18 ก.พ. 2022 เวลา 11:29 • ไลฟ์สไตล์
🔃 เป็นเพราะเปิด "โอกาส"
ให้ตัวเองขับรถยูเทิร์น
วนกลับมาหาร้านกาแฟที่ขับเลยไป
ร้านกาแฟและแฮมเบอร์เกอร์ ค.ควาย
🤝 จึงทำให้ได้สัมผัสคำว่า "โอกาส" หลากหลายมุมกลับมาอย่างคุ้มค่า...
เมื่อช่วงต้นปี 2565 ผมมีโอกาสเข้าไปนั่งดื่มกาแฟครั้งแรก ที่ร้าน ชื่อ ค.ควาย
ซึ่งตั้งอยู่แถบฝั่งตรงข้าม ร.พ.พระนั่งเกล้า อ.เมือง จ.นนทบุรี เยื้อง ๆ วัดแจ้งศิริสัมพันธ์
หลังจากพลาด "โอกาส"
มาหลายครั้ง นับตั้งแต่ขับรถผ่านมาย่านนี้ และเห็นร้านนี้ครั้งแรก เมื่อช่วงปลายปี 2564
🐃 : ตราประจำร้าน
และแม้แต่ครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มาดื่ม ก็เกือบจะพลาดไปอีกครั้ง หากไม่เปิด "โอกาส" ให้ตัวเองขับรถยูเทิร์น วนกลับมาหาร้านอีกครั้ง
เมื่อมาถึง แล้วเดินเข้าไปภายในร้าน สัมผัสแรกที่รู้สึกได้ คือ การให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุค หวลกลับไปหาภาพความทรงจำวันวาน
ย้อนยุคไปหา...
ผ่านวัสดุหลากหลาย อาทิ กระป๋องไมโล โอวัลติน โกโก้ และกระป๋องใส่ลูกอมฮอลล์
รวมทั้ง นวนิยายเก่าแก่ กล้องถ่ายรูป วิทยุเล่นเทปคาสเซ็ท
...ความทรงจำวันวาน
และผ่านข้อคิดสะกิดใจที่เป็นอมตะและมีความหมายหลายข้อความ
สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ตรงกับบางข้อความมาบ้าง
อาจจะจินตนาการและสร้างอารมณ์ร่วมได้เร็วขึ้นเป็นต้นว่า
"อย่านอนตื่นสาย
อย่าอายทำกิน
อย่าหมิ่นเงินน้อย
อย่าคอยวาสนา"
คาถาประจำร้าน
"ข้าพเจ้ามิได้ชมชอบรสชาติของสุรา
แต่ข้าพเจ้าชมชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา"
สำนวนของโกวเล้ง
"อันเพื่อนดี มีหนึ่ง
ถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา"
คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ
และ...
"เหล้าและการพนัน ไม่เคยทำให้ใคร ตั้งตัวอยู่ได้เลย"
ถ้อยคำในจานสังกะสีเก่า
นอกเหนือจากบรรยากาศย้อนยุคแล้ว จุดเด่นของร้าน อยู่ที่การขายกาแฟสด ชาแดงและชาเขียว
ในราคา 29 บาท เท่ากัน ทุกแก้ว ทุกรสชาติ ทั้งร้อนและเย็น
ส่วนชื่อของร้าน ที่ใช้คำว่า ค.ควาย และเรียกอีกชื่อว่า ค.พานิชย์ โดยใช้ ควาย เป็นสัญญลักษณ์ของร้าน นั้น
ไม่ได้มีความหมายอะไรซับซ้อน เพียงต้องการสื่อให้เห็นถึงความใส ซื่อ และความอึด อดทน ตามแบบฉบับของ ควาย ประมาณนั้น
ค.ควาย
ค.พานิชย์
ซึ่งน่าจะตรงกับบุคลิกบางส่วนของพี่ณุ เจ้าของร้าน ที่แม้จะยุ่ง ก็ยังเจียดเวลาเล่าให้ผมฟังอย่างน่าสนใจว่า...
ความพร้อม+ความตั้งใจ = ไม่พลาดโอกาส
กว่าที่จะลงตัวกับการเปิดร้านกาแฟร้านนี้มาเป็นเวลา 2 ปี ได้ผ่านการต่อสู้ ลองผิด ลองถูก จากการขายเครื่องดื่มมาหลายประเภทในตลาดนัดต่าง ๆ และตลาดจตุจักร
พร้อมทั้งเปิด "โอกาส" ให้ตัวเอง ด้วยการเรียนรู้ และฝึกฝนการชงกาแฟ มาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมไว้รอทำร้านกาแฟ
ในวันข้างหน้า
เมื่อ "โอกาสมาถึง" จะได้ไม่ "เสียโอกาส" หรือ "พลาดโอกาส" นั้นไป
เพียงเพราะขาดความพร้อมเนื่องจากชงกาแฟ
ไม่เป็น บวกกับความลังเลที่เป็นตัวฉุดรั้งการตัดสินใจ
ซึ่งจะทำให้
"โอกาสที่เข้ามานั้น"
หลุดลอยไป และกลับมาอีกครั้งได้ยาก หรือไม่กลับมาเลย
คอกาแฟหลากหลายวัย
👨‍💻 เป็นอย่างไรบ้างครับกับมุมมองของ "โอกาสผ่านร้านกาแฟ"
และเพื่อมิให้ "โอกาส" อ่านหลุดลอยไป (ฮา) ลองเปิด "โอกาส" ให้ตัวเอง
อ่านเรื่องอีกมุมหนึ่งของ "โอกาสผ่านร้านแฮมเบอร์เกอร์" ต่อเนื่องกันไปนะครับ 👇
✍ ร้านกาแฟ ค.ควาย ร้านนี้ นอกจากจะให้บริการกาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อม คุ้มค่าเกินราคาแล้ว
ยังมีพื้นที่มุมเล็ก ๆ ด้านหน้าร้าน เปิดเป็นร้านทำ แฮมเบอร์เกอร์ขาย เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ด้วย
โดยขายแฮมเบอร์เกอร์
ในราคา 39 บาท ฮอตดอก และมันบดในราคาเท่ากัน 29 บาท 🍔🌭
ครั้งแรก ที่ผมแวะไปเป็นวันธรรมดา
จึงพลาดโอกาสที่จะชิมแฮมเบอร์เกอร์ คู่ไปกับกาแฟอย่างน่าเสียดาย
จนมาครั้งหลัง ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.65
จึงได้มีโอกาสชิม...
อร่อยถูกใจ สมกับที่รอคอย
แต่ที่ถูกใจยิ่งกว่านั้น ก็ตรงที่ได้ชะโงกเข้าไปในร้าน
แล้วเห็นเด็กน้อย วัย 12 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.6 (โปรแกรม 2 ภาษา ไทยและอังกฤษ)
กำลังช่วยคุณพ่อในร้านทำแฮมเบอร์เกอร์ และฮอตดอก อย่างตั้งอก ตั้งใจ
โดยทำหน้าที่คอยใส่ผัก พร้อมเครื่องปรุงอื่น ๆ รวมทั้งซอส
ลงในแฮมเบอร์เกอร์ และฮอทดอก ก่อนที่จะห่อด้วยกระดาษ
คล่องทั้งซ้าย ขวา
ส่งให้ลูกค้าทั้งที่ซื้อกลับบ้าน และซื้อกินในร้าน ด้วยความคล่องตัวเกินวัย
จะติดขัดอยู่บ้างนิดหน่อยก็ตรงที่น้องยังพูดภาษาไทย ไม่แข็งแรงเท่ากับภาษาอังกฤษ
เนื่องจากเป็นลูกครึ่งที่มีคุณแม่เป็นชาวจีนเกิดในมาเลเซีย
และมีคุณพ่อเป็นคนไทย ที่ไปใช้ชีวิตและทำงานที่สหรัฐอเมริกามาระยะหนึ่ง ในธุรกิจเรือท่องเที่ยว
จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อบุตรชายวัย 12 ขวบ ว่า ครูส ซึ่งมาจากคำว่า Cruise ที่แปลว่า เรือท่องเที่ยว หรือเรือสำราญ ⛴
ในจังหวะที่ผมกำลังพูดคุยกับคุณพ่อในหลาย ๆ เรื่องอย่างออกรสอยู่นั้น
ผมชำเลืองเห็นน้องครูส
เดินเข้าไปหาลูกค้าซึ่งเป็นคุณพี่ที่มาด้วยกัน และลูกค้าท่านอื่น ๆ ในร้าน
รับคำติชมจากลูกค้า
เมื่อสอบถามคุณพี่ที่มาด้วยกันว่า...น้องครูสเข้ามาพูดคุยอะไรครับ ?
ได้รับคำตอบว่า น้องมาถามถึง...
รสชาติของแฮมเบอร์เกอร์ว่า เป็นอย่างไรบ้าง ?
เพื่อรับคำติชม นำไปปรับปรุงแก้ไข
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชมเชย แต่ผมก็แอบคิดสงสัยในใจว่า
คุณลักษณะแบบนี้ของน้องครูส เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แบบ by heart หรือ born to be
หรือมีใคร ผู้ใด ทำหน้าที่เป็นครูผู้ชี้แนะบอกทางให้เดิน....🤷
เพื่อคลายความสงสัย
ผมจึงหันมาตั้งคำถามจริงกับคุณพ่อว่า...
ทำไมน้องครูส จึงกล้าเดินเข้าไปถามลูกค้าถึงรสชาติของแฮมเบอร์เกอร์ ครับ...
ซึ่งคุณพ่อเล่าเฉลยให้ฟังถึงที่มาอย่างน่าสนใจว่า...
ปกติคุณพ่อ มีอาชีพเป็นอาจารย์สอนการทำอาหารในระดับปริญญาตรีอยู่ที่วิทยาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง
บรรยากาศวันหยุด
แล้วใช้เวลาในวันหยุดเสาร์ และอาทิตย์ มาทำแฮมเบอร์เกอร์ขายในร้านกาแฟ ค.ควาย ที่เป็นญาติพี่น้องกัน
นัยหนึ่งเพื่อ...
1. อุดช่องว่างจากการสอนทางทฤษฎีอย่างเดียวมาสู่ภาคปฏิบัติควบคู่ไปด้วย
และอีกนัยหนึ่งเพื่อ...
2. เปิดบานหน้าต่างให้ลูกชาย คือ ครูส ได้มีโอกาสเรียนรู้โลกจริงที่ต่างไปจากห้องเรียน และได้ฝึกลองผิด ลองถูก จากการฝึกทำจริง
น้องครูสยืนรับออเดอร์ @ ริมหน้าต่างร้าน
โดยเฉพาะการเรียนรู้ข้อผิดพลาดในเรื่องเล็ก ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ดี
และจดจำได้นาน เมื่อเทียบกับบทเรียนจากข้อที่สมหวัง
🧑‍🏫 แล้วมีข้อผิดพลาดที่เป็นบทเรียนสำคัญบ้างหรือยังครับ? ผมรุกถามต่อ
คุณพ่อตอบทันทีว่า...
มีแล้วครับ และเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง เพราะมีอยู่วันหนึ่ง แฮมเบอร์เกอร์ที่ทำขาย มีรสเค็มกว่าปกติ
โดยทราบจากลูกค้าขาประจำที่รับประทาน
แล้ว เดินมาบอกว่า...
ทำไมวันนี้ แฮมเบอร์เกอร์รสเค็มจัง
เมื่อตรวจสอบรสชาติซ้ำด้วยตัวเอง จึงพบว่า เค็มจริง ๆ และพอมาค้นหารายละเอียด
จึงทราบว่า เกิดข้อผิดพลาดในขั้นตอนการผสมเกลือกับเนื้อหมู ที่มอบหมายให้น้องครูส ทำเองมาหลายครั้งแล้ว
แต่ครั้งนี้น้องครูส ใส่เกลือผิดไปจากสัดส่วนตามสูตรที่กำหนด
ซึ่งข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้ คุณพ่อเองก็ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
เพราะลืมชิมหรือทดสอบรสชาติของแฮมเบอร์เกอร์ อย่างที่เคยทำในทุกครั้ง
จึงทำให้ทั้งคุณพ่อและลูกที่มีวัยต่างกัน ได้มี 👨‍👦 "โอกาส" เรียนรู้หาแนวทางการแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน
ดังนั้น คำถามที่น้องครูสถามลูกค้าว่า
"รสชาติของแฮมเบอร์เกอร์เป็นอย่างไรบ้างครับ ?"
จึงเป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ไขปัญหาที่คุณพ่อมอบหมายหน้าที่ให้ครูส ทำเพิ่มเติม 🤔
ซึ่งจะช่วยให้ทราบทั้งรสชาติของแฮมเบอร์เกอร์ที่แท้จริง
และตระหนักถึงรสชาติของความผิดพลาดที่ไม่สามารถนำหมูบด ซึ่งรสเค็มเกินปกติในครั้งนั้นมาใช้ทำแฮมเบอร์เกอร์ขาย ประมาณ 7-8 กิโลกรัม
ทั้งนี้ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น อาจเป็นบทเรียนราคาแพง ถ้าเรานำไปเปรียบเทียบกับราคาหมูในปัจจุบัน 🐖
แต่จะเป็นบทเรียนที่สำคัญและประสบการณ์ที่คุ้มค่าให้น้องครูส ได้มี "โอกาสเรียนรู้และฝึกแก้ไขข้อผิดพลาด" 🪂
อันจะเป็นทักษะพื้นฐานติดตัวไปตั้งแต่เยาว์วัย สำหรับใช้ในการเรียนและดำเนินชีวิตในอนาคต
ในขณะที่ตัวคุณพ่อเองก็มี "โอกาสได้เรียนรู้" ร่วมกับลูกชายไปพร้อมกัน
ในบทเรียนบทที่พี่ณุมาช่วยเติมเต็มในถ้อยคำว่า...
"ผิดเป็นครู ที่เรียนรู้จากการลงมือทำ(จริง)"
ความถูกไม่ค่อยเป็นครูหรอก เป็นบ้างเหมือนกันแต่น้อย.. (พุทธทาสภิกขุ)
🙏 ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน
พี่ณุ คุณพ่อน้องครุส และน้องครุส มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
มุมชัย นัยสอิ้ง
1
โฆษณา