3 ก.พ. 2022 เวลา 03:19 • ประวัติศาสตร์
10 อันดับ เพชรที่แพงที่สุดในโลก
อันดับ 10 The Orange – 32 ล้านยูโร
เพชรสีส้มสดใสขนาด 14.82 กะรัตนี้ทำลายสถิติโลกเมื่อขายได้ในราคา 32 ล้านยูโรในปี 2013 โดยทั่วไปเพชรสีชมพูและสีน้ำเงินเป็นที่ต้องการมากที่สุด แต่อัญมณีที่หายากชิ้นนี้ทำให้โลกประหลาดใจด้วยขนาดและความงามของสีส้ม
อันดับ 9 The Princie – 33 ล้านยูโร
เพชรสีชมพูขนาด 34.54 กะรัตนี้เป็นที่รู้จักกันมานานกว่า 300 ปีแล้วหลังจากถูกค้นพบในเหมือง Golconda ในอินเดีย มันถูกซื้อมาจากตระกูลไฮเดอราบัดในปี 1960 โดยช่างอัญมณี Van Cleef & Arpels ผู้ตั้งชื่อมันว่า Princie หลังจากลูกชายของ Sita Devi มหาราชาแห่ง Baroda ผู้อยู่อาศัยสังคมที่หรูหราและมีชื่อเสียงในปารีส
อันดับ 8 Graff Vivid Pink – 38.7 ล้านยูโร
เพชรรูปสี่เหลี่ยมขนาด 24.78 กะรัตซึ่งจัดโดยสถาบันอัญมณีแห่งอเมริกาในชื่อ “สีชมพูสดใสแฟนซี” โดยราชาแห่ง Bling ซื้อเพชรซึ่งใช้ประดับบนหัวแหวนเป็นเงิน 38.7 ล้านยูโร
อันดับ 7 Pink Star – 60.7 ล้านยูโร
ความงามสีชมพูสดใสนี้เคยเป็นที่รู้จักในนาม Steinmetz Pink เป็นเพชรสีชมพูที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบโดย Gemological Institute of America จัดเพชรนี้ในหมวดสีชมพูเข้มสดใส ซึ่งเพชรขนาด 59.60 กะรัตเม็ดนี้ ถูกเสนอซื้อโดย Isaac Wolf ในปี พ.ศ. 2557 ด้วยราคา 60.7 ล้านยูโร แต่ภายหลังกลับกลายเป็นว่าผู้ซื้อไม่สามารถจ่ายค่าเพชรได้ ทำให้ปัจจุบันคาดว่าเพชรเม็ดนี้จะมีมูลค่าอยู่ที่ 60.7 ล้านยูโร
อันดับ 6 Wittelsbach Graff – 67.4 ล้านยูโร
Wittelsbrach Graff เป็นเพชรสีน้ำเงินที่สวยงามที่ค้นพบในอินเดียเมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว เพชรขนาด 35.56 กะรัตเม็ดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของอัญมณีบนมงกุฎออสเตรียมาระยะหนึ่ง หลังจากนั้นลอเรนซ์เกรฟได้ซื้อต่อมา นักอัญมณีมีใบมีดตัดเพชรเพื่อลบข้อผิดพลาด ทำให้เกิดความเชื่อว่าจะทำให้คนที่ครอบครองไม่มีความสุข จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2011 เพชรได้ถูกขายให้กับเจ้าชายกาตาร์นาม Sheikh Hamad bin Chalifa เป็นเงิน 67.4 ล้านยูโร
อันกับ 5 The de Beers Centenary Diamond – 84.2 ล้านยูโร
เพชรไร้สีเม็ดนี้ถูกตั้งชื่อตามเหมืองแร่รวมของบริษัท de Beers โดยถูกจัดประเภทด้วยเพชรเกรด D (ขาว 100%) ที่ไม่มีสีในระดับสูงสุด ซึ่งหมายถึงมันไร้ตำหนิทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งมันยังมีน้ำหนักถึง 273.85 กะรัต หลังจากเจียระไนจากเพชรดิบที่มีน้ำหนัก 599 กะรัต
อันดับ 4 The Hope Diamond – 250 ล้านยูโร
เพชรขนาด 45.52 กะรัตลึกลับเม็ดนี้ ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นสีน้ำเงิน แต่ถ้าอยู่ภายใต้แสงอุลตร้าไวโอเลต จะมีลักษณะเป็นสารเรืองแสงสีแดง เชื่อกันว่าถูกสาปนำความโชคร้ายมาให้กับทุกคนที่เป็นเจ้าของ ตำนานเล่าว่ามันถูกขโมยมาจากรูปปั้นของชาวฮินดู และเมื่อนักบวชค้นพบพวกเขาสาปแช่งเพชร ปัจจุบันเพชรเม็ดนี้ถูกจัดแสดงอยูภายในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติสมิธโซเนียนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
อันดับ 3 The Cullinan – 337 ล้านยูโร
เป็นเพชรดิบที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบมา แม้มันจะถูกเจียระไนแล้ว มันก็ยังคงมีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยน้ำหนักถึง 530.2 กะรัต และได้รับการขนานนามว่า “The Great Star of Africa” ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมงกุฎเพชรแห่งราชวงศ์อังกฤษ
อันดับ 2 The Sancy – ไม่รู้ราคา
เพชรสีเหลืองเม็ดนี้เป็นส่วนหนึ่งของอัญมณีบนมงกุฎของราชวงศ์ฝรั่งเศส และถูกจัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในปารีส มันเคยมีเจ้าของมากมาย มันถูกตั้งชื่อตาม Nicolas de Harlay, Seigneur de Sancy, ทหารฝรั่งเศสและนักการทูตจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งเพชรสีเหลืองอ่อนเม็ดนี้มีน้ำหนัก 55.23 กะรัตและมีรูปร่างเหมือนโล่ เนื่องจากมันเป็นเพชรหายากและมีราคาแพง ทำให้จนถึงปัจจุบันยังไม่ทราบมูลค่าที่แน่นอน
อันดับ 1 Koh-i-Noor – แพงจนไม่มีป้ายราคาติด
เพชรสีขาวที่ดีที่สุดน้ำหนัก 105.6 กะรัต ถูกเปลี่ยนมือหลายครั้งนับตั้งแต่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1294 ผู้ปกครองชาวซิกข์โมกุลและชาวเปอร์เซียล้วนต่างเคยเป็นเจ้าของ และภายหลังก็ได้สูญเสียความครอบครองจากการแพ้สงครามให้กับบริษัท บริติชอินเดียตะวันออก ในปี ค.ศ. 1850 โดยชื่อของเพชร Koh-i-Noor มีความหมายในภาษาเปอร์เซียว่า “ภูเขาแห่งแสง” ปัจจุบันเพชรเม็ดนี้กลายเป็นถูกประดับอยู่บนมงกุฎของราชวงศ์อังกฤษ เพชร Koh-i-Noor เม็ดนี้ไม่สามารถตีราคาได้ แต่ประเมินกันว่ามันมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านยูโร
โฆษณา