"เนื้อคู่มีอยู่จริงหรือไม่?"
คุณเชื่อในรักแท้รึเปล่า? หากคุณเชื่อในรักแท้ คุณเคยสงสัยไหมว่า แล้วเนื้อคู่ของเราอยู่ที่ไหน? อยู่ถัดไปไม่กี่ซอยถนนหรืออยู่คนละซีกโลก? เกิดแล้วหรือยัง? หรือยังไม่เกิด? แล้วจะได้เจอกันเมื่อไหร่ อีกสิบวันหรืออีกสิบปี? ก่อนจะไปพูดถึงคำตอบของคำถามเหล่านี้ คุณเคยได้ยินเรื่องทฤษฎีความเข้ากันได้หรือไม่?
ทฤษฎีความเข้ากันได้ ( Couplenius Theory ) เป็นทฤษฎีที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยนักมานุษยวิทยาชื่อดังชาวอังกฤษ ดร.เมดิสัน มอนเวย์ (Dr.Medison Monway) ซึ่งใจความหลักของทฤษฎีนี้ได้กล่าวเอาไว้ว่า คนแต่ละคนนั้นมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน จึงมีความเข้ากันได้ที่ต่างกัน แต่เมื่อไหร่ที่ได้เจอความเข้ากันได้ที่สมบูรณ์นั่นจะเรียกว่าเนื้อคู่ก็ยังได้
หากจะอธิบายให้เห็นภาพ ลองสมมุติว่า มีคนสี่คน ชื่อ A, B, C และ D ตามลำดับ
เอกลักษณ์ของ A ก็คือ 0001 0001 11 รหัสความสมบูรณ์คือ 0000 0000 11
เอกลักษณ์ของ B ก็คือ 1110 1110 11 รหัสความสมบูรณ์คือ 0000 0000 11
เอกลักษณ์ของ C ก็คือ 1111 1111 11 รหัสความสมบูรณ์คือ 1111 1111 00
เอกลักษณ์ของ D ก็คือ 0000 0000 00 รหัสความสมบูรณ์คือ 0000 0000 00
โดยที่เลขทั้ง 10 หลักนั้นก็จะเป็นสิ่งแทนเอกลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิสัย ความคิด หน้าตา ศีลธรรม รวมไปถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวอื่นๆ โดยที่คนแต่ละคนนั้นก็จะมีรหัสความเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น A ที่มีรหัสความสมบูรณ์ คือ 0000 0000 11
( 0*1 = 0 , 1*1 = 1 )
หาก A ได้คู่กับ B (0001 0001 11 * 1110 1110 11) ก็จะได้รหัสความสมบูรณ์ 0000 0000 11
ซึ่งรหัสความสมบูรณ์ของทั้งคู่ตรงกันทั้ง 10 หลัก ซึ่งนี่คือความเข้ากันได้ที่สมบูรณ์ นั่นหมายความว่า
A และ B ก็คือเนื้อคู่กัน
หาก A ได้คู่กับ C ( 0001 0001 11 * 1111 1111 1111) ก็จะได้รหัสความสมบูรณ์ 0001 0001 11
ซึ่งความเข้ากันได้ของ A ต่อ C คือ 80% ส่วนความเข้ากันได้ของ C ต่อ A คือ 20% เท่านั้น นั่นหมายความว่า แม้ A จะสามารถอยู่กับ C ได้ แต่ C อาจจะไม่สามารถอยู่กับ A ได้ จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่ C จะเป็นฝ่ายที่ถอนความสัมพันธ์ไปจาก A
หาก A ได้คู่กับ D ( 0001 0001 11 * 0000 0000 00 ) ก็จะได้รหัสความสมบูรณ์ 0000 0000 00
ซึ่งความเข้ากันได้ของ A ต่อ D คือ 80% ส่วนความเข้ากันได้ของ D ต่อ A คือ 80% เช่นกัน ดังนั้นแม้รหัสความสมบูรณ์ของทั้งคู่จะไม่ตรงกัน 100% แต่ความเข้ากันได้ถึง 80% ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งคู่สามารถรักษาความสัมพันธ์ไปได้ตลอดรอดฝั่งได้ ซึ่งความสัมพันธ์ของคนส่วนใหญ่บนโลกเป็นแบบ A และ D
ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่มีรหัสความสมบูรณ์ตรงกันกับเรานั้น ไม่จำเป็นต้องมีคนเดียวเสมอไป นั่นหมายความว่าเนื้อคู่ของคุณอาจจะไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่ถึงยังไงการที่จะได้พบเจอกับเนื้อคู่ก็มีโอกาสน้อยแสนน้อยอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการจะได้เจอเนื้อคู่คนที่สองหรือสาม
ดร.เมดิสัน ยังได้บอกไว้อีกว่า เมื่อคุณได้เจอเนื้อคู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะได้เลิกลาจากกันไป เพราะพวกคุณทั้งคู่จะรับรู้ได้แล้วว่า ไม่มีใครจะเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ไปมากกว่าอีกฝ่าย ทำให้ต่อให้พวกคุณจะต้องจากกันไป ท้ายที่สุดพวกคุณจะต้องหวนกลับมาเจอกันอยู่ดี
สำหรับคำตอบของคำถามที่ว่า เนื้อคู่ของเราอยู่ที่ไหน? อยู่ถัดไปไม่กี่ซอยถนนหรืออยู่คนละซีกโลก? เกิดแล้วหรือยัง? หรือยังไม่เกิด? แล้วจะได้เจอกันเมื่อไหร่ อีกสิบวันหรืออีกสิบปี? คงไม่มีใครสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้นอกซะจากพระเจ้า
สิ่งเดียวที่เราพอจะทำได้เพื่อจะตามหารักแท้ของตัวเองก็คงเป็นการพาตัวเองออกไปท่องโลกกว้าง การไปยังสถานที่ใหม่ๆ เพื่อพบเจอผู้คนใหม่ จะทำให้เรามีโอกาสได้เจอกับเนื้อคู่ของเรามากยิ่งขึ้น หากคุณมัวแต่อุดอู้อยู่ในห้องคงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้พบเจอกับรักแท้ของตัวเอง
สุดท้าย หากคุณยังเป็นหนึ่งในคนที่ยังหารักไม่พบก็อย่าพึ่งท้อไป ความรักนั้นไม่ใช่การพยายามที่จะมี ไม่ใช่การกระทำความดี ไม่ใช่ความเป็นเหตุเป็นผล มันคือเรื่องของความรู้สึกและหัวใจ คุณแค่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อถึงเวลา เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม คุณจะได้พบกับรักของคุณเอง
**หมายเหตุ บทความนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นจินตนาการของผู้เขียนล้วนๆ **
ทฤษฎีความเข้ากันได้ ( Couplenius Theory ) ไม่มีอยู่จริง
ดร.เมดิสัน มอนเวย์ (Dr.Medison Monway)
ไม่มีอยู่จริง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
