28 ม.ค. 2022 เวลา 09:42 • ปรัชญา
นิพพิทาญาณ
เวลากราบพระ จิตนึกถึงภาพพระพุทธเจ้า เวลาเริ่มทำจิตเป็นสมาธิจับลมหายใจเข้าออก พอเริ่มจับก็ปรากฏโครงกระดูกคือ ศีรษะก้อนเบ้อเร่อ หลวงพ่อปานท่านสั่งไว้ตอนนั้นว่า ทีหลังเธอเห็นภาพโครงกระดูกจงใช้จิตแบบนี้ "ว่าโครงกระดูกชิ้นแรกบังคับให้ตกลงไปข้างหน้า ชิ้นสองก็บังคับให้ตกลง ๆ แล้วพิจารณาเป็น อัฏฐิกัง ปฏิกุลัง คำนี้ แปลว่า กระดูกนี้มันสกปรก ให้เห็นกระดูกนั้นเทียบกับกระดูกของเรา สกปรกกว่านั้น
กระดูกที่เราเห็นนั้นเป็นกระดูกแห้ง กระดูกในร่างกายเรามันเปื้อนเลือด เปลื้อนน้ำเหลือง น้ำหนอง ทั้งไขมันเต็มไปหมด สกปรกหรือทน กระดูกของบุคคลอื่นก็เช่นเดียวกัน เราเกลียดกระดูก เห็นตัวคนเห็นเป็นกระดูก เห็นตัวเรา นึกถึงตัวเรา นึกถึงภาพของกระดูกนั้น แล้วนึกถึงภาพโครงกระดูกในตัวเรา ว่ามันน่าเกลียดน่ากลัวสักเพียงไหน ท่านบอกว่าที่หลวงพ่อปานสอนมาก้องอยู่ในใจ พอเริ่มจับจิตเป็นสมาธิ โครงกระดูกบนศีรษะก็เริ่มลอยมา ท่านก็นึกให้ภาพหล่นลง ภาพกระดูกหล่นลง ภาพต่อมาลอยมา ๆ ก็ชนต่อ ๆ กันจนเป็นรูปคนสมบูรณ์ ต่อมาท่านก็พิจารณากระดูกตามสภาพว่ามันน่าเกลียดไม่น่ารัก เป็นของไม่สะอาด เป็นของสกปรก อัฏฐิกัง ปฏิกุลัง ตอนนี้ไม่ใช่ภาวนา เป็นพิจารณาไป
จากหนังสือ📒พ่อรักลูก เล่ม ๒ โดย พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ)​ วัดท่าซุง หน้า ๘๐-๘๒ 🔔 เพจคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ✏️ สุวิทย์ ยิ้มสำราญ
นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาทั้งภาพพระพุทธเจ้าภาพหลวงพ่อปาน ภาพโครงกระดูกปรากฏผสมผสานกัน ท่านเห็นคนเดินมา เห็นเป็นกระดูกเดินหมด ไม่เห็นเนื้อเลย จิตใจมันจับเข้าถึงโครงกระดูกไม่เห็นเนื้อเลย จนกระทั่งเกิดความ สะอิดสะเอียน ในร่างกายของคนและสัตว์ได้ชัด ความปรารถนาในเพศไม่มีเพราะจิตมันรังเกียจ หมายความว่าในขณะนั้นนอกจากจะภาวนากระดูกสกปรกแล้ว ยังเห็นว่ามันเป็นอนิจจัง เป็นของไม่เที่ยง ความจริงมันมีเนื้อมีหนัง เวลานี้เนื้อหนังมันหมดไปแล้วมันก็เป็นอนัตตา ถ้าเราติดอยู่ในมันเราก็มีความทุกข์ จิตก็เริ่มมีความสุข เข้าถึงนิพพิทาญาณ​ มีความเบื่อหน่ายในสังขารของตนเอง เบื่อหน่ายในสังขารของบุคคลอื่น และ เบื่อหน่ายในสังขารของทั้งหมด เป็นอันว่าจิตกำหนดไว้อย่างเดียวว่า "ร่างกายอย่างนี้เราไม่ต้องการมี" เรียกว่า "นิพพิทาญาณ"
โฆษณา