Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฺBunditworld
•
ติดตาม
27 ม.ค. 2022 เวลา 06:49 • สุขภาพ
เมื่อลูกท้องผูก ถ่ายไม่ออก คุณแม่ควรทำอย่างไร
อาการท้องผูกในเด็ก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยให้เกิดอาการเรื้อรังจะส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของเด็กได้ โดยธรรมชาติแล้วเด็กจะถ่ายอุจจาระบ่อยกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งในแต่ละช่วงอายุจะมีจำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระที่แตกต่างกันไป ในเด็กแรกเกิดจะมีการถ่ายอุจจาระบ่อย และค่อยๆ ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น และเมื่ออายุ 4 ปี จะถ่ายใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ คือ ประมาณวันละครั้ง1-2
การสังเกตภาวะท้องผูกในเด็กจะดูจากอาการแสดง ร่วมกับการขับถ่ายอุจจาระ อาการที่พบ ได้แก่ ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ่ายอุจจาระลำบาก ต้องเบ่งมากกว่าปกติ ลักษณะอุจจาระแข็ง และมักมีอาการปวดท้องร่วมด้วย หากปล่อยไว้โดยไม่ให้การรักษาอย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดอาการเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนได้ เนื่องจากลักษณะอุจจาระที่แข็งและถ่ายลำบากจะทำให้เด็กรู้สึกเจ็บและปวดบริเวณทวารหนัก ทำให้เด็กรู้สึกกลัวการถ่าย และชอบกลั้นอุจจาระ ทำให้เกิดภาวะอุจจาระอัดแน่น (fecal impaction) ตามมา ซึ่งจะยิ่งทำให้อาการท้องผูกแย่ลง อีกทั้งยังพบอุจจาระเล็ด (fecal soiling) เปื้อนกางเกงในได้ ซึ่งบางทีทำให้ผู้ปกครองเข้าใจผิดว่าเป็นอุจจาระร่วง
สาเหตุท้องผูกในเด็ก เกิดจากอะไร
การเกิดภาวะท้องผูกในเด็ก ส่วนใหญ่มักไม่ได้เกิดจากความผิดปกติทางโครงสร้างของทางเดินอาหาร แต่มักเกิดจากประเภทของอาหารที่รับประทาน เช่น ไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้ ดื่มน้ำน้อย หรือมาจากพฤติกรรมการขับถ่ายที่ชอบกลั้นอุจจาระ เนื่องจากมีประสบการณ์ถ่ายลำบากและรู้สึกเจ็บทวารหนัก หรือช่วงวัยเด็กอาจกลั้นอุจจาระบ่อยเพราะห่วงเล่นกับเพื่อน หรือต้องเร่งรีบไปโรงเรียนจึงไม่มีเวลาถ่ายอุจจาระ
จะรักษาได้อย่างไร เมื่อลูกมีภาวะท้องผูก
การรักษาภาวะท้องผูกในเด็ก จะเน้นการปรับพฤติกรรมการขับถ่ายร่วมกับการปรับการรับประทานอาหาร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาสม่ำเสมอทุกวัน เช่น ขับถ่ายหลังอาหารเพราะอาหารจะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้น ผู้ปกครองควรฝึกให้เด็กนั่งกระโถนหรือชักโครกอย่างถูกวิธี และไม่ควรดุหรือทำโทษเด็ก เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกไม่ดีต่อการขับถ่าย
2. ให้เด็กรับประทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ โดยปรับให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงวัย เช่น ในเด็กเล็กก็ให้นมตามปกติ ส่วนเด็กที่อายุตั้งแต่ 6 เดือนและเริ่มให้อาหารเสริมเข้าไป แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนและย่อยง่าย เช่น ข้าวผสมกับผักบดละเอียด หรือน้ำผลไม้ เช่น น้ำลูกพรุนที่ผสมกับน้ำต้มสุกให้เจือจางลง ค่อย ๆ ให้เด็กดื่มเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ
3. การรักษาภาวะท้องผูกโดยใช้ยาระบาย สามารถพิจารณาให้ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการรับประทานอาหารได้ โดยเน้นยาระบายที่มีความปลอดภัยในเด็ก ซึ่งมักจะให้เพียงไม่กี่วันเด็กก็สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ แต่ในกรณีของเด็กที่มีภาวะอุจจาระอัดแน่นหรือท้องผูกเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากอาจต้องใช้ยาระบายในขนาดสูงและระยะยาวได้
สำหรับ ยากุมาร ตราสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ เป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก เพราะช่วยแกปัญหารท้องผูกในเด็กได้ดี
✅เจริญอาหาร ✅ทานข้าวเก่งขึ้น ✅ระบบขับถ่ายดี ✅แก้ท้องผูก
✅ขับพยาธิ ✅บำรุงสมอง ✅บำรุงสายตา ✅ปรับสมดุลธาตุ
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.acare.co.th/constipation-children/
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย