็นเช่นนั้นแล้ว.. กระผม และเจ้าพนักงานผู้ติดตาม..ขอเดินเฝ้าระวังเว้นระยะอยู่ด้านหลังสี่ดรุณี และคุณหนูช้อย จนถึงเวลาที่คุณหนูทั้งหลายจะกลับนะขอรับ ..”
ช้อยได้ยินคำตอบเช่นนั้นแล้ว จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองท่านเจ้าคุณสันติช้าๆ
และส่งยิ้มหวานกว้าง พร้อมกับทำหน้า ยิ้มตาหยีน่ารักสว่างใส เลียนท่าทางของคุณหนูเอมน้อย พลางพูดตอบเจ้าคุณสันติ ว่า..
“ขอบคุณนะเจ้าคะ ฮะฮะฮะ ..”
..
..
จากนั้นสี่ดรุณี ก็เดินชม และเลือกซื้อ สินค้าที่วางเรียงรายบนถนนเขื่อนขัณฑ์นิเวศน์ อย่างสนุกสนาน โดยมีเจ้าคุณสันติ และเจ้าพนักงานอีก 2 คนเดินติดตามอยู่ด้านหลังห่างๆ..
สินค้าบนสองข้างถนนมีทั้งของแห้งของสด ของกินของใช้ ผ้าผ่อนแพรพรรณ ทั้งผ้าลายมัสกาตีชนิดเนื้อเปลือกกระเทียม สำหรับตัดเย็บเป็นผ้านุ่ง ..
ผ้าดอกเล็กเนื้อเนียนนิ่มสำหรับเย็บจีบทำสไบห่ม
รวมถึงสินค้าของจีนหาบ ที่มีของเบ็ดเตล็ดตั้งแต่ไม้แคะหู กล้องเป่ายานัตถุ์ เข็มเย็บผ้า เข็มร้อยดอกไม้ หวีเสนียด หวีสับแบบญี่ปุ่น เข็มปักผม พัดขนนก พัดด้ามจิ้ว กระดุม ตะขอติดเสื้อ ด้ายและไหมสีต่างๆ
จนกระทั่งสี่ดรุณี และช้อย เดินมาถึงช่วงกลางของถนน ..ก็ได้พบกับเพิงของผู้ที่อ้างตนเป็นผู้ล่วงรู้อนาคต ทำนายทายทักอย่างแม่นยำ..ซึ่งก็นับได้ว่าวันนี้ เป็นวันพิเศษ เพราะอนุญาตให้ตั้งถึงสองเพิงด้วยกัน..
เมื่อคุณหนูแย้มเดินเข้าไปอ่านป้ายที่เขียนบนเพิงหนึ่ง ได้ ความว่า
“พ่อปู่แจ้งข่าว ชะตาดีเชิญเพิงซ้าย..
แม่มดแจ้งข่าว ชะตาร้ายเชิญเพิงขวา..”
พร้อมกับมีรูปคล้ายเด็กราว 3 ขวบปีวาดรูปยายแลบลิ้นยาว ..พร้อมกับมีหนอนพรั่งพรู ออกจากปาก อยู่บนคำว่า แม่มด*
คุณหนูแย้มจึงหันไปพูดกับอีกสามดรุณี ว่า..
“หนูแย้ม อยากเข้าไปฟังพ่อปู่ข่าวดีที่เพิงซ้าย สักหน่อยเจ้าค่ะ คุณพี่เกษร.. มีใครจะเข้าไปกับหนูแย้ม หรือ ไม่เจ้าคะ..??”
ทันใดนั้น คุณหนูเอมน้อย และช้อยก็ยกมือขึ้น ขอไปกับคุณหนูแย้ม..
ในขณะที่คุณพิศกลับอยากเข้าไปฟังข่าวร้ายที่เพิงขวา
จึงชวนคุณหนูเกษรให้เข้าไปเป็นเพื่อนด้วย ซึ่งคุณหนูเกษร ก็สนใจเข้าไปฟังด้วยเช่นกัน..
จากนั้นช้อยจึงหันไปถามเจ้าคุณสันติว่า
“ท่านเจ้าคุณ จะตามเข้ามาที่เพิงไหนหรือเจ้าคะ??”
เจ้าคุณสันติจึงส่องสำรวจอย่างถ้วนถี่ แล้วจึงตอบช้อยว่า..
“เพิงขวา เป็นแม่หมอคุณยายดูใจดี ไม่เป็นพิษเป็นภัย ให้ต้องกังวล ขอรับ
ส่วนเพิงซ้าย เป็นชายสูงวัยดูราวกับติดฝิ่น หัวเราะร่วนอยู่กับลูกศิษย์ตัวน้อยสวมหัวช้าง..
กระผมคิดแล้ว จึงต้องขอตามเข้าไปดูแลคุณหนูในเพิงซ้าย ขอรับ..”
คุณหนูแย้ม ยิ้มหรี่ตาให้ช้อย พร้อมกับกระซิบพูดเบาๆว่า..
“อย่างนี้เค้าเรียกว่า
ตอยพี่ช้าม ..
1
ตามพี่ช้อย ล่ะซี้!! คิกคิกคิก”
ช้อยได้ฟังดังนั้น ก็แก้มแดงและก้มหน้าเดินดุ่มๆ นำหน้าเข้าไปในเพิงซ้ายไป..
#ภายในเพิงพ่อปู่,
ก่อนที่ช้อย คุณหนูแย้ม คุณหนูเอมน้อย และเจ้าคุณสันติจะเดินพ้นม่านบังตาหน้าเพิงนั้น
ร่างทรงพ่อปู่ ก็ทำท่าสะบัดงวงไปมา..ก่อนที่จะหันกลับมาจ้องทั้งกลุ่ม อย่างไม่วางตา แล้วแผดเสียงดังลั่นตำหนักอีกครั้ง ว่า..
“คุ๊นหลวง สานติ๊
ขอเชิญเข้าหม๋าๆ
หม๋า..เข้าหม๋าใกล้ๆ
อยากจะท๋ามไท้ สิ่งใด๋
ก็จงรีบ เค้าหม๋า..หาพ่อปู่
เถิด แปร๊นนน!”
“หม๋านั่งบนตั่งข้างๆพ่อปู่เถิด..”
“พ่อปู่กำลังดูชะตา เจ้าเด็กแบน .. บารมีองคต อีกสักประเดี๋ยวก็จะเสร็จแล๋ว.. ฮะฮะ ฮ่าา..แล้วเร๋าจะได้คุ๋ยกันถึงนางฟ้า นางสวรรค์เมขลา เอิ๊กๆ..”
จบบทที่ 1 ตอนที่ 3/1 เพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
23/1/2021
-
โฆษณา