26 ม.ค. 2022 เวลา 03:30 • เกม
Wordle เกมทายคำที่สร้างให้แฟน แต่ดันฮิตไปทั่วโลก
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถ้าหากใครที่เล่นเฟซบุ๊กบ่อย ๆ น่าจะได้เห็นสเตตัสจากเพื่อน ๆ ที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมหลาย ๆ อันเรียงกัน 5 บล็อก โดยจะมีทั้งสีเทา สีเหลือง และสีเขียว จนอาจงุนงงว่า มันคืออะไรกันแน่ ทำไมจู่ ๆ คนถึงฮิตกัน
แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้ากล่องที่เราเห็นนี้ จริง ๆ แล้วมันคือเกมที่ถูกสร้างขึ้นมา สำหรับเล่นแค่ 2 คนเท่านั้น
แล้วทำไมเกมนี้ถึงกลายมาเป็นเกมที่ใคร ๆ ก็เล่นกันได้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เกมที่เราเห็นนี้มีชื่อว่า Wordle สามารถเล่นผ่านเว็บไซต์ www.powerlanguage.co.uk/wordle/
3
ผู้ที่สร้างเกมนี้ขึ้นมา ก็คือคุณ Josh Wardle วิศวกรซอฟต์แวร์ชาวอังกฤษ โดยเขาสร้างเกมนี้ขึ้นมาเพราะเห็นว่าแฟนของเขาชอบเล่นเกมทายคำ
ลักษณะของเกม Wordle เป็นเกมปริศนาทายคำ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นลองเดาคำที่ถูกกำหนดมาในแต่ละวัน โดยไม่มีคำใบ้ใด ๆ ให้เลย ทำให้ผู้เล่นต้องลองเดาสุ่มคำขึ้นมา แล้วระบบจะบอกว่ามีอักษรในคำนั้น ตัวใดถูกต้องบ้าง
หากตัวอักษรเป็นสีเขียว หมายความว่าตัวอักษรถูกตำแหน่งแล้ว
แต่ถ้าตัวอักษรเป็นสีเหลือง จะหมายความว่าภายในคำมีตัวอักษรนี้อยู่ แต่ยังวางไม่ถูกตำแหน่ง
หรือถ้าเป็นสีเทา จะหมายความว่าไม่มีตัวอักษรนี้อยู่ในคำนั่นเอง
ซึ่งผู้เล่นมีโอกาสเดาทั้งหมด 6 ครั้ง
แล้วอะไรที่ทำให้เกมเรียบง่าย ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนนี้ กลายเป็นที่นิยมขึ้นมา ?
อย่างที่กล่าวไปแล้ว เกมนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคน 2 คน ก่อนจะถูกส่งต่อเรื่อย ๆ เริ่มจากในกลุ่มแช็ต WhatsApp ของครอบครัว Wardle
แต่ต่อมาคุณ Josh Wardle ก็รู้สึกว่า เกมนี้อาจจะทำให้เกิดอะไรบางอย่างได้ ในเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา เขาจึงปล่อย Wordle ออกมาให้ทุกคนได้เล่น ซึ่งก็ปรากฏว่าเกมนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนแทบจะทั่วโลกเลยทีเดียว
ทำไม Wordle ถึงกลายเป็นที่นิยม ?
เรื่องนี้คุณ Josh Wardle ได้ออกความเห็นว่า เกมในปัจจุบันมักจะออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้คน ไม่ว่าจะเป็นระบบส่งคำชวนไปหาเพื่อน หรือการเล่นเกมแบบมีด่านต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
1
แต่ Wordle จะเล่นได้เพียงแค่ 1 ครั้งต่อวันเท่านั้น ซึ่งต่างจากเกม Puzzle แบบอื่น ๆ จึงอาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คนชื่นชอบ Wordle เพราะต้องอดใจรอให้ถึงวันรุ่งขึ้น ถึงจะเล่นต่อได้
นอกจากนี้ตัวเกมยังถูกออกแบบมาให้เรียบง่าย รวมถึงมีระบบช่วยให้การเดาคำ สะดวกมากขึ้น
ทำให้ทุกคนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ สามารถเล่นเกมได้ไม่ยาก แม้จะไม่ได้เล่นเกมทายคำบ่อย ๆ ก็ตาม
และเนื่องจากตัวเกมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคน 2 คนในทีแรก ทำให้ตัวเกมไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อหารายได้
จึงไม่มีโฆษณารบกวนให้รำคาญใจอีกด้วย
1
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความเป็นไปได้ ก็น่าจะเป็น “การแชร์คะแนนรูปบล็อกสี ๆ ลงในโซเชียลมีเดีย” ซึ่งที่น่าสนใจคือ จริง ๆ แล้วนี่ไม่ได้เป็นระบบที่ผู้สร้างเป็นคนเริ่มต้นทำ
แต่เป็นหนึ่งในคนที่เข้ามาเล่น Wordle ซึ่งได้ทวีตตารางจากอีโมจิ เพื่อแชร์ผลลัพธ์กับคนอื่น ๆ โดยที่ไม่เป็นการเฉลยคำตอบ จากนั้นหลายคนก็เริ่มทำตาม ๆ กัน จนตัวผู้ก่อตั้งมองว่า มันเป็นระบบที่เขาสามารถสร้างขึ้นมาได้
ซึ่งเมื่อมีระบบนับและแชร์คะแนนขึ้นมา ก็ส่งผลให้เกมเริ่มกลายเป็นที่นิยมยิ่งขึ้น จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก จากเดิมที่มีผู้เล่นประมาณ 90 คนในช่วงแรก ก็ทะยานสู่ 300,000 คนภายในเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อใครบางคนเริ่มโด่งดังในโลกออนไลน์ ก็มักจะมีผู้ไม่หวังดีมาขัดขวางอยู่บ่อย ๆ
อย่าง Wordle ก็มีบัญชีในทวิตเตอร์ชื่อ The Wordlinator ที่เมื่อมีคนทวีตคะแนนของ Wordle
บัญชีนี้ก็จะไปทวีตตอบ ซึ่งคำที่นำไปทวีตก็คือ คำตอบของ Wordle ในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากระบบของ Wordle นั้น จะเป็นการสุ่มคำที่ตัวผู้ก่อตั้งเป็นคนใส่ไว้
ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้าไปแกะโคด และเขียนระบบที่ทำนายได้ว่า คำต่อไปจะเป็นคำว่าอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะให้บอตคอยทวีตคำตอบใส่คนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์
แต่เรื่องนี้ก็จบลง หลังจากที่ทางทวิตเตอร์ได้แบนบัญชีนี้เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากเป็นการทวีตข้อความ ที่ผิดกฎของบริษัท แม้ว่าทางผู้สร้างจะไม่ได้มีความเห็นกับเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เขาทำเกมนี้ขึ้นมา ก็เพื่อแฟนของเขาเท่านั้น เรื่องนี้จึงอาจไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา
อ่านมาถึงตรงนี้ กรณีของ Wordle คงแสดงให้เห็นว่า เกมที่เรียบง่าย ไม่ได้ซับซ้อน ก็ประสบความสำเร็จได้
เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ ที่บางครั้งเราก็อาจจะไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน แต่ทำทุกอย่างให้เรียบง่ายที่สุด และสะดวกต่อลูกค้าที่สุด ก็จะเป็นหนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จได้เช่นกัน
ปิดท้ายด้วยการค้นพบเล็ก ๆ ของลงทุนเกิร์ล ถ้าหากว่าทุกท่านลองค้นหาคำว่า Wordle บน Google
โลโกของ Google ที่อยู่มุมซ้ายบนจะเปลี่ยนไปเป็นคำที่สุ่มไปมาจนเป็นคำว่า Google ค่ะ
โฆษณา