26 ม.ค. 2022 เวลา 13:30 • ข่าวรอบโลก
สถิติอัตราการเกิดของจำนวนประชากรในประเทศไทยที่แสดงผลออกมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติทำให้นักวิชาการหลายท่านแสดงความกังวลผ่านบทความต่างๆมากมายถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า เนื่องจากอัตราการเกิดใหม่ของประชากรลดลงอย่างน่าใจหาย หากดูจากสถิติที่แท้จริงนั้นจะพบว่าอัตราการเกิดใหม่ของประชากรเริ่มลดลงตั้งแต่ ปี 2555-2564 นับเป็นเวลา 9 ปีที่อัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุมาจากอะไรนั้นยังไม่มีงานวิจัยออกมารองรับถึงสาเหตุนี้อย่างแน่ชัดค่ะ
ดิฉันเป็นหนึ่งคนที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมครองธรรมเป็นเวลา 9 ปีแน่นอนค่ะว่ายังไม่มีบุตร-ธิดามาเป็นโซ่ทองคล้องใจอย่างแน่นอน เราสองคนไม่มีข้อตกลงอะไรต่อกันเพียงแต่มีความคิดเห็นที่ตรงกันว่า เราจะยังคงไม่มีโซ่ทองคล้องใจ ถ้าถามถึงเหตุผลที่นักวิชาการหลาย ๆ ท่านกำลังตามหานั้น ตัวดิฉันเองก็คงจะไม่สามารถตอบได้อย่างครอบคลุมเท่าไหร่นัก
จากสถิติที่แสดงให้เห็นการลดลงอย่างเนื่องของประชากรเกิดใหม่ในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 9 ปีนั้น สอดคล้องกับพัฒนาการทางโลกดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อินเตอร์เน็ตเริ่มเข้าถึงผู้คนได้อย่างง่ายดาย การพัฒนาของโลกดิจิทัลเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองในการสื่อสารและการค้นคว้าต่าง ๆ รวมถึงการเกิดขึ้นของแอพพลิเคชั่นต่างๆที่เข้ามาตอบสนองความต้องการของประชากรได้อย่างน่าประทับใจ
ทำให้พฤติกรรมของประชากรเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่เราได้เห็นและกำลังจะก้าวเข้ามาเป็นชีวิตประจำวันในการใช้แอพพลิเคชั่นนี้ในทุกเมื่อเวลาว่างหรือในทุกครั้งที่เรารู้สึกคิดถึงใครซักคนนั่นคือ แอพพลิเคชั่น Facebook (เฟสบุ๊ค) เป็นแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อติดต่อสื่อสารและรับรู้การเคลื่อนไหวในชีวิตต่าง ๆ ของเพื่อนหรือคนรู้จักของเรา ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะช่วงอายุไหนก็ตาม ส่งผลให้ประชากรปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตไปอย่างมาก
วัฒนธรรมในการดำรงชีวิตเริ่มปรับเปลี่ยน ประชากรส่วนใหญ่จากที่เมื่อก่อนสมัยยุคของพ่อแม่หรืออาจจะตายาย ปู่ย่า จะตกลงปลงใจแต่งงานกันตั้งแต่อายุยังน้อยรวมไปถึงการแต่งงานแล้วต้องมีบุตรเป็นโซ่ทองคล้องใจในทันทีอีกด้วยส่วนจะมีกี่คนนั้นค่อยว่ากันอีกที ซึ่งถ้าลองสังเกตกันดูดี ๆ ครอบครัวหนึ่งครอบครัวส่วนใหญ่มีลูกอย่างน้อย 2 คน ในปัจจุบันการคนในยุคสมัยนี้นั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานซักเท่าไหร่นัก โดยการแต่งงานของคนยุคสมัยนี้นั้นจะแต่งงานเมื่อมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ แล้วแต่บุคคลไป ให้ความสำคัญในเรื่องของความมั่นคงในชีวิตมากกว่าการแต่งงานมีครอบครัว นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของวัฒนธรรมการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปและอาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การเกิดของประชากรลดลงอีกด้วยค่ะ
แน่นอนว่าการดำรงชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงไปก็ทำให้อะไรๆดูจะไม่คุ้นตาไปสะหมด ในปัจจุบันประชากรเริ่มเป็นโรคซึมเศร้าหรือวิตกกังวลกันมากขึ้นไม่ว่าจะด้วยเหตุและผลประการใดก็ตามที่ทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นกับตัวเอง ประชากรหลายคนหาแนวทางวิธีแก้ปัญหาด้วยการหาสัตว์มาเลี้ยงเป็นเพื่อน เช่น นก สุนัข แมว เป็นต้น แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลค่ะ
มาถึงตรงนี้แล้วท่านผู้อ่านคงจะพอเข้าใจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปว่าทำไมเด็กยุคสมัยนี้ถึงยังไม่คดิจะมีครอบครัวหรือมีลูกกันบ้างแล้วนะคะ ที่จริงยังมีอีกมากมายหลายเหตุผลที่แต่ละคนจะมีในแบบฉบับของตนเองในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เพราะชีวิตยังมีอะไรอีกมากมายให้ได้ค้นหาการมีครอบครัวจึงไม่ได้ตอบโจทย์ของคนในยุคสมัยนี้ซักเท่าไหร่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพกราฟ จาก ไทยรัฐด้วยค่ะ
โฆษณา