26 ม.ค. 2022 เวลา 09:54 • ไลฟ์สไตล์
#รีวิว_ทดลองกินอาหารแพลนต์เบสต์30วัน
#foodstory_กู้วิกฤติสุขภาพด้วยอาหารแพลนต์เบสต์🥬
‼️รีวิวการกิน #อาหารแพลนต์เบสต์30วัน
🥬🥒แพลนต์เบสต์คืออะไร?
สำหรับเพื่อนๆบางคนที่ยังไม่รู้ เราขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆแบบนี้นะ
“แพลนต์เบส (Plant-based) คือการกินอาหารที่มีส่วนประกอบหลักมาจากพืช ทั้งผัก ผลไม้ และธัญพืช หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมวัว หรือบางคนอาจจะกินเนื้อปลาบ้าง
🥬การทดลองครั้งนี้เราตัดเนื้อสัตว์ออกไปเลย 100% ตั้งใจทำเป็นเวลา 1 เดือนเพราะการงดเนื้อสัตว์ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเราเพราะเคยกินมังสวิรัติต่อเนื่องมา2 ปีกว่าๆเมื่อตอนเริ่มฝึกโยคะเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
👉เหตุผลที่ทำให้อยากทดลอง อาหารแพลนต์เบสต์ คือ
ต้องการปฏิวัติสุขภาพตัวเองอย่างจริงจัง เพราะมันมีช่วงหนึ่งที่เรา กินพังมากๆ เพื่อนๆอาจมองว่าเราเป็นคนมีวินัยเคร่งครัด ขยัน ทำโน่นนี่นั่นหลายสิ่ง แต่จริงๆอยากบอกว่าชีวิตจริงมันมีช่วงที่ เราก็ขี้เกียจ เบื่อ ไม่อยากจะเป๊ะปังอะไรเลยเหมือนกันนะ ก็เป็นมนุษย์คนนึงเนอะ
ช่วงกินพังคือเรากินทุกอย่าง กินตามใจปาก ไม่คำนวณแคลอรี่หรือสนใจอะไรทั้งนั้น มีออกกำลังกายบ้าง
(ก็ยังมีวินัยอยู่)3 ครั้ง|สัปดาห์ แต่ช่วงนั้นบอกเลยไม่มีแพสชั่นในการฝึกโยคะเหมือนแต่ก่อนผลลัพธ์จากการ “กินพัง”ทำให้น้ำหนักช่วงนั้นขึ้นมาถึง 41.8 ก ก ซึ่งสำหรับคนที่สูงแค่148 ซ ม อย่างเรามันอ้วนและอึดอัดมากนะเพราะปกติ
น้ำหนักเราจะอยู่ราวๆ 37-38 ก ก ที่รู้สึกว่าสุขภาพดี หุ่นผอมเพรียว พอดี และมีความมั่นใจ
💥วันที่ 17 ก ย 64 ตัดสินใจปฏิวัติสุขภาพครั้งยิ่งใหญ่
💥เริ่มต้นเลย
1.เริ่มหาความรู้เรื่อง อาหารสุขภาพ ซึ่งมันมีหลายแบบ หลายแขนงมาก ทั้ง มังสวิรัติ วีแกน แพลนต์เบส และอื่นๆอีกมากมาย สุดท้ายเลือกที่จะลอง plant-based whole food
2.หาหนังสือมาอ่าน สรุปซื้อมา 3 อ่านจบไป2 คือ eat to live และ plant-based solution อีกเล่มนึงชื่อ Chinese study ยังอ่านไม่จบเพราะหนามากๆ เดี๋ยวมารีวิวให้ฟังนะคะ
3.เริ่มต้นทานอาหารแพลนเบสต์ทันทีหลังจาก 17 ก ย 64
4.ตั้งเป้าหมายออกกำลังกาย 5วัน|สัปดาห์ และเพิ่มเวทเทรนนิ่งเข้าไปด้วย ( มีเล่นลูกกลิ้งเสริมเข้ามาอีก)
5 ทำfasting ควบคู่ไปด้วย
-intermittent fastingเรียกย่อๆว่า IF มันคือ การกินเพื่อลดน้ำหนักที่กำลังนิยมคือจำกัดเวลาในการกิน คือ กิน 8 ชั่วโมง และงดมื้ออาหาร 16 ชั่วโมง
ลาบเห็ดรสจัดจ้านแต่ไร้โซเดียม
👉ตัวอย่างการกินอาหารใน 1 วันของเราประมาณนี้
05:00 น กาแฟดำ 1 แก้ว ,น้ำเปล่า 2 แก้ว
10:00 น ดื้มน้ำขึ้นฉ่ายปั่น 1 แก้ว
11:00 น ผลไม้รวม ,กาแฟดำ1 แก้ว
14:00 น ผักหลากสีจานใหญ่ ,น้ำสลัดอโวคาโสดกับกรีกโยเกิร์ต (สูตรนี้อร่อยมากคะ)
-เมนูโปรดที่กินบ่อยๆคือ สลัดโรล,ลาบเห็ด
ช่วง14:00-17:00 น ดื่มน้ำเปล่า ,น้ำขมิ้น ,ถั่วต่างๆ1 กำมือ เป็นของว่าง
18:00 น ผลไม้รวมจานใหญ่ , น้ำขิง หรือชาสมุนไพร
หลัง 18:00 น ถึง 10:00 น งดอาหาร ดื่มได้แค่น้ำเปล่า และ กาแฟดำ
จะเริ่มทานอาหารมื้อแรกคือประมาณ 11:00 น ขึ้นไป
เราทำแบบนี้มาเรื่อยๆจนครบ 30 วัน
อาหารจานโปรด สลัดโรล ,ผักรวมและน้ำสลัดอโวคาโด
👉สรุปผลลัพธ์| ข้อดี
1.น้ำหนักลดเหลือ 38.9 ก ก จาก 41.8 ก ก
2. สิวหาย หน้าใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (เสียดายรูปbefore after มันหายไปกับโทรศัพท์เครื่องเก่า)
3. สุขภาพจิตดี ไม่มีอารมณ์ซึมเศร้าหรือหงุดหงิดก่อนมีรอบเดือน และ ไม่มีอาการปวดประจำเดือนเลย ซึ่งข้อนี้คือดีมาก ปกติเราจะมีอาการปวดทุกเดือน
4.รู้สึกว่าร่างกายคลีนสุดๆ เพราะปราศจาก แป้งขัดสี และน้ำตาล
5.การขับถ่ายดี คือ 2-3 ครั้งต่อวัน แต่ปกติเราก็ไม่ปัญหาเรื่องการขับถ่ายอยู่แล้วพอกินแพลนต์เบสต์คือถ่ายคล่องกว่าเดิมเยอะมาก ใครมีปัญหาเรื่องท้องผูกเราแนะนำให้ลองกินแพลนต์เบสต์ดูนะ
น้ำหนัก38.9 ก ก
‼️ข้อเสีย
1.ช่วงกินผักแรกๆจะมีอาการท้องบวม เพราะร่างกายต้องปรับระบบการย่อยและการเผาผลาญ
2.หิวบ่อย เพราะผักจะย่อยเร็วมากๆและเรากินแป้งน้อยสุดๆ กินข้าวกล้อง1 ทัพพีที่เหลือเน้นผักล้วนๆ
3.ถ้าวันไหนทำงานหนักๆจะมีอาการโหยน้ำตาลอยู่บ้าง (แต่เราแก้ด้วยการกินผลไม้ที่มีรสหวานแทน)
‼️หลังจากทำchallenge ครบ30 วัน จากนั้นก็มีลอง กินคีโต ,กินแบบเมดิเตอร์เรเนียนมาบ้าง ช่วงนั้นสนใจเรื่องโภชนาการเป็นพิเศษก็ค้นคว้าลองกิน ลองทำไปเรื่อย ได้ความรู้เยอะเหมือนกัน
👉สรุป
ณ ปัจจุบันเราเลือกเดินทางสายกลางคือ กินให้สมดุล ลด ข้าว ,แป้ง,น้ำตาล
คือ กินทุกอย่างแต่ควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่พอดีเพราะเราเชื่อว่า อาหารทุกอย่างดีหมดถ้าเรากินให้อยู่ในปริมาณที่พอดีอะไรที่มากเกินไป แน่นอนมันย่อมเกิดผลเสียกับร่างกาย เราอยากกิน อยู่ อย่างมีความสุข ไม่ต้องการเคร่งเครียดหรือไปจำกัดอะไรกับร่างกาย
🥬แม้ว่าการกินแบบแพลนต์เบสต์จะดีแค่ไหนแต่สำหรับเรามันอาจจะไม่ใช่วิถีชีวิตที่เราจะสามารถทำได้อย่างยั่งยืนตลอดไปแต่ถ้าช่วงไหนที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะ”ออกนอกลู่นอกทาง”จะหันกลับมาทำfasting และกินแพลนต์เบสต์อย่างน้อย 2 ครั้ง|สัปดาห์ เพื่อเป็นการดีท็อกร่างกายพยายามเตือนสติตัวเองเสมอ Eat to live ไม่ใช่ live to eat กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ
ติดตามอ่าบทความเพิ่มเติมที่Blockdit
#บทความ11|365
#นักหัดเขียนบทความ
#อาหารแพลนต์เบสต์
#foodstory
โฆษณา