25 ม.ค. 2022 เวลา 18:23 • ท่องเที่ยว
รีวิว Road trip 4 วัน 3 คืน กรุงเทพ-พะเยา-แพร่-สุโขทัย-กำแพงเพชร- นครสวรรค์ ( Part 1 )
ปี 2021 แทบไม่ได้เดินทางเลยอยากไปพักผ่อนซักหน่อย แฟน ก็ถามว่าอยากไปพักผ่อนที่ไหนดี เราก็เสนอแผนไปว่า อยากขับรถไปเที่ยวพะเยา อยากเห็นภูลังกา ระหว่างทางก็แวะพักแบบค่ำไหนนอนนั่น พอ แฟนเปิด Google map ดูเส้นทางก็ทำหน้างงเห็นได้เลยว่าคิ้วกำลังขมวดอยู่ ในใจคงคิดว่ามึงเข้าใจอะไรผิดแล้วแหละ ต้องขับรถ 10 ชั่วโมงกว่าแถมขึ้นเขาอีกไม่น่าจะเรียกได้ว่าพักผ่อนนะ
- เริ่มต้นจาก กทม ยิงยาวดอกเดียวถึงพะเยา กดไป 12 ชั่วโมงตูดระบม เดินทางตั้งแต่ 00.04 ถึงปลายทาง 16.00
- ช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกขับสบายถนนดีไม่มีไฟแดง ยันชัยนาท
- ช่วง 4-8 ชั่วโมงเริ่มถนนดีขับง่ายผ่านหลายเมือง ตั้งแต่ พิษณุโลก สุโขทัย แพร่ จังหวะนี้เริ่มรู้สึกเจ็บตูดและปวดหลัง
- ช่วง 8-10 ชั่วโมงจากแพร่สู่พะเยา เป็นการอุ่นเครื่องเส้นทางภูเขา เร่งเครื่องไม่ได้มากผิดจังหวะได้หลุดโค้งทิ่มหน้าลงผา
- ช่วง 10-12 ชั่วโมง จาก พะเยา-ภูลังกา จุดหมายปลายทางจุดแรกจะมีป้ายเลี้ยวขวาภูลังกา ขับไปซักพักจะเจอเซเว่นอยู่ซ้ายมือ คนเมืองให้รีบแวะเพราะหลังจากนั้น ไม่มีอีกแล้วขนมจีบซาลาเปา
- ตั้งแต่ตรงนี้ไปเป็นเส้นทางภูเขาล้วน ถนนดีแต่โค้งเยอะฉิบหาย โค้งขวา ตวัดซ้าย แล้วโค้งขวา ขึ้นเขา ลงเขา วนอยู่แค่นี้ ใครเมารถง่ายก็เทคยานอนหลับไปจะได้ภาพตัด
- ด้วยความที่เปิด Google map นำทางถึงจุดนึง มันก็บอกให้เลี้ยวขวา จะเป็นทางลัดไปภูลังกา ไอ้เรามองดูนาฬิกา ถ้าไปทางธรรมดาคงใช้เวลานานแล้วติดอยู่บนเขาจนพระอาทิตย์ตกดินลำบากแน่ เลยตัดสินในไปทางลัด
- ขอให้คิดภาพตาม ถนนใหญ่คือ 8 เลน ถนนรองคือ 4 เลน ถนนชนบทคือ 3 เลน และ ทางลัดที่ว่านี้ก็คือ 2 เลน ขนาดความกว้างพอให้รถกะบะสองคันสวนทางกันแบบพอดีๆ ข้างซ้ายเป็นผา ข้างขวาเป็นเหว ขอบถนนไม่มีอะไรมากั้น โค้งทุกโค้งคือโค้งหักศอก แล้วถนนแม่งจี๊ดเดียวแต่รถคนพื้นที่แม่งขับซิ่งมากประหนึ่งขนยาบ้าหนีตำรวจ
- เอาไงได้ก็เข้ามาแล้วถอยก็ถอยไม่ได้ คือถนนแม่งเล็กซะจนมันไม่มีที่ให้กลับรถ ป้ายคำว่าทางลัดแม่งกำลังหัวเราะเยาะใส่คนเมือง จำใจขับอยู่ในทางลัดกว่าจะได้ออก ระยะทาง 5 กม เองมั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที เรียกได้ว่าลุ้นทุกเลี้ยวเยี่ยวแทบแตก
- ออกจากทางลัดมา ก็ขับไปอีกไม่นานข้ามเขาไปลูกนึง ก็ถึงแล้วภูลังกา ไปถึงก็ตะลึงอยู่ เดี๋ยวนะมาผิดที่รึเปล่า คือจินตนาการว่าขับรถมาไกลขนาดนี้มันน่าจะชนบทกว่านี้น้ำไฟไม่มี แต่ไม่ใช่เลยเจริญอยู่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ
- เข้าพักที่ บ้านกลางหมอก ณ ภูลังกา อันนี้แนะนำ เพราะตัวรีสอรท์ อยู่ใน มุมที่เห็นวิว ที่ดีที่สุดของ ภูลังกา แต่ที่พักเป็นเต็นท์นะ ไม่มีลูกเล่นอะไรมากมาย ไม่มีโดมสีขาวไม่เป็นกระโจม เป็นเต็นท์ง่อยๆที่ขายตามโลตัส ส่วนในเต็นท์ก็จะมีฟูกมีหมอนให้ อืม...อ่านไม่ผิด ขับรถ 12 ชั่วโมงมานอนเต็นท์นี่แหละ อีกอย่างคือห้องน้ำรวมด้วยนะ แต่คือราคามันถูกไง ถูกที่ว่านี่คือ 900 บาทต่อคืนนะ เออ นอนเต็นท์ห้องน้ำรวมราคานี้แหละถูกแล้วที่ภูลังกา
- แต่ถ้าใครรวยก็แนะนำนี่เลย Magic mountain สนนราคาที่คืนละ 4,700 บาท ทั้งโรงแรมมีห้องเดียวจองได้ช่วงไฮซีซั่นถือว่ามีบุญและฐานะ ส่วนถ้าใครคิดว่าตัวเองบุญน้อยแถมจนก็ แนะนำให้มาพักที่เดียวกัน บ้านกลางหมอก ณ ภูลังกา เพราะรีสอรท์มันติดกัน ติดแบบอยู่ข้างกันรั้วติดกัน เอาตรงๆ ถ้าจะพักมุมอื่น ที่พักอื่นนอกจากสองที่พักนี้ ที่ไม่เห็นวิว ไม่แนะนำเก็บแรงไปเที่ยวที่อื่นน่าจะเอนจอยกว่า
- หมูกะทะบนดอย สนนราคาที่ เซตละ 500 มีกระจิ๊ดนึง ไอ้เราก็เข้าใจของมันแพงอะอยู่บนดอยก็รับได้ ระหว่างรอหมูกะทะ ก็เดินไปสำรวจอาหารการกินบริเวณโดยรอบ ปรากฏว่าไม่มีอะไรแพงเลย อาหารตามสั่ง มาม่า น้ำเปล่า โค๊ก ราคาปกติหมดไม่มีชารต์ แต่ตัดภาพกลับมาที่หมูกะทะเซตละ 500 งง มาก แม่
- ภูลังกา ตื่นเช้ามา บอกเลยว่าโครตสวย สวย แบบสวยตะลึง และความสวยมันจะมีแค่ ประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 06.00 - 07.00 เตรียมตัวให้ดี เสื้อผ้า หน้าผมกล้องไฟ ควรพร้อมตั้งแต่เช้ามืด
- กิจกรรมแถวที่พักไม่มีอะไรให้ทำ มีแต่ดูวิว จิบกาแฟ ดูวิวทานข้าว จบ
โฆษณา