เศรษฐีบิตคอยน์อายุน้อยที่สุดวัย 18 ปี
อีริก ฟินแมน ออกจากโรงเรียนตามที่ครูบอก
แล้วซื้อบิตคอยน์สะสมมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้มี 164 ล้านบาท
(ERIK Finman) เด็กอายุ 18 ปี ที่กลายเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดที่ถือครองบิตคอยน์ หลังจากลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยในปี 2011 นั้นเขาซื้อบิตคอยน์ 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งตอนนั้นบิตคอยน์อยู่ในราคา 10 ดอลลาร์ หรือประมาณ 300 บาท โดยซื้อมาทั้งหมดจำนวน 100 บิตคอยน์
.
จากหลักร้อยกลายเป็นร้อยล้านในเวลาเกือบ 10 ปี ล่าสุดเมื่อปี 2020 เขามีมูลค่าทรัพย์สินในบิตคอยน์กว่า 5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 164 ล้านบาท ปัจจุบันอีริกอายุ 22 ปี
อิริกมองเห็นอะไรในบิตคอยน์ตั้งแต่เด็ก ทำไมถึงลงทุนในนั้น?
.
ในบทสัมภาษณ์ของอีริก แรกเริ่มที่เขากล้าตัดสินใจลงทุนในบิตคอยน์ ในวัย 12 ปี เพราะเขาได้ไปงานประท้วงวิกฤติการเงินในที่วอชิงตันดีซี กับพี่ชาย และได้เห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อบิตคอยน์ เขาสะดุดตามาก จึงถามว่ามันคืออะไร และเริ่มศึกษาเรื่องบิตคอยน์ ทำให้เขาได้เห็นอนาคตของมัน ว่ามันจะมาเปลี่ยนแปลงเงินในปัจจุบันได้
.
ซึ่งในตอนนั้นอีริก ก็ได้ออกจากโรงเรียนเพื่อเดิมพันกับตัวเอง เขากล่าวว่า “ผมไม่ชอบเรียนในโรงเรียนเลยจริง ๆ ผู้คนไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำและใฝ่ฝัน มีครูคนหนึ่งเคยบอกผมว่า ลาออกแล้วไปทำงานแมคโดนัลซะ เพราะผมไม่มีค่าอะไรไปมากกว่านี้แล้ว”
.
"ซึ่งผมก็ลาออกจริงๆ และเดิมพันกับพ่อแม่ ถ้าผมทำเงินได้ล้านดอลลาร์ ตอนอายุ 18 ผมจะไม่กลับไปเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยอีก" เขากล่าว
หลังจากลงทุน อีริกเริ่มได้กำไรจากบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้น เขาเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ จากห้องนอนตัวเอง จากคำดูถูกของครูที่กล่าวหาว่าคนอย่างเขาไม่มีทางมีการศึกษาที่ดีได้ “เขาจึงดึงเงินจำนวนมากเพื่อมาลงทุนในสตาร์ทอัพด้านการศึกษา ชื่อว่า Botangle เขาบอกว่า ผมจ้างผู้รับเหมา นักแปล โปรแกรมเมอร์ พนักงานโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าผมอายุ 15 ปี”
ธุรกิจนี้สามารถเรียนโดยจับคู่ผู้สอนและผู้เรียนที่เหมาะสมกันได้ จากคนทั่วทุกมุมโลก
.
หากจะไล่สิ่งที่อีริกทำ คงยาวมาก จึงขอเล่าแบบคร่าว ๆ
.
-เมื่ออายุ 17 ปี ได้ขายธุรกิจนี้ไป
-อายุ 18 กลายเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดที่ถือครองบิตคอยน์
-อายุ 19 ทำงานร่วมกับ ภาพยนต์สไปเดอร์แมน เป็นผู้ออกแบบชุดตัวละคร ดร. Octopus
-อายุ 20 ผลิตดาวเทียม
-อายุ 21 สร้างบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี
.
หรือ Metal ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพใน Silicon Valley ที่สร้างสกุลเงินดิจิทัลและมาพร้อมกับ crypto-wallet เพราะอีริกมองขาดว่า มันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเข้าสู่คริปโตของอเมริกา
.
และทำธุรกิจ Freedom Phone ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่ไม่ถูกควบคุมจาก apple และ google เพราะมันไม่ติดเซนเซอร์ ตำแหน่ง หรือสอดแนมการเล่นมือถือของเรา อีริคนนำกำไรจากการลงทุนในบิตคอยน์มาต่อยอดสร้างธุรกิจในฝันของตนเองมากมาย
วิสัยทัศน์ในวัยเด็กส่งผลให้อีริก ร่ำรวยมหาศาลจากสิ่งที่เขาสนใจ ซึ่งการตัดสินใจลงทุนในวัยเด็กนั้นต้องยอมรับว่าไม่ง่ายเลย ที่จะแบกรับความกดดันจากคนรอบข้าง
.
เมื่อเราไม่สามารถรู้อนาคตของเทคโนโลยีใหม่ผ่านอดีตเดิมที่ผ่าน ๆ มาได้ สิ่งเดียวที่พอจะชี้ขาดได้ก็น่าจะเป็น ความเชื่อมั่นและความซื่อสัตย์ต่อความชอบของตนเอง
.
.
.
ขอบคุณข้อมูลเรียบเรียงโดย Facebook : 100WEALTH
.
.
#Cryptocurrency
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน
#SERVgroup
.
อ้างอิง
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
